COVID-19

คนไทยมีวินัย ใส่หน้ากากอนามัยในสถานที่เสี่ยง ป้องกันโควิดหลังผ่อนคลายมาตรการ

“หมอเฉลิมชัย” เผยคนไทยยังมีวินัย ระมัดระวังตัวเองจากโควิด ใส่หน้ากากอนามัยในสนามบินดอนเมืองถึง 98% ขณะที่ต่างชาติใส่เพียง 25%

นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย เรื่อง มีวินัยสูง!! คนไทยที่ใช้สนามบินดอนเมือง ยังใส่หน้ากากมากถึง 98% โดยต่างชาติใส่เพียง 25% โดยระบุว่า

ใส่หน้ากากอนามัย

สถานการณ์โควิดทั่วโลก แม้จะอยู่ในช่วงขาลง แต่ทางองค์การอนามัยโลกก็ได้ออกมาเตือนว่า ในช่วงปลายปีนี้ ประเทศซีกโลกภาคเหนือ ซึ่งจะเข้าสู่ฤดูหนาว และจะมีการเฉลิมฉลองต่อเนื่องกันหลายเทศกาล จะมีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดการระบาดของโควิดระลอกใหม่ได้

สำหรับประเทศไทยเรา ได้ผ่านจุดสูงสุดของระลอกโอไมครอนหรือปี 2565 ในช่วงปลายเดือนมีนาคมมาแล้ว
ด้วยสถิติผู้ติดเชื้อแบบ PCR วันละ 2.7 หมื่นราย ตรวจเอทีเคเป็นบวก 4.9 หมื่นราย และเสียชีวิตมากถึงวันละ 129 ราย

แต่ด้วยวินัยของการใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง และสมัครใจฉีดวัคซีนได้มากพอสมควร ก็ได้ทำให้ประเทศไทยเข้าสู่ช่วงขาลงด้วยเช่นกัน

จนกระทั่ง 1 ตุลาคม 2565 รัฐบาลได้ทำการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ตามความเหมาะสมดังนี้

1. ปรับเปลี่ยนโควิด จากโรคติดต่ออันตราย เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง

2. ยกเลิกการบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉิน ยกเลิก ศบค. มอบให้กระทรวงสาธารณสุขรับผิดชอบดูแลในลักษณะเดียวกับโรคติดต่ออื่น เช่น วัณโรค หรือไข้หวัดใหญ่

3. ไม่บังคับให้สวมหน้ากาก แต่ยังคงแนะนำให้สวมในสถานที่เสี่ยง หรือกิจกรรมเสี่ยง

หมอเฉลิมชัย

4. เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น

จึงทำให้มีคนสนใจกันมากว่า เมื่อมีการผ่อนคลายมาตรการดังกล่าว โดยเฉพาะการไม่บังคับต้องสวมหน้ากากแล้ว จะมีคนไทยยังสมัครใจใส่หน้ากากอนามัยในสถานที่เสี่ยง และกิจกรรมเสี่ยงมากน้อยเพียงใด

การเดินทางโดยเครื่องบิน จัดเป็นสถานที่เสี่ยง การเข้าสู่บริเวณสนามบินก่อนขึ้นเครื่อง ก็ถือว่าเป็นสถานที่เสี่ยงด้วยเช่นกัน

ผู้เขียนมีภารกิจต้องเดินทางไปเป็นองค์ปาถก ที่เชียงใหม่ และได้เดินทางโดยเครื่องบิน ที่สนามบินดอนเมือง เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2565

ระหว่างที่นั่งรอขึ้นเครื่องอยู่นั้น ได้ลองนับผู้ที่เดินผ่านไปผ่านมา โดยแยกจากลักษณะภายนอกและการพูดจา ว่าเป็นคนไทยกับคนต่างชาติ

พบว่าในจำนวน 200 คนไทย ใส่หน้ากากมากถึง 196 คน หรือ 98% ในขณะที่นับคนต่างชาติได้ 40 คนใส่หน้ากาก 10 คน คิดเป็น 25%

นับเป็นตัวเลขที่น่ายินดีสำหรับคนไทย ที่เรามีวินัยความระมัดระวังค่อนข้างสูง ยังคงใส่หน้ากากค่อนข้างมาก

การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว มีความจำเป็นแน่นอน แต่ถ้าคนไทยเรายังคงใส่หน้ากากไว้ ในกิจกรรมเสี่ยงต่าง ๆ แม้นักท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องจะไม่ใส่ เราก็จะยังปลอดภัย

shutterstock 1661902972

โดยมีกรณีตัวอย่าง เรือสำราญของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นเรือขนาดใหญ่รับนักท่องเที่ยวถึง 3,300 คน มีลูกเรือ 1,300 คน

ลูกเรือจะถูกบังคับให้ใส่หน้ากากทุกคน ตลอดเวลาที่ให้บริการนักท่องเที่ยว การเดินทางไปกลับนั้น ใช้เวลา 14 วันเพื่อไปเที่ยวนิวซีแลนด์

ส่วนนักท่องเที่ยวนั้นให้ใส่หน้ากากโดยสมัครใจ ก็พบว่า ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดไม่ได้ใส่หน้ากาก ระหว่างอยู่บนเรือ

เมื่อเดินทางกลับมาถึงซิดนีย์ ได้มีการตรวจเอทีเคทุกคน พบมีเอทีเค 2 ขีด 800 คน และเกือบทั้งหมดเป็นนักท่องเที่ยว โดยมีลูกเรือติดเชื้อน้อยมาก

แสดงให้เห็นถึงประสิทธิผลของการใส่หน้ากากอนามัยฝ่ายเดียว

ในฐานะเป็นเจ้าของประเทศ และมีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาจำนวนมากไม่ใส่หน้ากาก พวกเราส่วนใหญ่ที่ใส่หน้ากาก ก็จะยังคงปลอดภัยอยู่

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo