มาตรการความปลอดภัยใน ASQ สธ.เร่งทบทวน พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจประเมินมาตรฐานเข้มข้น หลังพบหญิงฝรั่งเศสติดเชื้อโควิด ในสถานกักกัน
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดี กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เปิดเผยว่า จากกรณี หญิงฝรั่งเศสติดเชื้อโควิด ในสถานกักกัน หรือ ASQ ที่จ.สมุทรปราการนั้น ทำให้เห็นว่า มีหลายจุดที่ต้องทบทวน มาตรการความปลอดภัยใน ASQ เพื่อการป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19
ทั้งนี้ จะเน้นย้ำการทบทวนในประเด็นหลักๆ เช่น การอนุญาตให้ออกจากห้องได้เพื่อพักผ่อนหรือออกกำลังกาย, การอนุญาตให้เข้าไปทำความสะอาดห้องพัก 2 วันต่อครั้ง, การให้บริการซักเสื้อผ้าของผู้ถูกกักกัน และการอนุญาตให้ออกกำลังกาย และทำกิจกรรมในห้องฟิตเนส เป็นต้น
นอกจากนี้ จะตั้งคณะทำงานตรวจประเมินมาตรฐาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้มากขึ้น ซึ่งจะมีการประชุมกัน เพื่อทบทวนมาตรการ และมาตรฐานความปลอดภัยทั้งหมด เพื่อสร้างความมั่นใจ และลดโอกาสการแพร่เชื้อของโควิด-19
อย่างไรก็ตาม เน้นย้ำว่า ก่อนการรับขึ้นทะเบียนสถานบริการ เป็นสถานที่กักตัว ในทุกรูปแบบ ได้มีการวางระบบไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น การชี้แจงกับสถานบริการ ว่าต้องปฏิบัติตามมาตรฐานที่วางไว้ โดยให้สถานบริการนั้นประเมินตัวเองก่อน มีการส่งทีมงานลงไปดูแล ทำความเข้าใจ รวมไปถึงการซักซ้อมความเข้าใจ ระหว่างสถานบริการและโรงพยาบาลคู่สัญญา จากนั้นจึงรับขึ้นทะเบียนเป็นสถานกักตัว
พร้อมกันนี้ จะมีการจัดกลุ่มผู้ที่มาจากต่างประเทศ และเข้ากักตัวใน สถานที่กักกันโรค โดยแบ่งเป็นกลุ่มความเสี่ยงต่ำ, เสี่ยงกลาง และเสี่ยงสูง เพื่อนำกลุ่มเหล่านี้ มาวางมาตรฐานในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกใน ASQ เพื่อความปลอดภัย
สำหรับ สถานที่กักกันโรค โควิด-19 ในประเทศไทยมีทั้งหมด 4 รูปแบบ ได้แก่
1. Local Quarantine (LQ) : สถานกักกันโรค ท้องที่ ใช้สำหรับกักกันผู้ที่เดินทางข้ามจังหวัด
2. State Quarantine (SQ) : สถานกักกันโรค แห่งรัฐ สำหรับกักกันผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศ
3. Alternative State Quarantine (ASQ) : สถานกักกันโรค แห่งรัฐทางเลือก สำหรับกักกันผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศ โดยผู้กักกันออกค่าใช้จ่ายเอง
4. Organization Quarantine (OQ) : สถานกักกันโรค ของหน่วยงาน สำหรับกักกันบุคลากรของหน่วยงาน ที่เดินทางเข้ามาในประเทศ โดยเป็นสถานที่ของหน่วยงานนั้ นและห้ามผู้กักกันโรคออกนอกบริเวณเด็ดขาด 14 วัน
ปัจจุบัน มีสถานบริการที่ได้รับการขึ้นทะเบียน เป็น สถานกักกันโรค ASQ รวม 101 โรงแรม จำนวนห้องพัก 13,004 ห้อง, สถานที่กักกันในต่างจังหวัด หรือ LQ รวม 21 โรงแรม จำนวนห้องหัก 1,466 ห้อง แบ่งเป็นจังหวัดบุรีรัมย์ 1 แห่ง, สุราษฏร์ธานี 10 แห่ง, ชลบุรี 1 แห่ง, ภูเก็ต 8 แห่ง และปราจีนบุรี 1 แห่ง
“จำนวนห้องพักของสถานที่กักตัว ถือว่าเพียงพอ โดยปัจจุบันมีอัตราการใช้ห้องพักอยู่ที่ 30-50% ในโรงแรมแต่ละแห่ง”นายแพทย์ธเรศ กล่าว
ขณะที่ มาตรฐานของ ASQ ต้องมีองค์ประกอบหลัก 6 หมวด ดังนี้
หมวด 1 โครงสร้างอาคารวิศวกรรมความปลอดภัยและระบบสื่อสารสารสนเทศ
หมวด 2 บุคลากร (ต้องได้รับการอบรมก่อนปฏิบัติงาน)
หมวด 3 วัสดุ อุปกรณ์สำนักงาน และอื่นๆ
หมวด 4 ยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล
หมวด 5 การจัดการสิ่งแวดล้อม และเป็นมิตรกับชุมชน
หมวด 6 โรงพยาบาลคู่สัญญาปฏิบัติการร่วมและความสะดวกสบายเพิ่มเติม
ในส่วนของการพบอุปกรณ์ฟิตเนส ในสถานกักตัว จังหวัดสมุทรปราการ มีเชื้อโควิด-19 ติดอยู่ ซึ่งเป็นสถานที่กักตัวของ หญิงชาวฝรั่งเศส ที่พบเชื้อโควิด-19 และพบผู้ที่กักตัวในที่เดียวกัน มีผลตรวจเป็นบวก อีก 2 คนนั้น
ล่าสุด ได้สั่งการให้โรงแรมดังกล่าว หยุดรับผู้กักตัวเพิ่ม และจะรอให้ผู้ที่เข้ากักตัวที่เหลือ อยู่จนครบระยะเวลา จากนั้นจะปิดเพื่อทำความสะอาด และทบทวนการดำเนินการอีกครั้ง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ครม.ไฟเขียว ‘ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน’ อีก 1 เดือนสกัด ‘โควิด-19’
- โควิดวันนี้ 28 ต.ค. ไทยเจอผู้ป่วยใหม่ 13 คน จากต่างประเทศทั้งหมด ยอดสะสม 3,759 คน
- สั่งปิด ‘ASQ สมุทรปราการ’ ที่กักตัวหญิงฝรั่งเศส หลังพบต่างชาติติดเชื้อโควิดเพิ่ม 2 ราย