‘วราวุธ’ เตรียม ‘ทวงคืนค่าเสียหาย’ เหตุน้ำมันรั่ว ทุกบาททุกสตางค์ ทั้งความเสียหายทางเศรษฐกิจ ค่าเสียโอกาสทางการท่องเที่ยว การประมง การประกอบอาชีพของคนในพื้นที่ ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงงบที่รัฐต้องจ่ายในการแก้ปัญหา
วันนี้ (1 ก.พ.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า กรณีน้ำมันรั่วไหลจากท่อใต้ทะเลที่จ.ระยอง หลังจากควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันประเมินและสรุปความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทั้งความเสียหายทางเศรษฐกิจ ค่าเสียโอกาสทางการท่องเที่ยว การประมง การประกอบอาชีพของคนในพื้นที่ ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการแก้ปัญหา
“ยืนยันว่าจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุด เพื่อทวงคืนจากบริษัทต้นเหตุตามมูลค่าความเสียหายและค่าใช้จ่ายที่ภาครัฐใช้แก้ไขปัญหานี้ทุกบาท ทุกสตางค์”
ทั้งนี้ถือว่าโชคดีที่กระแสคลื่นลม ส่งผลให้ปริมาณคราบน้ำมันพัดเข้ามาถึงชายหาดแม่รำพึงไม่มากอย่างที่คาดการณ์ไว้ ขณะนี้ยังต้องป้องกันบริเวณอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด ซึ่งมีทั้งหาดทรายและปะการังน้ำตื้น โดยกำชับให้ทุกหน่วยงาน ทั้งของจากกระทรวง ทส. กองทัพเรือ รวมถึงประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันระดมทั้งเรือและ Boom สกัดกั้นบริเวณร่องเสม็ด
จากล่าสุดที่ตรวจพบคราบน้ำมันที่ชายหาดอ่าวพร้าว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเก็บตัวอย่างน้ำและดินตะกอนส่งตรวจในห้องปฏิบัติการเพื่อวิเคราะห์ว่าเป็นคราบน้ำมันที่รั่วไหลใต้ทะเลพัดขึ้นหาดหรือไม่
นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.มาบตาพุด ไว้เป็นหลักฐานว่า หากทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเกิดความเสียจากผลกระทบของคราบน้ำมันรั่วไหลครั้งนี้ กรมขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด ซึ่งเป็นต้นเหตุต่อไป
ล่าสุด ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก (ศวทอ.) ส่งเจ้าหน้าที่สำรวจระบบนิเวศปะการังและชายหาดอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด โดยสำรวจตลอดแนวหาดทรายระยะทาง 300 เมตรและหาดหินทั้งด้านในและด้านนอกของอ่าว รวมถึงดำน้ำสำรวจแนวปะการังตรงบริเวณน้ำตื้นจนถึงขอบแนวปะการังที่ความลึก 5 เมตร
ปรากฏว่าไม่พบคราบน้ำมันบนหาดทรายและหาดหิน รวมถึงไม่พบคราบน้ำมันบนผิวโคโลนีปะการัง ส่วนพฤติกรรมของสัตว์น้ำในบริเวณระบบนิเวศที่สำรวจ เช่น ปลาและหอย ยังคงเป็นปกติ
ส่วนผลการสำรวจระบบนิเวศหญ้าทะเล 1 สถานี ได้แก่ อ่าวเพ ที่ระดับความลึก 30 เซนติเมตร ชนิดหญ้าที่พบ ได้แก่ หญ้ากุยช่ายเข็ม หญ้ากุยช่ายทะเล และหญ้าใบมะกรูด ไม่พบคราบน้ำมันผิวน้ำทะเลและบนผิวใบหญ้าทะเลและไม่มีกลิ่นน้ำมัน คุณภาพน้ำทะเลอยู่ในเกณฑ์ปกติ (มาตรฐานคุณภาพน้ำทะเลประเภทที่ 4 เพื่อการนันทนาการ)
จากการติดตามคุณภาพสิ่งแวดล้อมทางทะเล ตลอดจนการปนเปื้อนของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนในสิ่งแวดล้อมทางทะเลบริเวณระบบนิเวศชายหาด 6 สถานีได้แก่ หาดสุชาดา หาดแสงจันทร์ หาดแม่รำพึง (คลองหัวรถ) หาดแม่รำพึง (ก้นอ่าว) บ้านเพ และหาดสวนสน เบื้องต้นพบว่า สภาพน้ำทะเลเป็นปกติ ไม่พบสัตว์น้ำตายเกยหาด
นายโสภณ กล่าวถึงกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “คนอนุรักษ์” ระบุข้อความว่า พบคราบน้ำมันบริเวณอ่าวพร้าวเมื่อวานนี้ (31 ม.ค.) ซึ่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เข้าเก็บตัวอย่างน้ำและดินตะกอนบริเวณที่พบคราบดำ เพื่อนำไปวิเคราะห์ปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอนรวมในน้ำทะเลและดินตะกอนในห้องปฏิบัติการ ซึ่งจะยืนยันผลได้ชัดเจนว่าเป็นคราบน้ำมันจากเหตุน้ำมันดิบรั่วเมื่อวันที่ 25 ม.ค. หรือไม่ แต่ผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำเบื้องต้นพบว่าสภาพน้ำทะเลเป็นปกติ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ผู้ว่าฯ ระยอง สรุป 9 ประเด็นปฏิบัติเก็บกวาดน้ำมันรั่ว ทะเลระยอง ลั่นไม่ปิดหาดแม่รำพึง
- รู้ไว้ใช่ว่า ‘วราวุธ’ โพสต์ กรณีน้ำมันรั่ว ‘หน่วยงานไหนทำหน้าที่อะไร’ เพื่อให้การทำงานรวดเร็ว
- น้ำมันรั่ว พบแผ่ขยาย 9 เท่าของเกาะเสม็ด ขึ้นฝั่งวันนี้ !