ศบค.ระบุตัวเลขคนเดินทางพุ่ง 9.6 แสนคนต่อวัน วอนผู้เดินทางระมัดระวัง อยู่บ้านดีที่สุด จำเป็นออกนอกบ้านต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา เหตุยังมีพาหะในสังคม กลุ่มผู้ป่วยมากสุด อายุเฉลี่ย 39 ปี เป็นวัยทำงาน ยังเดินทางไปมา
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โรคประจำวันที่ 1 พฤษาคม 2563 โดยวันนี้มีสถิติต่ำที่สุดหลายเรื่อง ทั้งมีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ต่ำที่สุด จำนวน 6 ราย และมีผู้รักษาตัวในรพ.ผู้เสียชีวิตต่ำกว่าสองร้อยครั้งแรกเหลือ 187 ราย ออกจากรพ.เพิ่ม 32 ราย รวมออกจากรพ.แล้ว 2,719 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยังคงตัวเลข 54 ราย
สำหรับผู้ป่วยสูงสุดเป็นกลุ่มอายุ 20-29 ปี จำนวน 709 ราย อายุเฉลี่ย 39 ปี ถือเป็นวัยแรงงาน มีร่างกายแข็งแรงดี ก็ต้องระมัดระวัง เพราะตอนนี้ถนนหนทางรถราแน่นขนัดเหมือนเทศกาลวันหยุดยาวหลายครั้ง ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถสาธารณะ การเดินทางราง โดยพบว่ารวมแล้ว กลางเดือนเมษายน เดินทาง 800,000 ราย 23 เมษายน เพิ่มเป็น 848,000 ราย และวานนี้ (30 เม.ย.) 960,000 รายต่อวัน
“คงมาจากหลายคนผ่อนคลาย จึงออกนอกบ้านกัน แต่ขอย้ำว่ามีความเสี่ยง เพราะตัวเลขติดเชื้อรายวันยังไม่เป็นศูนย์ เราเชื่อว่ายังมีพาหะในสังคมอยู่ หากจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ต้องใส่หน้ากาก และต้องใส่ติดตัว จนเป็นอวัยะของเราเลย ส่วนวิธีการจัดที่นั่งอย่างใรให้ปลอดภัย ผู้ให้บริการจัดให้มีการเว้นระยะ จะดีที่สุด ทั้งการขนส่งสาธารณะทางรถสาธารณะ หรือทางเครื่องบิน เพราะหากผู้ติดเชื้อไอจาม และคนนั่งหลังติดกันไม่ได้ใส่หน้ากาก ย่อมติดเชื้ออยู่แล้ว ส่วนรถยนต์นั่งส่วนบุคคล อาจทำได้ยาก ก็ขอให้ใส่หน้ากากตลอดการเดินทาง “
สำหรับผู้ติดเชื้อรายจังหวัดรายใหม่วันนี้ 6 ราย มาจากการป่วยระหว่างอยู่ State Quarantine ในพื้นที่กรุงเทพ 3 ราย ภูเก็ต 3 ราย และกระบี่ 1 ราย กรุงเทพพบผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 1,489 ราย ภูเก็ต 216 ราย นนทบุรี 157 ราย และมี 10 จงหวัดไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อ
สำหรับรายงานการกระทำผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เหตุของการออกนอกเคหสถาน ดำเนินคดีไป 545 ราย ตักเตือน 42 ราย ชุมนุมมั่วสุม 154 ราย โดยส่วนใหญ่เล่นพนัน และมักเป็นผู้หญิง ขอให้คนในครอบครัวช่วยกันตักเตือน
- 1 พ.ค. วันแรงงาน ไทยมีผู้ป่วยโควิดน้อยสุด 6 คน ลุงวัย 64 ติดจากตลาดในกทม. ไร้ผู้เสียชีวิตรายใหม่
- อัพเดทสถานการณ์ ‘ไวรัสโควิด-19’ วันที่ 1 พฤษภาคม 2563
- วัดชะตา ! 14 วัน ผู้ป่วยโควิด-19 ไม่เกิน 20-30 ราย/วัน เดินหน้าผ่อนปรนเฟส 2-3 ต่อ
