ศูนย์จีโนมฯ เผยคนไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไม่สวมหน้ากากอนามัย ทุก 1 ชั่วโมงบนเครื่องบินเพิ่มอัตราติดเชื้อสูงขึ้นถึง 1.53 เท่า แนะสวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics เรื่อง ถอดบทเรียนจากการเดินทางด้วยเครื่องบินอย่างไรให้ปลอดภัยจากโควิด-19 โดยระบุว่า

ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด และไม่สวมหน้ากากอนามัย จะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาที่อยู่บนเครื่องบินที่นานขึ้น โดยทุก ๆ 1 ชั่วโมงที่เพิ่มขึ้น อัตราการติดเชื้อจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 1.53 เท่า
การเดินทางโดยเครื่องบิน ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิดไปทั่วโลก เนื่องจากเป็นพาหนะที่ขนส่งผู้ที่มีเชื้อไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว แต่การจำกัดหรือยกเลิกเที่ยวบินก็ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการบินและการท่องเที่ยวอย่างหนัก
ดังนั้น การรักษาความปลอดภัยของผู้โดยสารบนเครื่องบิน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญ
ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ร่วมกับนักวิจัยจากสถาบันอื่น ๆ ได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาในวารสาร International Journal of Environmental Research and Public Health เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2567 ซึ่งชี้ให้เห็นถึงปัจจัยเสี่ยงสำคัญของการแพร่ระบาดของโควิดบนเครื่องบิน

การศึกษานี้ได้ทบทวนงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในช่วงก่อนที่จะมีการแจกจ่าย และฉีดวัคซีนอย่างแพร่หลาย ระหว่างวันที่ 24 มกราคม 2563 ถึง 20 เมษายน 2564 รวมทั้งสิ้น 50 เที่ยวบิน ซึ่งแบ่งเป็นเที่ยวบินระยะสั้น (น้อยกว่า 3 ชั่วโมง) ระยะกลาง (3-6 ชั่วโมง) และระยะยาว (มากกว่า 6 ชั่วโมง)
เปิดผลการศึกษา
- การแพร่กระจายเชื้อโควิด บนเครื่องบิน มีความสัมพันธ์กับระยะเวลาการบินที่ยาวนานขึ้น โดยเฉพาะหากไม่มีมาตรการสวมหน้ากากอนามัยอย่างเข้มงวด ในขณะที่ระยะห่างระหว่างที่นั่งอาจมีผลไม่มากนัก
- เที่ยวบินระยะสั้น (น้อยกว่า 3 ชั่วโมง) ที่ไม่มีการสวมหน้ากากอนามัย ส่วนใหญ่จะไม่เกิดการแพร่เชื้อ (77%)
- เที่ยวบินระยะกลาง (3-6 ชั่วโมง) ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย มีโอกาสติดเชื้อเพิ่มขึ้น 4.6 เท่า (ไม่เกิดการแพร่เชื้อ 58%) เมื่อเทียบกับเที่ยวบินระยะสั้น
- เที่ยวบินระยะยาว (เกิน 6 ชั่วโมง) ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยมีโอกาสเกิดการแพร่เชื้อสูงถึง 67% และมีอัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้น 26 เท่าเมื่อเทียบกับเที่ยวบินระยะสั้น
- ขณะที่เที่ยวบินระยะยาวที่มีการบังคับสวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัดไม่พบการแพร่เชื้อเลย (0%)
- ทุก ๆ การเพิ่มขึ้นของเวลาบิน 1 ชั่วโมง จะมีอัตราการติดเชื้อสูงขึ้นถึง 1.53 เท่า

ดังนั้น ในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่มีการฉีดวัคซีน (เข็มกระตุ้น) จึงควรให้ความสำคัญกับมาตรการสวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด ตลอดระยะเวลาการโดยสารทางอากาศ
โดยเฉพาะในเที่ยวบินที่มีระยะเวลานาน สายการบินอาจพิจารณาเพิ่มมาตรการความปลอดภัยในเที่ยวบินเหล่านี้ เช่น การเว้นระยะห่างที่นั่ง หรือกำหนดให้ผู้โดยสารต้องแสดงผลตรวจโควิดที่เป็นลบ และลดความเสี่ยงจากการรับประทานอาหารร่วมกันโดยกำหนดให้เป็นมื้อสั้น ๆ
แม้การศึกษาที่กล่าวมายังมีข้อจำกัดบางประการ เนื่องจากเป็นข้อมูลในระยะแรกของการระบาดด้วยสายพันธุ์ดั้งเดิม และยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคโควิด แต่มาตรการเหล่านี้ก็อาจจะสามารถนำมาปรับใช้เพื่อลดความเสี่ยงได้ ในสถานการณ์การระบาดครั้งใหม่ในอนาคต
การร่วมมือกันอย่างจริงจังของทุกภาคส่วน จะช่วยทำให้การเดินทางด้วยเครื่องบินเป็นไปอย่างปลอดภัยและมั่นใจมากขึ้นในยุควิกฤติโรคระบาดเช่นนี้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ถอดบทเรียนการแพร่ระบาดโควิด-19 จากตลาดนัดกลางคืน
- เมื่อน้ำเสียพูด บทเรียนจากการเฝ้าระวังโควิด-19 ในสหรัฐ หวั่นระบาดระลอกใหม่
- ‘ดร.อนันต์’ ชี้โควิด เกิดมา 4 ปีกว่าแล้ว แต่ยังไม่มีใครรู้ว่าต้นกำเนิดมาจากไหน
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg