COVID-19

กลุ่มเสี่ยงโควิดพุ่ง 708 ราย พบอาการเข้าเกณฑ์ 1 ราย ส่งเข้ารพ.แล้ว

กรมควบคุมโรคเผย ยอดกลุ่มเสี่ยงติดโควิดจากนักโทษเพิ่มขึ้นเป็น 708 ราย พบร้านที่ถนนข้าวสาร มีผู้สัมผัส 14 ราย เสี่ยงสูงทั้งหมด ลุ้น 1 รายมีอาการเข้าเกณฑ์ นำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลกลางแล้ว  ส่วนหนุ่มดีเจมีอาการไม่มาก โอกาสที่จะไปแพร่เชื้อให้คนอื่นน้อย ให้ความมั่นใจเอาอยู่แน่นอน

วันนี้ (5 ก.ย.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดี กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยความคืบหน้าการติดตามผู้สัมผัส ดีเจ ผู้ต้องโทษป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นรายแรก ในประเทศในรอบ 101 วันว่า จากข้อมูลล่าสุด ผู้ป่วยยังไม่มีอาการอะไรน่าเป็นห่วง อยู่ในการดูแลของโรงพยาบาลราชทัณฑ์

กลุ่มเสี่ยงโควิด

ส่วนการสอบสวนเพิ่มเติม พบผู้สัมผัสเพิ่มขึ้นสะสมอยู่ที่ 708 ราย แบ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 140 ราย สัมผัสเสี่ยงต่ำ 568 ราย

กลุ่มเสี่ยงโควิด แบ่งตามกลุ่มย่อย

  • ที่พำนัก พักที่คอนโด

มีผู้สัมผัส 6 ราย ทั้งหมดตรวจแล้วไม่พบเชื้อ

  • กลุ่มที่ไปศาลเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม

มีผู้สัมผัส 493 ราย แบ่งเป็นเสี่ยงสูง 15 ราย ตรวจแล้ว 11 ราย ไม่พบเชื้อ เสี่ยงต่ำ 478 ราย ตรวจแล้ว 146 ราย ไม่พบเชื้อ ที่เหลืออยู่ระหว่างรอผลตรวจ และ อยู่ระหว่างเฝ้าระวัง 14 วัน

  • กลุ่มโรงพยาบาลราชทัณฑ์

มีผู้สัมผัส 6 ราย ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ อยู่ระหว่างเฝ้าระวัง 14 วัน

  • กลุ่มทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง

มีผู้ต้องขังที่อยู่ร่วมระหว่างต้องกัก 36 คน ตรวจแล้ว ไม่พบเชื้อ รอกักตัวให้ครบตามกำหนด 14 วัน และต้องตรวจซ้ำอีก 2 ครั้ง

  • เจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครเรือนจำ

มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 24 ราย แยกกักแล้ว อยู่ระหว่างเก็บตัวอย่างส่งตรวจ และเสี่ยงต่ำ 52 ราย ให้เฝ้าระวัง 14 วัน โดยปฏิบัติตามมาตรการทางด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

  • เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

มีผู้สัมผัส 8 ราย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมด โดยเป็นผู้ต้องขังที่นั่งรถโดยสารร่วมกัน ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ

  • ร้าน “3 วัน 2 คืน” สาขาพระราม 3

มีผู้สัมผัส 14 ราย เสี่ยงสูงทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลแล็บ ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำได้มีการประชาสัมพันธ์ใ ห้ติดต่อเข้ามารับการคัดกรอง ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือประเมินความเสี่ยงได้ ที่แอปพลิเคชัน “BKKCOVID19”

หากมีความเสี่ยง ทาง กทม.จะประสานกลับไป

  • ร้าน “3 วัน 2 คืน” สาขาพระราม 5

มีผู้สัมผัสทั้งหมด 55 ราย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 23 ราย ตรวจแล้ว 22 ราย ไม่พบเชื้อ อีก 1 ราย ซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าว ที่มีรายงานข่าวว่าหลบหนีนั้น ขณะนี้ติดตามตัวได้แล้ว ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 32 ราย ต้องเฝ้าระวัง 14 วัน

  • ร้านเฟิร์ส คาเฟ่ ถนนข้าวสาร

มีผู้สัมผัส 14 ราย เสี่ยงสูงทั้งหมด ได้รับการตรวจแล้ว 13 ราย ไม่พบเชื้อ ส่วนอีก 1 ราย พบว่ามีอาการเข้าเกณฑ์ PUI (มีไข้) ได้นำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลกลางแล้ว เพื่อตรวจและดูแลรักษา อยู่ระหว่างรอผล

ส่วนผู้มารับบริการอื่นๆ ที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ก็จะดำเนินการประชาสัมพันธ์ว่า ท่านใดที่มีข้อสงสัย หรือคิดว่าตัวเองมีความเสี่ยงต่ำ สามารถมาขอรับบริการ หรือว่าสอบถามเข้ามายังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้

กลุ่มเสี่ยงโควิด

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนมีคำถามใหญ่อยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งก็คือ ข้อสงสัยว่าติดเชื้อจากที่ไหน โดยเรื่องนี้ อยู่ระหว่างการสอบสวน  ส่วนความกังวลว่าผู้ต้องขังรายนี้ จะไปแพร่โรคให้ใครหรือไม่นั้น ยืนยันว่า รายนี้ไม่มีอาการมาก ประกอบกับเป็นดีเจ ทำงานกลางคืน ไม่ได้ทำงานบริการโดยตรง คนที่สัมผัสโรคจึงมีจำกัดในระดับหนึ่ง

ด้วยความทำงานกลางคืน กลางวันจึงพัก ถ้าจะไปไหน คงมีแค่กิจวัตรประจำวันเท่านั้น ความเสี่ยงความกังวลว่า จะมีการแพร่เชื้อแบบซูเปอร์สเปรดเดอร์หรือไม่นั้น จะไม่มาก

นอกจากนี้ เมื่อเราตรวจในส่วนของผู้สัมผัสใกล้ชิด ซึ่งถ้าจะแพร่โรคให้ใครก็คงเป็นคนในครอบครัวก่อน แต่จากการตรวจคนในครอบครัวทั้งหมด ตอนนี้ยังไม่มีใครติดเชื้อ และตามต่อคนใกล้ชิด คือ ผู้ต้องขังที่อยู่ร่วมกัน 36 คนก็ไม่เจอ ที่ศาลก็ไม่เจอ พนักงานที่ทำงานด้วยกันก็ไม่พบเชื้อ

“นั่นหมายความว่า โอกาสที่จะไปแพร่เชื้อให้คนอื่น หรือผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำโอกาสก็ยิ่งน้อยไปอีก ที่เป็นแบบนี้ได้ส่วนหนึ่งคือมาตรการการควบคุมป้องกันโรค ที่เราทำกันอยู่แม้ว่าจะหละหลวมไปบ้าง แต่อย่างน้อยก็ได้ทำ เพราะฉะนั้น คำแนะนำสำหรับประชาชนตอนนี้จึงแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม

กลุ่มที่ 1 คือประชาชนที่คิดว่าตัวเองไปอยู่ในสถานที่ หรือวันเวลาที่ผู้ติดเชื้ออาจจะไปนั้น ก็ไม่ต้องตกใจ หรือกังวล ให้โทรสอบถาม 1422 หรือเดินไปขอรับคำปรึกษา ตรวจคัดกรองได้ แต่ต้องมีการให้ประวัติก่อน และถ้าจุดไหนที่มีรถเก็บตัวอย่างเชื้อชีวนิรภัย ก็สามารถไปขอรับบริการได้ และปฏิบัติตัวตามมาตรการควบคุมโรคไปก่อน

กลุ่มที่ 2 สำหรับประชาชนทั่วไป โอกาสที่จะเจอผู้ติดเชื้อ หรือมีรายงานผู้ติดเชื้อในประเทศไทย ก็จะเหมือนกับต่างประเทศ ที่มีการควบคุมได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะมากับแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมือง หรือผู้ติดเชื้อในชุมชน ที่ไม่แสดงอาการ หรือมีอาการน้อยๆ

แต่ประชาชนไม่ต้องตกใจ ตื่นกลัว อันดับแรกคือคงมาตรการควบคุมป้องกันโรคเข้มข้นเอาไว้ จากที่ก่อนหน้านี้ คร.ได้สำรวจทุก 14 วัน พบว่าประชาชนการ์ดตก ตอนนี้ก็ขอให้ยกสูง โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า การเว้นระยะห่าง และการล้างมือ

อีกส่วนหนึ่งคือสถานประกอบการต่างๆ หรือผู้ที่ดำเนินกิจกรรมทางสังคม ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการหลักและมาตรการเสริมของ ศบค.อย่างเคร่งครัด รวมถึงกำชับผู้ใช้บริการปฏิบัติตามอย่างเคร่ง ดีกว่าปล่อยให้เกิดการติดเชื้อหรือระบาด

“ขอยืนยันว่า เราพบผู้ติดเชื้อและรายงาน แต่สามารถควบคุมไม่ให้เกิดการระบาด และทำมาตรการเชิงรุกให้ครอบคลุม ดังนั้นจะพยายามค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เสี่ยงต่ำให้มากและนำมาดูแลตามมาตรการเพื่อสร้างความมั่นใจว่าถึงแม้จะเจอผู้ติดเชื้อ แต่เราจะควบคุมไม่ให้เกิดการระบาด” นพ.สุวรรณชัย กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo