COVID-19

สธ.อธิบายชัด แบบไหนเรียก ‘สัมผัสเสี่ยงสูง’ แย้มรอข่าวดีวัคซีนโควิด พรุ่งนี้

สธ. เปิดลักษณะ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จากกรณีดีเจมะตูมติดโควิด คนถามเข้ามาเพียบ เผย อ.ยิ่งศักดิ์ร่วมถ่ายรายการ ผลตรวจเป็นลบ แย้มพรุ่งนี้ รอฟังข่าวดีวัคซีน

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากกรณี ดีเจมะตูม ประกาศติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งทำให้มีผู้สัมผัสดีเจมะตูม สอบถามเข้ามาจำนวนมากถึงความเสี่ยงในการติดเชื้อ ซึ่งพบว่า จากการให้ไทม์ไลน์อย่างละเอียด ทำให้การสอบสวนโรคและติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เป็นไปได้ง่ายขึ้น

cell virus ๒๑๐๑๒๑ 1

ทั้งนี้ จากไทม์ไลน์ พบว่า ดีเจมะตูม เกิดการติดเชื้อโควิด ในวันที่ 9 มกราคม 2564 จากการรับประทานอาหารกับเพื่อน ดังนั้น ผู้ที่ต้องระวังว่าเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง คือ ผู้ที่สัมผัสกับดีเจมะตูม ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม เป็นต้นไป ซึ่งหนึ่งในนั้ันคือ อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์  ที่ถ่ายรายการร่วมกับดีเจมะตูม และผลตรวจออกมาแล้วว่า ไม่ติดเชื้อ

ดังนั้น จึงขอแนะนำว่า ผู้ที่เข้าข่าย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง มีดังนี้

  • มีการไอ จาม ใส่กัน
  • พูดคุยใกล้ชิดกัน 5 นาที
  • อยู่ในห้องที่ระบบอากาศไม่ถ่ายเทร่วมกัน 15 นาที
  • ไม่สวมหน้ากากอนามัย

ทั้งนี้ หากพบว่า เข้าข่ายเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ต้องกักตัวเอง 14 วัน และตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัตการอย่างน้อย 2 ครั้ง

นพ.โอภาส 1
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์

นอกจากนี้ ยังแนะนำให้กองถ่ายรายการ การถ่ายทำรายการ หรือสถานีโทรทัศน์ รวมถึงการสัมภาษณ์ ควรปรับระบบอากาศในห้อง ให้มีการถ่ายเทได้ ใช้มาตรการเว้นระยะห่าง ลดการสัมผัส และทำความสะอาดอุปกรณ์ทุกครั้ง

นพ.โอภาสยังกล่าวถึงกรณีข่าวแพร่บนโลกออนไลน์ ว่าพบผู้ติดเชื้อ ที่วัดสังฆทาน จ.นนทบุรี 300 คนว่า ไม่เป็นความจริง ความจริงคือ เป็นการออกตรวจเชิงรุกของกระทรวงสาธารณสุข โดยทำการตรวจคัดกรองคนไทย 104 คนต่างด้าว 51 คน และอยู่ระหว่างรอผล ดังนั้น ขอความร่วมมืออย่าแชร์ต่อข่าวดังกล่าว

ส่วนสถานการณ์โควิด ประเทศไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อใหม่ยืนยัน 142 ราย มาจากต่างประเทศ 17 ราย ตรวจพบในระบบบริการหรือติดเชื้อในประเทศ 88 ราย และจากการคัดกรองเชิงรุก 37 ราย

“สิ่งที่แตกต่างกันระหว่างการระบาดระลอกแรก กับระลอกใหม่ คือ อัตราป่วยตาย รอบแรกอยู่ที่ 1.42% รอบนี้ 0.13% ซึ่งลดลง 10 เท่า เพราะมีความรู้ ความพร้อมด้านเวชภัณฑ์ ประชาชนระวังตัวมากขึ้น ทำให้เข้าสู่ระบบการรักษาเร็วขึ้น”นพ.โอภาส กล่าว

พร้อมกันนี้ ขอเน้นย้ำว่า การให้ไทม์ไลน์สำคัญมาก เพราะทำให้สามารถสอบสวนโรคได้รวดเร็ว ตามหาผู้สัมผัสได้ง่ายขึ้น เพื่อมาสู่กระบวนการตรวจคัดกรอง นำเข้าสู่ระบบการรักษา และควบคุมการแพร่ระบาดได้เร็วขึ้น

นพ.โอภาส กล่าวปิดท้ายถึงเรื่องวัคซีนว่า พรุ่งนี้ให้รอฟังข่าวดีเรื่องวัคซีน จากกระทรวงสาธารณสุข

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo