เปิดไทม์ไลน์ โควิด น่าน รายแรก สาวอายุ 23 ปี ติดจากพนักงานส่งอาหารในกรุงเทพ เดินห้างย่านบางแค กลับน่าน ผู้ว่าฯน่าน คุมเข้ม เดินทางจากพื้นที่สีแดง ปิดสถานบริการ 15 วัน
นายนิพันธ์ บุญหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดน่าน เปิดไทม์ไลน์ โควิด น่าน รายแรก หลังผลตรวจทางศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เชียงรายยืนยันเป็นผลบวก โดยผู้ป่วยเป็นหญิงอายุ 23 ปี สัญชาติลาว มีอาชีพรับจ้าง ขณะนี้เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลน่าน
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ ไทม์ไลน์หญิงรายดังกล่าว พบว่า
- วันที่ 26 ธันวาคม 63 ได้คุยกับพนักงานส่งอาหาร ซึ่งทราบภายหลังว่าป่วยติดเชื้อโควิด 19
- วันที่ 29 ธันวาคม 2563 ได้นั่งรถแท็กซี่ไปห้างสรรพสินค้าย่านบางแคแล้วนั่งแท็กซี่กลับ
- วันที่ 30 ธันวาคม ได้เดินทางกลับจังหวัดน่าน มาบ้านพี่สาว ที่อำเภอนาหมื่น จ.น่าน โดยรถกระบะมีคนร่วมเดินทาง 5 คนรวมผู้ป่วย
- วันที่ 31 ธันวาคมอยู่บ้านกับบุตรสาว
- วันที่ 1 มกราคม ได้คุยกับเพื่อนบ้าน และได้รับข่าวพนักงานส่งอาหารที่พูดคุยด้วยติดเชื้อโควิด
- วันที่ 2 มกราคมช่วงกลางวัน ได้ไปห้างสรรพสินค้าในจังหวัดน่าน มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเพิ่ม 2 ราย ซึ่งในช่วงเวลา 14.18 ได้แวะตรวจรักษาที่โรงพยาบาลนาหมื่นด้วยอาการไข้ เจ็บคอ มีเสมหะ
จากไทม์ไลน์ดังกล่าว ทำให้ขณะนี้ มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 12 ราย และมีผู้สัมผัสเสียงต่ำ 5 รายเป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่ให้บริการผู้ป่วย สามารถติดตามตรวจสอบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงได้ทั้งหมด ขณะนี้ผลของผู้ป่วยเสี่ยงสูง 4 ราย มีผลเป็นลบไม่ติดเชื้อ และอีก 5 รายซึ่งเป็นบุคคลในบ้าน อยู่ระหว่างการรอผล เชื่อมั่นว่าจะไม่เป็นการระบาดในวงกว้าง เพราะสืบหาผู้สัมผัสได้ทั้งหมด
นอกจากนี้ จังหวัดน่าน ยังได้ออกมาตรการเข้มข้น ผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่สีแดง ต้องกักตัว 14 วัน ส่วนนักท่องเที่ยว ต้องลงทะเบียนอย่างละเอียดกับสถานที่พักแรม และแจ้งเส้นทางไทม์ไลน์ในการท่องเที่ยวภายในจังหวัดน่านให้ทราบ เพื่อประเมินสถานการณ์ความเสี่ยง โดยขอความร่วมมือห้ามปิดบังข้อมูลเด็ดขาด
ส่วนผลกระทบต่อนักท่องเที่ยว กรณีมาตรการกักตัว 14 วัน อาจทำให้มีการยกเลิกการเดินทาง ทางจังหวัดน่าน จะมีหนังสือขอความร่วมมือผู้ประกอบการ สถานประกอบที่พัก โรงแรม และสายการบิน ให้เข้าใจและเห็นใจนักท่องเที่ยว เพื่อพิจารณาเลื่อนกำหนด หรือคืนเงินมัดจำหรือค่าเดินทาง เพื่อเป็นการช่วยเหลือกันและเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมกันป้องกันควบคุมการแพร่ระบาด
พร้อมกันนี้ ยังได้บูรณาการจัดกำลังเพื่อการทำงานเชิงรุกทุกระดับ และตรวจสอบมาตรการต่างๆอย่างเข้มข้น เน้นให้ประชาชนใช้มาตรการ New Normal และ ไทยชนะ อย่างเคร่งครัด ส่วนกรณีผู้ติดเชื้อเป็นต่างด้าว ซึ่งมีคำสั่งห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว จะต้องสอบสวนเพิ่มเติมอย่างละเอียด
ด้านนายจรัญ ยะม่อนแก้ว นายอำเภอนาหมื่น เปิดเผยถึงมาตรการในพื้นที่อำเภอนาหมื่น ซึ่งขณะนี้มีการควบคุมโรค โดยพาคนที่เกี่ยวข้องและมีความเสี่ยงสูง จำนวน 12 ราย เพื่อทำการตรวจเก็บสิ่งนำส่งตรวจทางจมูกและปาก หรือการทำ swab ซึ่งขณะนี้ผลเป็นลบแล้ว 4 ราย ส่วนอีก 5 รายที่เป็นบุคคลในครอบครัวอยู่ระหว่างการรอผลพรุ่งนี้
ขณะเดียวกัน จะขยายผลผู้ใกล้ชิด 12 ราย ว่ามีใครบ้าง มีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน โดยมีเป้าหมายคัดกรองกว่า 100 คน และมี 29 คนที่ต้องทำ swab ขณะนี้ผู้มีความเสี่ยงได้กักตัวเองทั้งหมด ทั้งที่ต้องกักตัวเองในสถานที่กักตัวของหมู่บ้าน คือที่ศาลาหมู่บ้านและกักตัวเองที่บ้าน โดยให้แยกห่างจากครอบครัวและคนใกล้ชิด มีคณะกรรมการหมู่บ้าน และเจ้าหน้าที่ อบต.เข้าตรวจสอบและอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน
“ขณะที่ มี 2 โรงเรียน และ อีกหนึ่งศูนย์เด็กเล็กในพื้นที่อำเภอนาหมื่น ที่มีความเสี่ยง ได้มีการปิดการเรียนการสอนชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย อย่างไรก็ตามให้เป็นอำนาจการพิจารณาจากผู้บริหารของโรงเรียน”นายจรัญ กล่าว
สำหรับ ประกาศคำสั่งควบคุมการแพร่ระบาดโควิด19 จังหวัดน่าน ให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 มกราคมทันที ด้วยมาตรการเข้มข้น คือผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสูด 28 จังหวัดพื้นที่สีแดง ต้องกักตัว 14 วัน ทุกรายทุกช่องทางการเดินทาง และให้ปิดสถานบริการและสถานบันเทิง 15 วัน ขอความร่วมมือประชาชนงดเดินทางข้ามเขตจังหวัดหากไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่มีคนจำนวนมาก สถานประกอบการ ร้านค้าร้านอาหาร และประชาชนต้องปฏิบัติตามหลัก New Normal อย่างเคร่งครัด
ในส่วนของโรงพยาบาลน่าน ออกมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดด้วยการงดห้ามเยี่ยมงดเยี่ยมผู้ป่วยทุกกรณี ให้เฝ้าไข้ เฉพาะผู้มีบัตรอนุญาต เตียงละ 1 คน เท่านั้น และต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
ด้านห้างสรรพสินค้าทั้งสองแห่ง หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด19 และมีประวัติเดินทางไปห้างสรรพสินค้า เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2564 ได้ให้ทำตามมาตรการทำความสะอาดอย่างเคร่งครัด และทำความสะอาดฆ่าเชื้อทั้งห้างตามแผนกต่างๆ โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดและแอลกอฮอล์ในการฆ่าเชื้อพื้นที่ ที่ผู้ป่วยสัมผัส นอกจากนี้ทางบริษัทใหญ่ จะส่งทีมมาดำเนินการ บิ๊กคลีนนิ่ง ภายในห้างสรรพสินค้าอีกครั้ง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- อัพเดทสถานการณ์ ‘โควิด’ วันที่ 5 มกราคม 2564
- ปิดตลาดกลางกุ้ง ถึง 31 มกราคม ‘สาธิต’ สั่งทุกจังหวัด เตรียมพร้อมโรงพยาบาลสนาม
- จุฬาฯประกาศปิดหอพัก 14 วัน หลังพบนิสิตคิดโควิด