COVID-19

สธ. ผนึกภาคีเครือข่าย วางแนวทางสถานพัฒนา ‘เด็กปฐมวัย วิถีชีวิตใหม่’

เด็กปฐมวัย วิถีชีวิตใหม่ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับภาคีเครือข่าย แนะสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เน้นคัดกรอง จัดกิจกรรมกลุ่มย่อย เว้นระยะห่าง

นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดี กรมอนามัย เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ จัดมาตรการการป้องกันโควิด-19 ในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียน สำหรับ เด็กปฐมวัย วิถีชีวิตใหม่

เด็กปฐมวัย วิถีชีวิตใหม่

ทั้งนี้ จะวางมาตรการป้องกันตั้งแต่ ก่อนเปิดสถานรับเลี้ยงเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย และ จัดทำแนวปฏิบัติ สำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีมาตรการควบคุมหลัก และมาตรการเสริม ตามคำสั่ง ศูนย์บริหารสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19)

สำหรับ วิถีชีวิตใหม่ ในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ของกรมอนามัย จะมี 2 ส่วนคือ ครอบครัวเด็ก เน้นการเว้นระยะห่างระหว่างครัวเรือน และเมื่ออยู่ในสถานพัฒนาเด็กฯ จะมีการวัดไข้ ผู้ปกครองและเด็ก ก่อนเข้าสถานที่ เมื่อครูพี่เลี้ยงรับเด็กแล้วจะพาไปล้างมือ ล้างเท้า อาบน้ำ เปลี่ยนชุด และหน้ากากอนามัยใหม่

นอกจากนี้ จะมีการจัดกลุ่มเด็ก เป็นกลุ่มย่อย 5 คนต่อครูพี่เลี้ยง 1 คน เว้นระยะห่างขณะเด็กทำกิจกรรม 1 – 2 เมตร ครูและเด็กอายุมากกว่า 2 ปีสวมหน้ากากตลอดเวลา หากพบเด็กมีไข้ จะแยกตัว และแจ้งให้ผู้ปกครอง มารับกลับบ้านทันที

ตัวอย่างมาตรการ ที่วางแนวทางไว้ เช่น การทำความสะอาดพื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อย สวมหน้ากากตลอดเวลา จัดจุดล้างมือ การเว้นระยะนั่ง ยืน ที่นอนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ลดกิจกรรมรวมกลุ่ม ลดจำนวนเด็กโดยแบ่งกลุ่มย่อย มีการลงทะเบียน ก่อนเข้าและออก จากสถานที่ คัดกรองไข้เด็ก ผู้ปกครอง ครูพี่เลี้ยงก่อนเข้าอาคาร จัดระบบระบายอากาศ

ขณะเดียวกัน สำหรับครูพี่เลี้ยง ต้องผ่านการฝึกอบรม ด้านการป้องกันควบคุมโรค และให้เจ้าของกิจการ ลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์ม Thaistopcovid ประเมินความพร้อมตนเอง ก่อนเปิด ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 90 ผ่านเกณฑ์

นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์
นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์

ด้านคุณรัชยา สุพโปฎก ผู้อำนวยการ โรงเรียนไผทอุดมศึกษา กล่าวว่า โรงเรียนไผทอุดมศึกษา ได้ปฏิบัติตามแนวทาง ที่กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการกำหนด ทั้งการจัดสภาพแวดล้อมในโรงเรียน ให้มีการเว้นระยะ เส้นทางเดินไม่สวนทางกัน จัดที่ล้างมือเพิ่ม ให้เด็กนำน้ำส่วนตัว มาจากบ้าน งดกิจกรรมรวมกลุ่ม งดใช้สนามเด็กเล่น/ ห้องสมุด เพื่อลดความเสี่ยง การสัมผัสสิ่งของร่วมกัน

พร้อมกันนี้ ยังได้แบ่งรอบ การรับประทานอาหาร เพื่อลดแออัด กำหนดจุดยืนระหว่างรอรับอาหาร สำหรับเด็กอนุบาล เว้นระยะห่าง โดยกำหนดจุดนั่ง งดใช้โต๊ะ มุมหนังสือ เปลี่ยนผ้าคลุมที่นอนเป็นพลาสติก เพื่อให้ทำความสะอาดได้ทุกวัน งดใช้เครื่องเล่น และเว้นระยะขณะเข้าห้องน้ำ

ในส่วนของเด็กเล็ก จะให้สวมเสื้อคลุมมาจากบ้าน และถอดออกเมื่อเข้าโรงเรียน วัดไข้และบันทึกอุณหภูมิประจำวัน ล้างมือ ล้างเท้า พ่นแอลกอฮอล์ที่กระเป๋านักเรียน ลดจำนวนเด็กต่อห้อง นั่งเว้นระยะ 1.8 เมตร/ มีฉากกั้น แยกของใช้ส่วนตัวเด็ก ใช้สื่ออุปกรณ์ต่างๆ เป็นรายบุคคล และมีถุงยังชีพโควิด 19 ใส่เจลแอลกอฮอล์ หน้ากากสำรอง ช้อนส้อม กระติกน้ำ ผ้าเช็ดหน้า มาจากบ้าน

ส่วนครู เมื่อมาถึงโรงเรียนจะล้างตัว เปลี่ยนเสื้อผ้า วัดไข้ และบันทึกทุกคน รวมทั้งมีการสำรวจ ความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด 19 ด้วย นอกจากนี้ ได้ปรับระบบการสื่อสารชี้แจง แนวปฏิบัติต่าง ๆ ถึงผู้ปกครองผ่านระบบออนไลน์ เพื่อให้เด็กได้มาเรียน อย่างปลอดภัย ซึ่งโรงเรียน ได้ผ่านการตรวจประเมิน จากกระทรวงศึกษาธิการ เขตพื้นที่การศึกษา และกระทรวงสาธารณสุขแล้ว 2 ครั้ง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo