COVID-19

เปิดกลุ่มเสี่ยงสูง 61 คน ใกล้ชิด ‘หนุ่มดีเจ’ ติด ‘โควิด-19’

เปิดกลุ่มเสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดกับหนุ่มดีเจ ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศคนแรกของไทย ในรอบ 100 วัน พบมี กลุ่มเสี่ยงสูง มากถึง 61 คน และยังมีผู้มีความเสี่ยงต่ำอยู่อีก 2 คน 

วันนี้ (3 ก.ย.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา นพ.วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนพ.เมธีพจน์ ชาตะเมธีกุล ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ร่วมกันแถลงถึงกรณี ที่ตรวจพบผู้ต้องขังชาย 1 ราย ติดเชื้อไวรัสโควิด- 19

กลุ่มเสี่ยงสูง

รายละเอียดระบุว่า ผู้ติดเชื้อ เป็นผู้ต้องขังใหม่ ในทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง เข้าเรือนจำเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยที่ไม่มีอาการป่วยใดๆ  และอยู่ระหว่างการกักกัน ก่อนเข้าแดนปกติในเรือนจำ ซึ่งเจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างจากโพรงจมูกไปตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 2 กันยายน และผลตรวจออกมาว่า ติดเชื้อไวรัสโควิด-19

การสอบสวนโรคพบว่า ผู้ต้องขังรายนี้ ซึ่งเป็นเพศชาย อายุ 37 ปี ทำงานเป็นดีเจ ให้กับ 3 ร้านด้วยกัน 

สถานที่ทำงาน 

  • ร้าน 3 วัน 2 คืน สาขาพระราม 3 ทำงานทุกวันจันทร์ พฤหัสบดี และเสาร์
  • ร้าน 3 วัน 2 คืน สาขาพระราม 5 ทำงานทุกวันศุกร์ และอาทิตย์
  • ร้านเฟิร์ส คาเฟ่ ถนนข้าวสาร

ในการสอบสวนโรคย้อนหลัง 14 วัน โดยย้อนกลับไปถึงวันที่ 12 สิงหาคมนั้น พบว่า ผู้ติดเชื้ออาศัยอยู่กับครอบครัว ที่คอนโดบ้านสวนธน ในย่านพุทธบูชา เขตบางมด กรุงเทพมหานคร ไม่มีประวัติเคยเดินทางไปต่างประเทศ

นอกจากจะเดินทางไปทำงานแล้ว ในวันที่ 26 สิงหาคม 2563  ได้เดินทางไปที่ศาลอาญารัชดา  โดยขับรถยนต์ส่วนตัวไป จากนั้นได้ขึ้นรถของกรมราชทัณฑ์ ไปยังทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง และถูกคุมขังอยู่บริเวณกักกัน ก่อนเข้าแดนปกติ ในเรือนจำ

กลุ่มเสี่ยงสูง

วันที่ 29 สิงหาคม 2563 มีเสมหะ ก่อนตรวจพบเชื้อเมื่อวานนี้ (2 ก.ย.) 

กลุ่มเสี่ยงสูง 61 คน

จากการสอบสวนโรคดังกล่าว เบื้องต้นพบว่า มีผู้สัมผัสที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด 63 รายด้วยกัน แบ่งเป็น กลุ่มเสี่ยงสูง 61 คน และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำอีก 2 คน

ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 61 คน

  • ครอบครัว 5 คน
  • ทนาย 1 คน
  • เจ้าหน้าที่เรือนจำ 2 คน
  • นักโทษที่ตัดสินคดีร่วม 2 คน
  • นักโทษร่วมรถโดยสาร 15 คน
  • ผู้ต้องขังในห้องเดียวกัน 34 คน
  • อาสาสมัครนักโทษ 2 คน

ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ

  • เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 2 คน

กลุ่มเสี่ยงสูง

อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า จากนี้ไป ยังคงต้องเร่งสอบสวนหาที่มาของโรค โดยต้องสอบสวนโรคว่า ติดเชื้อมาจากที่ใด

ขณะที่ นพ.เมธีพจน์ ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร  ระบุว่า ในส่วนของกรุงเทพมหานคร ได้จัดทีมลงพื้นที่สอบสวนโรค โดยไปตรวจสอบยืนยันผู้ป่วย และอีกทีมไปตรวจสอบที่ศาลอาญา รวมถึงบ้านของผู้ป่วย พ ทำการเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจหาเชื้อ ไปยังสถานที่ทำงาน เพื่อสอบถามว่าไปที่ไหนมาบ้างและสั่งให้มีการปิดสถานที่ทำงาน เพื่อทำความสะอาด 3 วัน

กลุ่มเสี่ยงสูง

“กรมราชทัณฑ์” ยืนยันไม่แพร่ต่อให้นักโทษรายอื่น

นพ.วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์เป็นหน่วยงานที่ต้องดูแลผู้ต้องขังจำนวนมากถึง 3 แสนว่ารายในปัจจุบัน แต่ก็ไม่ได้พบผู้ติดเชื้อมาก รายนี้ถือว่าเป็น นักโทษ รายที่ 2 ที่ติดเชื้อ โควิด-19 เท่านั้น เพราะกรมฯ มีมาตรการแยกกัน 14 วัน สำหรับผู้ต้องขังใหม่หรือผู้ที่เดินทางออกไปข้างนอก

ในกรณีนี้ พบว่ามีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก แต่ขอยืนยันว่า การพบผู้ต้องขังป่วยโควิด-19 ดังกล่าวไม่ได้แพร่เชื้อไปยังผู้ต้องขังรายอื่น เนื่องจากกรมราชทัณฑ์แบ่งแยกพื้นที่ผู้ต้องขังแรกรับไว้จำนวน 14 วัน ก่อนที่จะย้ายไปแดนอื่นๆ ซึ่งต้องแจ้งให้สังคมรับทราบ เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก โดยที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษบางเขนมีผู้ต้องขังจำนวนกว่า 8,000 คน

สำหรับผู้ต้องขังรายนี้ก็ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ ใช้ชีวิตอยู่แต่ในเมืองไทย ปัจจุบันถูกย้ายไปที่ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ โดยให้อยู่อาคารเดี่ยวเพื่อรักษาโรค รวมถึงนำผู้ต้องขังที่อยู่ในห้องเดียวกัน 34 ราย ไปเฝ้าระวังโรคเป็นเวลา 14 วันในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ด้วย โดยแยกเป็นผู้ต้องขังที่ดูแลเป็นพิเศษ เพื่อรอรับการตรวจยืนยันจนครบเวลา

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo