COVID-19

3 สถานการณ์โลก กับ ‘โควิด-19’ ที่ต้องรู้!

3 สถานการณ์โลก ที่ต้องรู้ผ่านยอดติดเชื้อผู้ป่วย จาก 4 มาตรการเข้มข้นของเกาหลี ทำให้ผู้ติดเชื้อเพิ่มหลักสิบต่อวัน และมาตรการผ่อนคลายของญี่ปุ่น ส่งผลยอดติดเชื้อถึง 400 รายในวันเดียว และการปรับมาตรการของจีน เพื่อค้นหาผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ 

วันนี้ (16 เม.ย.) ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้นำบทเรียนของ 3 ประเทศหลักมาเรียนรู้ร่วมกัน ประกอบด้วย เกาหลีใต้ จีน และญี่ปุ่น

julia roberts 2639315 640

เกาหลีใต้

ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 22 ราย มีตัวเลขผู้ป่วยสะสม 10,613 ราย เสียชีวิต 229 กว่าราย โดยมีการดำเนินมาตรการหลัก 4 เรื่อง ดังนี้

Korean 01

1. เปิดเผยข้อมูล และความโปร่งใส ของข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ทันทีที่พบ
2. การกักกันเชื้อ (Containment) และการชะลอการแพร่ระบาด (Mitigation) เริ่มทันที ที่ตรวจผู้ติดเชื้อคนแรกจากจีน เมื่อ 30 ธันวาคม 2562 และรณรงค์การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ตั้งแต่ตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 909 ราย ณ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 โดยทำเข้มข้น 15 วัน ( 22 มีนาคม – 5 เมษายน)

3. ระบบการตรวจโรค และรักษา โดยมีรพ.รักษาโควิด-19 รุนแรง 5 แห่ง จัดรพ.ชุมชน ดูแลผู้ป่วยอาการน้อยถึงปานกลาง รวมถึงจัดเตียงเสริมที่โรงแรม โรงยิม และหอพัก

4.การคัดกรองอย่างกว้างขวาง (Massive screening) และระบบการติดตามผู้ป่วยสงสัย (Fast tracking of suspect cases )
มีการติดตามตัวบุคคลสงสัยติดเชื้อ เป็นไปอย่างเคร่งครัด โดยมีแอปพลิเคชัน “corona 100 m”  ดึงข้อมูลจากหลายแห่ง รวมถึง location จากมือถือ และทำแผนที่ “coronamap site” แจ้งเตือนผ่าน SMS  และแสดงสัญลักษณ์ สีเขียว/เหลือง/แดง ใครติดเชื้อเดินไปไหน จะมีการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชัน ประชาชนก็จะหลีกเลี่ยงไม่ไปที่นั่น

นอกจากนี้ยังมีนโยบายเสริม เช่น การเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา โดยให้ไปโบสถ์ออนไลน์ หมายถึงอยู่บ้านแต่พิธีกรรมยังอยู่ เป็นต้น

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค.อธิบายว่า เราทำหลายๆอย่างไม่ต่างจากเกาหลีใต้ เราเปิดเผยข้อมูลทุกอย่างลงไปถึงระดับจังหวัด และเรามี State Quarantine ส่วนคุณภาพการรักษา ก็ไม่แตกต่างก้น เรามีรพ. และเตียงอย่างเพียงพอ ส่วนระบบการติดตามผูู้ป่วยสงสัย ไทยค้นหาแบบ Active Case เจาะกลุ่ม ไม่ทำแบบปูพรม  เพราะเรามีทรัพยากรจำกัด และคนตรวจก็เสี่ยงมาก แต่เราก็พบกลุ่มเสี่ยงไม่แตกต่างกัน

ข้อที่แตกต่างจากเกาหลี คือ เขาเปิดเผยข้อมูลประชาชนพอสมควร แต่สำหรับประเทศไทย เรื่องสิทธิส่วนบุคคลมีความสำคัญสูง แต่เกาหลีทำเช่นนั้น เพราะเขาผ่านการระบาดหลักหมื่นคนมาแล้ว จึงต้องเปิดผยข้อมูลส่วนบุคคลออกมา

panda 4421395 640

จีน

พบว่ามีผู้ป่วยไม่แสดงอาการซ้อนอยู่จำนวนมาก โดยมีผู้ต้องสงสัย 6,764 ราย มี 1,297 รายที่ป่วย หรือ 20% หรือ 1 คนอยู่รพ. นอกนั้น 4 คนไม่มีอาการ และเป็นพาหะนำโรค จึงเป็นเรื่องน่ากังวลของจีนเวลานี้

นพ.ทวีศิลป์ ระบุว่า ขนาดยักษ์ใหญ่อย่างจีน ผ่านสถานการณ์หนักมาแล้ว ยังไม่สบายใจ โดยทางการจีนดูอาการหลักๆของคนเข้าข่าย คือ ไอแห้งๆ และมีไข้ ต่อมาเพิ่มเติมอีก 2 อาการ คือ สูญเสียการได้กลิ่น และรับรส เมื่อเราเรียนรู้กัน ดังนั้นหาก ท่านใดมีอาการ 4 อย่างดังต่อไปนี้ 2-3 วัน หากรวมมีไข้ต่ำด้วย ให้รีบมาตรวจรักษา ประกอบด้วย

1.ไอแห้งๆ
2. มีไข้
3. สูญเสียการได้กลิ่น
4. รับรสไม่ดี กินของไม่อร่อย

flowers 3344915 640

ญี่ปุ่น

พบว่าสถานการณ์ทรุดหนัก เมื่อวันพุธที่ 15 เมษายน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 457 ราย คาดการณ์กรณีเลวร้าย อาจมีการติดเชื้อถึง 850,000 รายทั่วประเทศ และอาจมีผู้เสียชีวิตครึ่งหนึ่ง หากไม่ดำเนินการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด จากปัจจุบันติดเชื้อสะสมรวม 8,626 ราย ยอดผู้เสียชีวิต 178 ราย และ 1 ใน 4 อยู่ในโตเกียว

ตอนนี้ญี่ปุ่นก็กลับมากังวลแล้ว เพราะมีประชากรผู้สูงอายุมากที่สุดในโลก และต้องประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ผ่อนคลายธุรกิจต่างๆ ยังเปิดดำเนินการ และมีคนการออกไปทำงาน และใช้รถขนส่งมวลชน ประเด็นนี้อาจทำให้ญี่ปุ่นกลับมาติดเชื้อเพิ่มอีก

เปรียบเทียบประเทศไทย เราส่งสัญญานกันมาว่าจะมีผู้ป่วยถึง 350,000 รายในกลางเดือนเมษายนี้ ทำให้ที่ผ่านมา ต้องดำเนินมาตรการต่างๆอย่างเข้มข้น นพ.ทวีศิลป์ ย้ำว่า หากเราเรียนรู้จากประเทศต่างๆอย่างนี้ ดังนั้นการ์ดเราต้องไม่ตก ขอให้เราดูญี่ปุ่นรวมถึงสิงคโปร์ ที่มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสูงในระยะหลังมานี้ จนแซงหน้าไทย สิงคโปร์ขึ้นไปเป็นอันดับที่ 48 ขณะที่ไทยอยู่อันดับ 50

ดังนั้นหากเราจะผ่อนคลายมาตรการ ขอให้ดูประเทศที่ผ่อนคลายมาก่อน แล้วผลออกมาเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตามตอนนี้เราได้เห็นการกระจายอำนาจลงไปในจังหวัดอย่างชัดเจน ก็เป็นเรื่องที่จังหวัดจะพิจารณาเอง ว่าจะผ่อนคลายที่ไหน โดยใช้ข้อมูลที่มีอยู่

16Apr รายงานการดำเนินคดี

16Apr รายงานการดำเนินคดี 10จังหวัด

และเรามาดูความร่วมมือ พบว่ายังคงมีการฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รายวัน 1,005 ราย ออกนอกเคหะสถาน 832 ราย ชุมนุมมั่วสุม 173 ราย จะเห็นได้ว่าคนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือ แต่มีคนกลุ่มหนึ่ง ยังทำผิดอยู่ และได้มีการทำข้อมูล 10 จังหวัดที่พบการฝ่าฝืนเคอร์ฟิว ต้องขอบคุณ เพราะเรามองอีกแง่ว่า จังหวัดเหล่านี้ต้องผ่านการทำงานหนักของเจ้าหน้าที่ ที่ทำงานตลอดคืน และประชาชนก็ช่วยกันโทรมาแจ้ง ทำให้เก็บคดีได้มากขึ้น

Avatar photo