อภ. ประกาศด่วน ! ชวนผู้ประกอบการ เข้าร่วมจัดหาหน้ากาก N 95 และ ชุด PPE ให้บุคลากรการแพทย์ รับมือโควิด-19 เหตุยังต้องการสูง ชนิดละ 5 ล้านชิ้น เพื่อสำรอง และจัดส่งให้ บุคลากรทางการแพทย์มีใช้เพียงพอ
นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ในฐานะทำหน้าที่จัดหา และกระจายทร้พยากรทางการแพทย์ ที่จำเป็นให้บุคลากรการแพทย์รับมือโควิด-19 กล่าวว่าอภ.ได้ออกประกาศด่วน เพื่อเชิญชวนให้ ผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่าย อุปกรณ์และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ จัดหาหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ชนิด N 95 รูปแบบคล้องศรีษะ ไม่มีรอยตะเข็บกลาง และ ชุดอุปกรณ์ป้องกันร่างกาย หรือ PPE แต่เวชภัณฑ์ดังกล่าวต้องผ่านการรับรองคูณภาพจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เท่านั้น เนื่องจากยังต้องการอีกมากให้เพียงพอกับความต้องการ
ทั้งนี้ในช่วงเดือนเมษายน และพฤษภาคม อภ. มีเป้าหมายจัดซื้อเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ป้องกันโรค COVID-19 ประกอบด้วย หน้ากากอนามัย N95 และชุดป้องกันตนเอง PPE เกรดทางการแพทย์ ชนิดละประมาณ 6.67 แสนชิ้น พร้อมจัดหาอย่างต่อเนื่องชนิดละประมาณ 5 ล้านชิ้น เพื่อสำรอง และจัดส่งให้บุคลากรทางการแพทย์มีใช้อย่างเพียงพอ โดยตั้งแต่วันที่ 2 -15 เมษายน 2563 ได้จัดซื้อ และกระจายเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ ดังนี้
1.หน้ากากอนามัย Surgical Mask จัดซื้อ และให้บริษัทไปรษณีย์ไทย เป็นผู้กระจายไปแล้ว ประมาณ 21.4 ล้านชิ้น วันนี้มีคงคลัง 11 ล้านชิ้น ปัจจุบันมีการใช้ต่อวัน 4.34 แสนชิ้น เหลือใช้ตามพื้นที่ 27 วัน โดยต้องดูแลโรงพยาบาลทุกสังกัด รวมถีงโรงพยาบาลเอกชน ในระหว่างวันที่ 12-15 เมษายน มีจำนวนรับเข้า 21 ล้านชิ้น หรือ 1.5 ล้านชิ้นตต่อวัน จัดส่งไปแล้ว 18 ล้านชิ้น หรือ 1.3 ล้านชิ้นต่อวัน
หน้ากากอนามัย N95 ต้องการอีกมากประมาณ 5 ล้านชิ้น โดยเดือนนี้ จะมีการจัดสรร 5.8 แสนชิ้น จากบริษัทสยามโคเคน และ 3M ปัจจุบันใช้วันละ 13,900 ชิ้น หรือเดือนละ 6 แสนชิ้น ขณะนี้มีสำรองอยู่ที่โรงพยาบาลต่าง ๆประมาณ 8 หมื่นชิ้น รอจัดสรร และสำรองกรณีฉุกเฉินเร่งด่วนที่ อภ.ประมาณ 8.7 หมื่นชิ้น อย่างไรก็ตามมีความพยายามจากหลายภาคส่วนมาช่วยกัน
โดยเฉพาะโครงการพัฒนา หน้ากากซิลิโคน หรือ หน้ากาก N 99 โดยวชิรพยาบาล พัฒนาหน้ากาก ให้สามารถนำกลับมาใช้ได้ประมาณ 20 ครั้ง ผลิตให้โรงพยาบาลไปแล้ว 3,000 ชิ้น ตั้งเป้าผลิต 5,000 ชิ้น โดยได้รับควมร่วมมือจากหลายองค์กร และอภ.ก็สนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาไปด้วย
2.ชุด PPE (Coverall/Surgical Gown) เราต้องการ 5 ล้านชุดสำหรับบุคลากรหน้างานจริงๆ หาได้จาก 3 แหล่ง จากบริษัท Lakeland เวียดนามเดือนนี้ 1.36 แสนชุด และ Sport Import 1 แสุนชุด รวมถึง DKSH : Surgical Gown 1 แสนชุด โดยวันนี้มีสถิติการใช้ 1.8 หมื่น คงสำรอง 1.1 หมื่น และต้องการคลุมทับ 3,266 ชุด
ขณะเดียวกันได้พัฒนาผู้ประกอบการในประเทศ ให้ผลิตเอง เป็นการตัดเย็บผลิตชุด PPE แบบซักใช้ซ้ำได้ หรือชุดเสื้อคลุมแขนยาวกันน้ำชนิดใช้ซ้ำได้ (Reusable Isolation Gown) เป็นการใช้เอง ภายในประเทศจำนวน 40,000 ชุด นั้น ล่าสุด (วันที่ 17 เมษายน 63 ) ได้ประชุมร่วมกับสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ และสหพันธ์อุตสาหกรรมสิ่งทอแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยผู้แทนจาก 12 บริษัท ที่ผ่านเกณฑ์จาก อย. ทำความเข้าใจเรื่องคุณภาพการตัดเย็บ
ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบประสิทธิภาพการซักซ้ำ และจะทดสอบอีกครั้ง หลังตัดเย็บเรียบร้อยแล้ว หากผ่านการทดสอบแล้ว จะตัดเย็บเพื่อส่งมอบต่อไป ซึ่งคาดว่าจะทำให้มี ชุด PPE แบบ Isolation Gown ทดแทนได้ถึง 800,000 ชุด และจะทยอยตัดเย็บให้เพียงพอใช้ในประเทศ
3.ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) จัดซื้อมาแล้วทั้งสิ้น 1.87 แสนเม็ด กำลังนำเข้ามาอีกจากญี่ปุ่น 1.386 แสนเม็ดในเดือนนี้ และสั่งเพิ่มจากจีน 2 แสนเม็ด ใช้ 682 ราย เหลือ 30,000 เม็ด ใช้แล้ว 5.45 หมื่นเม็ด และคงสำรอง 94,000 เม็ด จากจีน 93,000 เม็ด และญี่ปุ่น 1,000 เม็ด
สำหรับหน้ากาก N 95 มีผลิตในประเทศ 1 โรงเท่านั้น ที่เหลือต้องนำเข้า และต้องมีคุณภาพ ผ่านการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยา (อย.) ทาง อภ.จึงต้องประกาศข่าว ให้ผู้ประกอบการรายใด มีความพร้อมในการจัดหา ทั้งแบบเฉพาะเจาะจง และประมูล ทั้งนี้เพื่อจัดหาทรัพยากรเหล่านี้ให้บุคลากรการแพทย์ มีทรัพยากรที่เหมาะสม และมีคุณภาพ รับมือโควิด-19
“ในช่วงที่ผ่านมา ได้จัดซื้อจากแหล่งผลิตทั้งใน และต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตใหญ่ ที่สามารถจัดหาให้ได้ในปริมาณ ที่เพียงพอต่อความต้องการ โดยปรับแนวทางการสั่งซื้อ ขอให้สถานทูตจีน เป็นผู้ประสานเจรจาในการจัดหา เพื่อสร้างความมั่นใจทั้งในเรื่องคุณภาพ ราคา และความน่าเชื่อถือของบริษัทด้วย”
นพ.วิฑูรย์ กล่าวถึงการใช้ยา ฟาวิพิราเวียร์ รักษาผู้ป่วย Covid-19 ว่า แม้ว่าตอนนี้ยา ฟาวิพิราเวียร์ มีสรรพคุณการรักษาที่ดีที่สุด แต่เป็นห่วงผู้ป่วย สตรีตั้งครรภ์ เนื่องจากไม่สามารถจ่ายยา ฟาวิพิราเวียร์ ได้ เพราะมีผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ อีกทั้งไม่แนะนำสตรี ที่ให้นมบุตรใช้ยาตัวนี้เช่นเดียวกัน หากใช้ยาให้หยุดการให้นม
- ต้องใช้ซ้ำ ! หน้ากาก N95 ขาดแคลนหนัก เหตุนำเข้าจากสหรัฐติดขัด ประกาศ! รับบริจาค
- รพ.จุฬา ขาดหน้ากาก N 95 หนัก เหลือใช้ไม่ถึง 2 อาทิตย์
- ‘หมอหนู’ ห่วงบุคลากรทางการแพทย์ เร่งหาชุด PPE
