เชียงราย วางมาตรการเข้มงวด รับมือไวรัสโควิด-19 หลังเมียนมาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก สั่งติดตามสถานการณ์ประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิด ส่งโดรนลาดตระเวน สกัดลักลอบเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติ
วันนี้ (27 ส.ค.) นายภาสกร บุญญลักษม์ รองผู้ว่าราชการ จังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย พ.อ.พศิน แสงคำ รอง ผอ.รมน.จว.เชียงราย พ.อ.จักรกริศน์ เจริญโชติกาญจน์ ที่ปรึกษา กองกำลังผาเมือง พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารม้าที่ 2 นพ.ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว และหารือ ถึงมาตรการป้องกัน ไม่ให้การแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเมียนมา เข้ามาในประเทศ
นายภาสกร ระบุว่า เมียนมาพบการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในพื้นที่รัฐยะไข่ ที่ล่าสุดสั่งปิดโรงเรียนทั้งหมดแล้ว ทำให้จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีพรมแดนติดต่อกับรัฐยะไข่ด้านตะวันออก ต้องเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ แม่สาย แม่ฟ้าหลวง แม่จัน และอำเภอเชียงแสน ที่มีพื้นที่เชื่อมต่อกับรัฐยะไข่นั้น พบผู้ลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ โดยไม่ผ่านกระบวนการกักตัว ตามนโยบายของประเทศไทย จึงต้องยกระดับมาตรการเฝ้าระวัง การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น
ที่ผ่านมา เชียงราย ยังคงมีการติดตาม และป้องกัน ไวรัส โควิด-19 อย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่มีผู้ติดเชื้อภายในจังหวัด มาเกิน 100 วันแล้วก็ตาม หลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างเข้มงวด ในพื้นที่ชายแดน โดยร่วมกับกองกำลังผาเมือง และหน่วยในพื้นที่ ทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) นรข.เขตเชียงราย ศุลกากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมือง ดำเนินการป้องกัน และคัดกรอง ผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศอย่างรัดกุม ขอให้ประชาชนในพื้นที่ อย่าแตกตื่น หรือตื่นตระหนก จนเกินไป
นอกจากนี้ สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ยังได้ลงพื้นที่ สุ่มตรวจประชาชน ในพื้นที่เสี่ยงทั้ง 4 อำเภอ ซึ่งขณะนี้ ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ
ทางด้าน พ.อ.จักรกริศน์ ที่ปรึกษา กองกำลังผาเมือง กล่าวว่า ทางกองกำลังผาเมือง ได้จัดกำลังทหาร ลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบ ในเขตแนวชายแดน ที่ติดกับ เมียนมา สลับกับการใช้ โดรนบินตรวจตรา หากพบมีการลักลอบข้ามพรมแดน ก็จะเข้าไปดำเนินการจับกุมในทันที
นอกจากนี้ ยังได้มีการติดตั้งไฟส่องสว่าง ในจุดที่มืด และติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่ม เพื่อตรวจตราตลอด 24 ชั่วโมง รวมไปถึงเพิ่มลวดหนามแบบหีบเพลง ในจุดต่างๆ ตามช่องทางธรรมชาติ และท่าข้ามตามจุดผ่อนปรนต่างๆ เพื่อเสริมความแข็งแรงในแต่ละจุด ทำให้การลักลอบเข้าข้ามพรมแดนเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น
ขณะที่ พ.อ.ชาตรี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 2 กล่าวถึงการจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติว่า ดำเนินการจับกุมไปแล้ว 106 ครั้ง รวมผู้ต้องหา 332 ราย ซึ่งก็ได้ร่วมกับ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พรมแดนแม่สาย ในการคัดกรอง ก่อนที่จะผลักดัน กลับประเทศต้นทาง ตามกระบวนการของเจ้าหน้าที่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย
นอกจากพื้นที่ชายแดนด้านติดกับเมียนมาแล้ว ยังมีรายงานว่า พื้นที่ชายแดนเมียนมา ในเขตที่ติดกับอำเภอเชียงแสน ซึ่งมี กาสิโน คิงส์ โรมัน ตั้งอยู่นั้น มีนักท่องเที่ยวชาวจีนตกค้างอยู่ประมาณ 10,000 คน โดยนักท่องเที่ยวเหล่านี้พยายามลักลอบข้ามแม่น้ำโขง เข้ามาในไทย แสดงตัวให้เจ้าหน้าที่ไทยควบคุมตัว เพื่อส่งกลับประเทศจีน
ช่วงเดือนที่ผ่านมา สามารถจับกุมได้ 18 ราย ซึ่งจากนี้ไป เจ้าหน้าที่จะได้เข้มงวดไม่ให้เข้ามาขึ้นฝั่งไทยโดยเด็ดขาด และจะให้กลับไปที่เดิมก่อน เนื่องจากยังไม่มีมาตรการรองรับกลุ่มคนดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ นายสันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง อาจารย์พิเศษ คณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Sunt Srianthumrong” เรียกร้องให้รัฐบาล เฝ้าระวังพรมแดนไทย-เมียนมา เนื่องจากเมียนมาเจอการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 2 แล้ว และหากเป็นไปได้ควรส่งผู้เชี่ยวชาญ เข้าไปช่วยเมียนมารับมือโรคระบาดด้วย
ภาพ: เฟซบุ๊กเพจ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- นักวิชาการจี้ ‘ปิดพรมแดนเมียนมา’ เจอโควิดระบาดรอบ 2 หวั่นคุมไม่อยู่
- เมื่อ ‘ศาสนา’ คือต้นตอโควิด-19 ระบาดรอบใหม่ในเกาหลีใต้ ติดเชื้อทุบสถิติสูงสุด
- ยอดโควิดวันนี้ 27 ส.ค. ทั่วโลก 24.33 ล้าน ‘อินเดีย’ หยุดไม่อยู่ วันเดียวเจอรายใหม่ 7.5 หมื่นคน
