คอนโดชื่อดังย่านสาทร-ท่าพระ ประกาศขอความร่วมมือลูกบ้าน สังเกตอาการตนเอง 14 วัน หลังพบผู้พักอาศัยติดเชื้อโควิด-19 ขณะกระทรวงสาธารณสุขชี้แจง เป็น 1 ใน 6 พยาบาล ที่ตรวจพบการติดเชื้อ ไม่ใช่รายใหม่แต่อย่างใด
วันนี้ (12 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายบริหารจัดการนิติบุคคลอาคารชุด คอนโดชื่อดังย่านสาทร-ท่าพระ ได้ออกประกาศ เรื่อง ชี้แจงพบผู้อาศัยติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ในโครงการ โดยระบุว่า
ตามที่เจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค เข้าพบฝ่ายบริหารจัดการฯ แจ้งว่า เจ้าของร่วมภายในโครงการ ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ได้รับการยืนยันผลการติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2563 ขณะนี้ผู้ติดเชื้อพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเรียบร้อย และแนะนำให้รณรงค์การสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
ฝ่ายบริหารจัดการฯ ตรวจสอบข้อมูลการเดินทาง ภายในอาคารชุด จากระบบกล้องวงจรปิด และการระบบ คีย์การ์ด ย้อนหลัง 10 วัน ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 1-10 ธันวาคม 2563 พบว่า ผู้ติดเชื้อเดินทางผ่านโถงต้อนรับ ล็อบบี้ A ลิฟต์โดยสาร และเคาน์เตอร์รับพัสดุ
ขณะนี้ ทราบว่า มีผู้พักอาศัยร่วม ซึ่งอยู่ในห้องชุดเดียวกันได้ไปกักตัวที่โรงพยาบาลเรียบร้อยเช่นกัน
จากสถานการณ์ดังกล่าว ฝ่ายบริหารจัดการฯ มีมาตรการลดความเสี่ยง และป้องกันการแพร่ระบาด ภายในโครงการเร่งด่วนแล้ว ดังนี้
1. งดการให้บริการใช้พื้นที่ส่วนกลางชั้น 7
2. ฉีดพ่นฆ่าเชื้อไวรัส เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2563 เวลา 14.00 น. พื้นที่ ล็อบบี้ A โถง ล็อบบี้ B ห้องนิติบุคคลอาคารชุด โถงสันทนาการ ห้องจดหมาย ทางเดินส่วนกลางชั้น 15 ลิฟต์โดยสาร โถงลิฟต์ A และโถงลิฟต์ B
3. ทำความสะอาดจุดสัมผัส บริเวณภายในลิฟต์ โถงชั้นจอดรถ โถงล็อบบี้ และบริเวณพื้นทางเดิน ชั้น 15 ทั้งหมด ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้ออย่างสม่ำเสมอ
4. วัดอุณหภูมิพนักงานนิติฯ รปภ. แม่บ้าน และคนสวนทุกคน ไม่พบอุณหภูมิสูง และมีอาการทางกายภาพอย่างใด
ขอความร่วมมือท่านเจ้าของร่วมและผู้พักอาศัย ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ณ บริเวณล็อบบี้ สังเกตอาการตนเอง 14 วัน หากมีไข้ ไอ เจ็บคอ เหนื่อยหอบ อ่อนเพลีย ขอให้พบแพทย์ และแจ้งให้ฝ่ายบริหารจัดการฯ ทราบทันที
ทางด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการ กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวถึง กรณีข้างต้นว่า ผู้ติดเชื้อในคอนโดมิเนียมดังกล่าว ข้อมูล คือ รายที่ 6 ที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ของผู้ป่วยรายที่ 1 และอยู่ในระหว่างการกักกันโรค ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม และตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ดังนั้นความเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นถือว่าน้อยมาก เนื่องจากวันที่ 5-7 ธันวาคม ไม่ได้ออกจากที่พัก
“คอนโดมิเนียมได้สร้างความมั่นใจให้ผู้พัก จึงทำความสะอาดพื้นผิวบริเวณลิฟต์โดยสาร โถงจอดรถ ลอบบี้ พื้นทางเดิน วัดอุณภูมิเจ้าหน้าที่ในคอนโดฯ ทั้งนี้ทาง กทม. ได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดแล้ว ไม่พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในรายนี้ในคอนโดฯ แต่หากผู้พักอาศัยมีความกังวล ก็ขอให้สังเกตอาการป่วยตนเอง 14 วัน นับจากวันที่ 5 ธันวาคม แต่หากมีอาการป่วย เช่น ไข้ ไอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่ได้รส ก็สามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในสถานพยาบาลใกล้บ้านได้ทันที แต่ขอให้ประชาชนคลายความกังวล แต่ไม่ให้ประมาท” นพ.โสภณ กล่าว
ไทม์ไลน์ของผู้ป่วยรายที่ 6 เพศหญิงไทย อายุ 29 ปี อาชีพบุคลากรทางการแพทย์ ข้อมูลย้อนหลัง 5 วัน ก่อนเริ่มมีอาการป่วย
วันที่ 3 ธันวาคม ผู้ป่วยรับประทานอาหารเที่ยวร่วมกับผู้ป่วยรายที่ 1 ระยะห่างไม่เกิน 1 เมตร และไม่สวมหน้ากากอนามัยเพราะเป็นกิจกรรมในชีวิตประจำวัน หลังจากนั้น เวลา 15.00 น. พบกันอีกครั้ง นั่งโต๊ะเดียวกัน
วันที่ 4 ธันวาคม ขับรถมอเตอร์ไซต์ ไปปฏิบัติงานที่ห้องไอซียูที่ รพ.เอกชน
วันที่ 5 ธันวาคม หลังจากพบว่าผู้ป่วยรายที่ 1 ติดเชื้อ รายนี้จึงไปตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ที่คลินิกโรคทางเดินหายใจ เช่นเดียวกับรายอื่นอีก 5 ราย ที่เป็น HR ของผู้ป่วยรายที่ 1-2 และสวมหน้ากากอนามัย เลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกัน ช่วงเย็น ระหว่างรอผลตรวจ ได้เข้าไปซูเปอร์มาร์เก็ต สวมหน้ากากอนามัย และเลี่ยงการอยู่ร่วมกับผู้อื่น
วันที่ 6-7 ธันวาคม ผลตรวจครั้งที่ 1 ไม่พบเชื้อ และได้รับการกักกันตัว 14 วัน พร้อมรูมเมทที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ โดยไม่ได้ออกไปนอกที่พัก
วันที่ 8 ธันวาคม เริ่มมีอาการไข้ อุณหภูมิร่างกาย 37.6 เซสเซียส
10.00 น. เข้ารับการตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ที่ รพ.บีเอ็นเอช(BNH) และพบผลเชื้อ เข้ารักษาที่ รพ. ในห้องแยกโรค และขณะนี้มีอาการไม่รุนแรง
นพ.โสภณ กล่าวว่า ผู้สัมผัสของผู้ป่วยรายดังกล่าว เป็นเพื่อนร่วมงาน รวม 10 ราย ผลการตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 โดยสรุปคือ ผู้ป่วยรายนี้เป็นกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของผู้ป่วยรายที่ 1 โดยมีอาการป่วย และตรวจพบเชื้อในระหว่างการเฝ้าระหว่างอาการ 14 วัน
สำหรับการตรวจหาเชื้อผู้สัมผัสกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์นั้น เสี่ยงสูงจำนวน 51 ราย ทั้งใน รพ.เอกชน จำนวน 31 ราย หอพัก 6 ราย ห้องสัมภาษณ์งาน 7 ราย สมาชิกในครอบครัว 7 ราย ผลการตรวจครั้งที่ 1 ให้ผลลบทุกราย และการตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ให้ผลลบ 50 ราย ผลบวก 1 ราย คือผู้ป่วยรายที่ 6
กลุ่มเสี่ยงต่ำ 888 ราย ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 ให้ผลลบทุกราย แสดงให้เห็นว่า กลุ่มเสี่ยงต่ำมีโอกาสรับเชื้อต่ำมาก อยู่ในการควบคุมได้ แต่ต้องติดตามต่อให้ครบ 14 วัน
“ทีมสอบสวนโรคและ รพ.ต้นสังกัด มีมาตรการที่รัดกุม นอกจากมีการตรวจหาเชื้อครั้งแรกที่ให้ผลลบทุกราย แต่มีการตรวจซ้ำอีกครั้ง จึงทำให้พบผู้ป่วยรายที่ 6 และเมื่อพบก็ได้ติดตามผู้สัมผัสอีก 10 ราย ได้รับการตรวจและไม่พบเชื้อ แต่อย่างไรก็ตามจะต้องติดตามเพื่อตรวจหาเชื้ออีกครั้ง” นพ.โสภณ กล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิดโพย 4 เที่ยวบิน ‘เสี่ยงโควิด’ สธ.แจ้งผู้โดยสารสังเกตอาการ 14 วัน
- ผับ-บาร์-กาสิโน ‘ท่าขี้เหล็ก’ การ์ดตก ต้นตอทำโควิดระบาด!
- ด่วน!! เช็คไทม์ไลน์หญิงไทยติดโควิด ระทึกผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 105 ราย