โควิดรอบใหม่มาแล้ว รพ.รามา ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงหน่วยงานในสังกัด ปรับแผนรับมือโควิดสายพันธุ์ลูกผสม XBB* หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม
โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ออกหนังสือด่วนที่สุดถึง รองคณบดีฝ่ายต่างๆ, ผู้อำนวยการโรงพยาบาล, ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์, หัวหน้าภาควิชา,ผู้อำนวยการโรงเรียนแพทย์รามาธิบดี, ผู้อำนวยการโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี, ประธานองค์กรแพทย์, หัวหน้าฝ่าย/งาน/หน่วย/ศูนย์ เพื่อเพิ่มมาตรการรองรับตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้น และโควิดสายพันธุ์ลูกผสม โดยระบุว่า
เนื่องด้วยในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรากฏจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่ admit ในโรงพยาบาลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และพบมีโควิดสายพันธุ์ลูกผสม (XBB*) เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะไม่ตอบสนองการรักษาด้วย Long-acting antibody (LAAB) เพื่อให้บริการผู้ป่วยมีความเหมาะสมกับสถานการณ์ จึงขอปรับแนวทางการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ดังนี้
1. ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ไม่มีอาการ
- ให้การรักษาแบบผู้ป่วยนอก โดยรักษาตามอาการ ไม่ต้องให้ยาต้านไวรัส เนื่องจากส่วนมากหายได้เอง
2. ผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง/โรคร่วมสำคัญ
หรือภาพถ่ายรังสีปอดปกติ
- ให้การรักษาแบบผู้ป่วยนอก โดยรักษาตามอาการ ไม่ให้ยาต้านไวรัส เนื่องจากส่วนมากหายได้เอง
3. ผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรง แต่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรงหรือมีโรคร่วมสำคัญ หรือผู้ป่วยที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงแต่มีปอดอักเสบ (pneumonia) เล็กน้อยถึงปานกลางยังไม่ต้องให้ออกซิเจน
- ให้การรักษาแบบผู้ป่วยนอก โดยพิจารณาให้ ยาต้านไวรัส ภายใน 5 วัน ตั้งแต่เริ่มมีอาการ ดังนี้
ยา Nirmatrelvir+ritonavir และให้ตรวจสอบ drug interaction ก่อนใช้ยาตาม QR code หรือ
ยา Remdesivir โดยสั่ง IV drip ที่ห้องแยก อ.4 เป็นเวลา 3 วันต่อกัน
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโควิด-19 รุนแรงหรือมีโรคร่วมสำคัญ
- อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป
- โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) (GOLD grade 2 ขึ้นไป) รวมโรคปอดเรื้อรังอื่น ๆ
- โรคไตเรื้อรัง (CKD) (Stage 3 ขึ้นไป)
- โรคหัวใจและหลอดเลือด (NYHA functional class 2 ขึ้นไป รวมโรคหัวใจแต่กำเนิด
- โรคหลอดเลือดสมอง
- โรคมะเร็งที่กำลังได้รับการรักษา
- เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้
- ภาวะอ้วน (น้ำหนัก >90 กก.หรือดัชนีมวลกาย >30 กก./ตร.ม.)
- ตับแข็ง (Child-Pugh class B ขึ้นไป)
- ภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ได้รับยากดภูมิหรือ corticosteroid ที่มีขนาดเทียบเท่ากับ prednisolone 15 มก./วัน นาน 15 วันขึ้นไป
- ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มี CD4 น้อยกว่า 200 เซลล์/ลบ.มม.
4. ผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีปอดอักเสบรุนแรงและมี hypoxia ให้การรักษาแบบผู้ป่วยใน และให้ยาต้านไวรัส Remdesivir ร่วมกับ corticosteroid หรือ ยากลุ่มอื่น ตามดุลยพินิจแพทย์ โดยให้ admit ที่หอผู้ป่วยตามความรุนแรง ดังต่อไปนี้
4.1 ผู้ป่วยที่รักษาด้วย High flow oxygen/ Respirator ให้ admit ที่หอผู้ป่วย SDICU95 (3 เตียง)
4.2 ผู้ป่วยที่รักษาด้วย oxygen cannula/ oxygen mask ให้ admit โดยใช้ห้อง AIIR ที่หอผู้ป่วย (2TP,
4NW, 4TW, 5SE, 5SW, 6NW และ 6NE) หรือห้องแยกเดี่ยวหรือห้องพิเศษอื่น ๆ
4.3 กรณีหอผู้ป่วยตามข้อ 4.1 หรือข้อ 4.2 เริ่มเต็ม ให้พิจารณาประสานส่งต่อที่โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ หรือโรงพยาบาลตามสิทธิการรักษาพยาบาลของผู้ป่วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- หวั่นใจ!! ยอดผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มหลังสงกรานต์ สธ.ยันรับมือไหว แนะกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีน
- ห้ามวางใจ!!โควิดระลอกใหม่ กำลังก่อตัวนทวีปเอเชีย พบ 30% เกิดจากการติดเชื้อซ้ำ
- ‘XBB.1.16’ โควิดสายพันธ์ใหม่ เจอในไทยแล้ว 6 ราย มาพร้อมอาการใหม่ เยื่อบุตาอักเสบ