COVID-19

ฟัง ‘หมอธีระ’ การสื่อสารสาธารณะยามวิกฤติ ภูมิคุ้มกันต้านโควิด

การสื่อสารสาธารณะยามวิกฤติ ภูมิคุ้มกันต้านโควิด หมอธีระ เผย อินเดียติดโควิดขึ้นที่ 2 แซงบราซิล เมียนมาร์น่าห่วง ไทยต้องชี้แจงให้ชัดเรื่องสอบสวนโรค

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat แนะ การสื่อสารสาธารณะยามวิกฤติ ภูมิคุ้มกันต้านโควิด พร้อมรายงานสถานการณ์ทั่วโลก โดยระบุว่า

การสื่อสารสาธารณะยามวิกฤติ

“สถานการณ์ทั่วโลกล่าสุด 7 กันยายน 2563

อันดับโลกเปลี่ยนแปลงแล้ว…อินเดียแซงบราซิลขึ้นที่ 2

ทั่วโลกติดเพิ่มอีก 232,043 คน รวม 27,273,893 คน ตายไปแล้วถึง 887,079 คน

อเมริกา ติดเพิ่ม 28,872 คน รวม 6,457,674 คน

อินเดีย ติดเพิ่มทำลายสถิติโลกอีกครั้ง 91,723 คน ตายเพิ่มกว่าพัน รวมแล้ว 4,202,562 คน

บราซิล ติดเพิ่ม 14,606 คน รวม 4,137,606 คน

รัสเซีย ติดเพิ่ม 5,195 คน รวม 1,025,505 คน

เปรู โคลอมเบีย แอฟริกาใต้ เม็กซิโก ยังเกาะอันดับเรียงกันมา ติดเพิ่มวันละหลายพัน รวมแล้วหกแสนกว่าทั้งสิ้น

สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส อิตาลี อิหร่าน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ล้วนติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลายพัน

หลายประเทศในยุโรป รวมถึงแคนาดา ปากีสถาน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเมียนมาร์ ติดกันหลักร้อยถึงหลายร้อย

จีน สิงคโปร์ ฮ่องกง และออสเตรเลีย ติดเพิ่มกันหลักสิบ ส่วนมาเลเซียและนิวซีแลนด์ยังมีติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

ที่ต้องจับตาดูเป็นพิเศษคือ เมียนมาร์ ที่ติดเพิ่มไปถึง 166 คน แนวโน้มยังสูงขึ้นเรื่อยๆ และมีโอกาสที่จะทะลักเข้าไทยได้ ผ่านช่องทางต่างๆ … โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลักลอบเข้าไทย ผ่านช่องทางธรรมชาติ มีการเผยแพร่ผ่านโซเชียล ยิ่งทำให้ตอกย้ำว่ามาแน่ ประชาชนในจังหวัดชายแดน จึงควรระมัดระวังตัว ป้องกันตัวเองเสมอ

นอกจากนี้ เคสผู้ติดเชื้อ ภายในประเทศ ยังทำให้คนในกรุงเทพ และปริมณฑล ต้องตระหนักถึงความจริงที่ว่า มีการติดเชื้ออยู่ในพื้นที่ เพียงแต่ยังไม่มีการตรวจพบและรายงาน การติดตามผู้สัมผัส ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ นั้นยากมาก เพราะไม่มีใครที่จะจำรายละเอียดการใช้ชีวิต ทุกวัน ทุกเวลา ในช่วงเวลาสองสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ครบ

new normal ๒๐๐๙๐๗

คนในเมืองและปริมณฑล จึงควรใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท ใส่หน้ากากเสมอ ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างคนอื่นหนึ่งเมตร พูดน้อยลง พบปะคนน้อยลงสั้นลง ใช้ออนไลน์แทน เลี่ยงที่แออัดที่ชุมนุมที่อโคจร หากไปในที่ดังกล่าว ก็จำเป็นต้องคอยสังเกตอาการตนเอง หากไม่สบายควรหยุดงาน หยุดเรียน และรีบไปตรวจ

ทางการ…ควรรีบนำเสนอรายละเอียดการใช้ชีวิตประจำวัน ของ เคสผู้ติดเชื้อ เพิ่มเติมจากเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้ชีวิตประจำวันตอนกลางวัน ขณะนี้มีรายละเอียดเพียง ไปห้างแห่งหนึ่งในบ่ายของวันหนึ่งเท่านั้น แต่ควรสอบถามรายละเอียดอื่นๆ เช่น ร้านอาหารที่ได้แวะไปกิน ขนส่งสาธารณะที่ได้ไปใช้ การเดินตลาดเดินห้าง หรืออื่น ๆ ด้วย

แต่หากสอบสวนแล้ว ไม่ทราบรายละเอียด ก็ควรสื่อสารชี้แจง ให้ประชาชนในสังคม ได้ทราบด้วยว่าไม่ทราบ จะได้กระตุ้นเตือน ให้คนในสังคมระวังตัวกันเพิ่มขึ้น

การสื่อสารสาธารณะในยามวิกฤติโรคระบาดเช่นนี้ นั้นสำคัญยิ่งนัก หากไม่อยากให้คนตระหนกตกใจเกินเหตุ ก็ต้องชี้แจงข้อมูล ที่ละเอียดเพียงพอ ลดการใช้ดุลยพินิจ หรืออุปมาอุปมัย ตั้งสมมติฐานไปเกินกว่าข้อมูลที่มี บางประเทศที่มีการระบาดและตอบสนองได้ดี เช่น นิวซีแลนด์ จะมีการแถลงรายละเอียดแบบละเอียดยิบให้ประชาชนได้ทราบ จะได้ประเมินตนเอง และให้ความร่วมมือได้อย่างถูกต้อง และทันท่วงที

ยิ่งหากระบบการเช็คอินเช็คเอาท์ไทยชนะของเรา อาจไม่สมบูรณ์ การชี้แจงรายละเอียด การสอบสวนโรค ให้ชัดเจนมากขึ้น ก็จะช่วยในการจัดการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีขึ้นครับ”

ประเทศไทยต้องทำได้

ด้วยรักต่อทุกคน

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์

คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo