“อนุทิน” สั่ง “ผู้ว่าฯ จังหวัดชายแดนใต้” เข้ม 4 แนวทางปฏิบัติภารกิจ อส. ในพื้นที่ เพิ่มมาตรการป้องก่อเหตุไม่สงบ
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน มีความห่วงใยในความปลอดภัยของประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานโดยเฉพาะสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอในพื้นที่ จังหวัด สงขลา ที่ถือเป็นผู้ปฏิบัติงานที่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนและสถานการณ์ความไม่สงบอย่างมาก

ดังนั้น นายอนุทิน จึงได้สั่งการไปยัง ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และจังหวัดสงขลา ในฐานะผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัด ให้กำชับ 4 แนวทางปฏิบัติภารกิจกองอาสารักษาดินแดนในพื้นที่ ด้วยการเพิ่มมาตรการระวังป้องกันและเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์การก่อเหตุของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ พร้อมทั้งขอให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ และเจ้าหน้าที่ที่สังกัดกองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดให้อยู่ภายในพื้นที่คอยดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน จัดเตรียมทรัพยากร เพื่อเสริมภารกิจ และจัดกำลังพลเพื่อดูแลความปลอดภัยในพื้นที่และชุมชนต่าง ๆ
นางสาวไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับมาตรการระวังป้องกันและเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์การก่อเหตุของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ 4 แนวทาง ดังนี้ 1. มาตรการด้านกำลังพล โดยให้ทุกกองร้อยรักษายอดกำลังพล และเตรียมพร้อมในการปฏิบัติ ณ ที่ตั้ง งดเวรลาพักของสมาชิก อส. จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และกำชับกำลังพลในส่วนของชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) ที่ไม่ได้อยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ให้ออกนอกฐานปฏิบัติการในเวลากลางคืน และให้ประกอบเลี้ยงภายในฐานปฏิบัติการ
2. ด้านการเตรียมการป้องกันฐานปฏิบัติการ สถานที่ราชการ และทรัพย์สินของทางราชการ ด้วยการจัดให้มีเวรรักษาความปลอดภัยที่ตั้งฐานปฏิบัติการในลักษณะเตรียมพร้อมสูงสุด ผลัดเปลี่ยนเวรตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดทำเครื่องกีดขวาง เสริมความมั่นคงด้วยอุปกรณ์ป้อมสนามและรั้วลวดหนามหีบเพลง เพื่อความแข็งแรงของฐานปฏิบัติการ และสถานที่ราชการ และติดตั้งระบบไฟแสงส่องสว่างรอบที่ตั้งฐานปฏิบัติการ-สถานที่ราชการ อย่างเพียงพอ จัดระบบสัญญาณเตือนภัยและอาวุธของยามรักษาการให้เหมาะสม มีระบบการควบคุมและบันทึกหลักฐานบุคคลหรือยานพาหนะผ่านเข้า – ออกที่ตั้งฐานปฏิบัติการ พร้อมจัดกำลังออกลาดตระเวนรอบที่ตั้งฐานปฏิบัติการ สถานที่ราชการอย่างต่อเนื่อง มีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุเพื่อให้เกิดความชำนาญ สามารถปฏิบัติตามแผนฯ ได้อย่างเป็นระบบ รวมทั้งกำหนดพื้นที่ล่อแหลมหรือเป้าหมายที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
3. ด้านการข่าว ด้วยการบูรณาการด้านการข่าวร่วมกับทหาร ตำรวจ และหน่วยงานด้านการข่าวอื่น ๆ อย่างเป็นเอกภาพ พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายแหล่งข่าวจากทุกหน่วยและประชาชนทุกช่วงวัยในพื้นที่ และมีการติดต่อสื่อสารกับหน่วยเหนือ และหน่วยข้างเคียงอย่างต่อเนื่อง 4. ด้านการรักษาความปลอดภัยอาวุธและยุทโธปกรณ์ของทางราชการด้วยการจัดทำบัญชีควบคุมการเบิก – จ่ายอาวุธยุทโธปกรณ์อย่างถูกต้อง ชัดเจน ทั้งการเบิกจ่าย และการส่งคืนเข้าสู่คลัง

ด้าน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 4 จังหวัด ให้บูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนอย่างเข้มข้น ต่อเนื่อง และเต็มความสามารถในการสร้างขวัญกำลังใจให้กับประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยมุ่งเน้นการสร้างการรับรู้ สร้างความเชื่อมั่นต่อความมั่นคงปลอดภัยในการดำรงชีวิตประจำวันของประชาชน ประสานการทำงานร่วมกันกับฝ่ายความมั่นคงทุกภาคส่วนตลอดจนเพิ่มความเข้มงวดในการติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงด้วยความใกล้ชิด
“กระทรวงมหาดไทยพร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และตระหนักถึงความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด เพื่อให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข” นายอรรษิษฐ์ กล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิดเทอมห่วงโควิด-19 พุ่ง กทม. เตือนประชาชนป้องกันตัวเอง
- ‘อนุทิน’ ยันไม่เกี่ยวบริษัทก่อสร้าง ‘อาคารรัฐสภา’ ชี้การเสื่อมโทรมเป็นเรื่องปกติ
- ‘อนุทิน’ ลั่น!! ไม่เคยคิดแอบอ้างสถาบัน หลังมีชื่อโผล่ในเอกสาร ‘กอ.รมน.’
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์ : https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg