POLITICS-GENERAL

‘ณัฐชา’ ยื่น ‘ป.ป.ช.’ ตรวจสอบตัวเอง ปัดเอี่ยวเรียกรับเงิน

“ณัฐชา” ยื่น “ป.ป.ช.” ตรวจสอบตัวเอง ปัดเอี่ยวเรียกรับเงิน เตรียมรวบรวมข้อมูลฟ้องกลับกราวรูด

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาพาดพิงร่วมมือกับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในการเรียกรับผลประโยชน์กลุ่มจีนเทา จำนวน 1.2 ล้านบาท ว่า

11 3

ขอยืนยันกับประชาชนว่า ตลอดทั้งชีวิตของตนไม่เคยพบเจอ ไม่เคยพบปะพูดคุย แม้กระทั่งคุยทางโทรศัพท์กับนายอัจฉริยะแม้แต่ครั้งเดียว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างชัดเจน และเพื่อยืนยันในความบริสุทธิ์ใจ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้เดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อยื่นให้หน่วยงานภายนอกตรวจสอบตัวเองว่าถูกพาดพิงเรียกรับผลประโยชน์

“เป็นข้อกล่าวหาร้ายแรง เพราะผมเป็นสส.อยู่ จะส่งผลเสียต่อตนทั้งปัจจุบัน และในอนาคตทางการเมืองด้วย ตนไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ ส่วนเรื่องคดีความตนได้มอบให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการว่ามีส่วนใดที่จะสามารถเอาผิดกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด แม้กระทั่งสิ่งที่นายอัจฉริยะกล่าวอ้างคือบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ ก็จะให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบจริงเท็จอย่างไร”นายณัฐชา กล่าว

นายณัฐชา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ตนยังได้ยื่นหนังสือถึงหัวหน้าพรรคประชาชน ขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบเร่งด่วนเพื่อพิสูจน์ความจริง และชี้แจงกรณีนี้ต่อสมาชิกพรรค ผู้ร่วมสนับสนุนพรรคประชาชน เพราะส่งผลเสียหายร้ายแรงต่อสมาชิกพรรค และสส.ของพรรคอีกด้วย ก็ขอเรียกร้องไปยังบุคคลที่พาดพิงตน ตนไม่ทราบว่าต้องการเป้าประสงค์อย่างไร ไม่แน่ใจว่าเหตุใดถึงต้องมาทำลายอนาคตกันแบบนี้

โดยส่วนตัวตนไม่เคยบาดหมาง ไม่เคยพบเจอ ไม่เคยรู้เห็นใดๆมาก่อน ดังนั้นหากมีหลักฐานชัดเจน ก็สามารถดำเนินคดีกับตนได้เลย ไม่ว่าจะองค์กรใดก็ตาม ส่งไปตรวจสอบได้เลย แต่ถ้าเกิดไม่ได้กล่าวผิดพลาดไป ก็ขอร้องให้ออกมาให้ความบริสุทธิ์กับตน ออกมาขอโทษ และออกมาแสดงความชัดเจน ยืนยันข้อเท็จจริงกับประชาชนว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ

เมื่อถามว่ามีมูลเหตุใดถึงอ้างชื่อไปรับผลประโยชน์กลุ่มจีนเทา นายณัฐชา กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่าเพราะเหตุใด แต่จากที่ติดตามน่าจะมีปัญหากับนายมงคลกิตติ์ ยอมรับว่าตนกับนายมงคลกิตติ์สนิทกัน ในฐานะที่เคยเป็นสส.ด้วยกันสมัยที่แล้ว และโดนคดีในป.ป.ช.ด้วยกันที่ไปร่วมชุมนุมชูสามนิ้ว ส่วนเรื่องระหว่างนายอัจฉริยะ กับนายมงคลกิตติ์ ตนไม่ทราบ หากต้องการให้ประเด็นที่ตัวเองติดตามเป็นประเด็นขึ้นมา ก็ไม่ควรใช้อนาคตทางการเมืองหรือชื่อของคนอื่นมาทำให้เสื่อมเสียแบบนี้ ยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะกลับ ขณะนี้กำลังให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมเอกสารข้อมูลอยู่

เนื่องจากนายอัจฉริยะอ้างถึงตนตามเอกสารที่ไปลงบันทึกประจำวันกับตำรวจ เพราะหากเป็นคดีร้ายแรงก็ต้องดำเนินคดี และการลงบันทึกประจำวันเป็นการให้ข้อมูลต่อเจ้าพนักงาน หากให้ข้อมูลอันเป็นเท็จก็ต้องถูกดำเนินคดีต่อ ดังน้้นเราต้องสืบทราบให้ได้ว่าต้นตอมาจากใด เพื่อรวบรวมข้อมูลดำเนินคดีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องครบทุกคน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo