COVID-19

โควิด ‘ศรีราชา’ พุ่ง 253 คน สธ. แกะรอยโรงเบียร์ศรีราชา 90 ซ้ำรอย ‘วอร์มอัพ’

โควิดศรีราชา พุ่ง 253 คน สธ. แกะรอยแหล่งแพร่เชื้อ มาจากโรงเบียร์ศรีราชา 90 บ่อนการพนัน ผับบาร์ญี่ปุ่น วอนอย่าเข้าสถานที่ปืด อากาศไม่ถ่ายเท เสี่ยงติดเชื้อง่าย

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อ โควิด ศรีราชา พุ่ง 253 คน จากการสอบสวนโรคพบว่า มาจากแหล่งแพร่เชื้อหลัก คือ โรงเบียร์ศรีราชา 90 บ่อนการพนัน และผับ บาร์ญี่ปุ่น ซึ่งล้วนแต่เป็นสถานที่ปิด อากาศไม่ถ่ายเท คนมักไม่สวมหน้ากากอนามัย จึงย้ำเตือนว่า ประชาชนควรหลีกเลี่ยง สถานที่ลักษณะดังกล่าว ไม่ควรเข้าไป เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย

cell virus สถานกักกันโควิด ๒๑๐๑๑๑

สำหรับกรณี โรงเบียร์ศรีราชา 90 สถานการณ์จะคล้ายกับสถานบันเทิง ในจังหวัดเชียงใหม่ โดยพบผู้ติดเชื้อจากโรงเบียร์ศรีราชา 90 แล้ว 52 ราย จากจุดเริ่มต้นวันที่ 24 ธันวาคม 2563 มีลูกค้ามาจากจังหวัดระยองแห่งที่การระบาดเกิดขึ้นในบ่อนการพนัน จากนั้นมีอาการป่วยในวันที่ 27 ธันวาคม 2563

หลังจากนั้น จึงพบลูกค้าและพนักงานในร้าน ป่วยเพิ่มขึ้นหลายคนติดต่อกัน รวมทั้งวันที่ 31 ธันวาคม ที่โรงเบียร์ดังกล่าว ได้จัดงานเลี้ยงให้กับพนักงาน และเริ่มปิดร้านตั้งแต่วันที่ 31 เป็นต้นไป ดังนั้น ลูกค้าที่ติดจากโรงเบียร์ศรีราชา 90 จึงเป็นลูกค้าที่ไปเที่ยวก่อนหน้าวันที่ 31 ธันวาคม โดยลักษณะการแพร่กระจาย เป็นการติดจากลูกค้า แพร่ต่อไปยังพนักงาน พนักงานไปติดเพื่อนพนักงาน แล้วก็ติดไปยังลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการคนอื่น รวมถึงไปครอบครัว ซึ่งจากนี้เป็นไปได้ว่าจะมีการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม

โอภาส 2
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์

นอกจากโรงเบียร์ศรีราชา 90 แล้ว ในอ.ศรีราชา ยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม จากบ่อนการพนัน บาร์ญี่ปุ่น ร้านนวด ซึ่งเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนว่า การแพร่เชื้อมักเกิดในกิจกรรม ในสถานที่อากาศไม่ถ่ายเท การรวมตัวกันของคนหมู่มาก และกิจกรรมที่มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยมีการตรวจค้นหาเชิงรุกไปแล้ว 2,500 คน

ขณะที่สถานการณ์การระบาดระลอกใหม่ในประเทศ วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 249 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 224 ราย และจากต่างประเทศ 25 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม

1

สำหรับการระบาดโรคใหม่ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 จนถึง 11 มกราคม 2564 มีผู้ติดเชื้อรวม 6,285 ราย โดยที่วันนี้เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 249 ราย เสียชีวิตรวม 7 ราย ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเสียชีวิตที่ต่ำกว่าการระบาดรอบแรก ที่มีผู้ติดเชื้อกว่า 3,000 คนแต่เสียชีวิตสูงถึง 50-60 คน ซึ่งเป็นผลจากการเรียนรู้ การดูแลรักษา และเวชภัณฑ์ที่ช่วยรักษาผู้ป่วยที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีข่าวดี ที่พื้นที่สีเขียว หรือจังหวัดที่เคยมีผู้ป่วย แต่ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ในรอบสัปดาห์ ที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ  เนื่องจากหลายจังหวัดมีความเข้มงวดในการตรวจตราคนที่มาจากจังหวัดกลุ่มเสี่ยง หรือจังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มข้น และเมื่อพบผู้ป่วย ก็สามารถสอบสวนโรคได้รวดเร็ว ทำให้สามารถควบคุมโรคได้

3

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo