POLITICS-GENERAL

‘เชาว์’ สุดทน! แฉผู้บริหาร ปชป. ‘ล็อบบี้’ ทีมงานสั่งขับพ้นพรรค

 “เชาว์” สุดทน แฉ “ผู้บริหาร ปชป. ” ล็อบบี้ ” ทีมงาน สส.” ขับออกจากสมาชิกพรรคฐานให้ข่าวโจมตี ลั่น ทุกคำวิจารณ์มาจากความจริง  “เฉลิมชัย” ตระบัดสัตย์-ด่างพร้อย พฤติการณ์ทำลายพรรค ท้าให้รีบขับ แนะ คนควรถูกขับคนแรกคือ หัวหน้าพรรค

นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)โพสต์เฟซบุ๊ก Chao Meekhuad มนหัวเรื่อง “ประชาธิปัตย์ในวันที่ผู้บริหารพรรคพยามจัดการกับคนที่เห็นต่าง”  มีเนื้อหาระบุว่า เมื่อเช้าวานนี้ได้รับโทรศัพท์จาก สส.พรรคประชาธิปัตย์ ซีกที่สนับสนุนนายเฉลิมชัยท่านหนึ่ง โทรมาแจ้งข่าว ให้ทราบว่ามีความพยายามที่จะขับผมออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เพราะไม่พอใจที่ผมออกมาให้ข่าวโจมตี นายเฉลิมชัย หัวหน้าพรรค โดยมีผู้บริหารพรรคเบอร์ต้นๆ ไหว้วานให้ทีมงานสส. ท่านนี้ช่วยจัดการยื่นหนังสือถึงผู้บริหารพรรค แต่สส. ท่านนี้ไม่เล่นด้วย จึงโทรมาแจ้งข่าวให้ผมทราบด้วยความหวังดี ที่ผ่านมาสาเหตุ ที่ตนให้สัมภาษณ์ข่าว หรือเขียนบทความลงในเฟซบุ๊ก ก็เพราะไม่เห็นด้วยกับผู้บริหารพรรคภายใต้การนำของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อยู่ 3 เรื่องคือ

1. นายเฉลิมชัย เป็นคนไม่รักษาคำพูด เพราะเคยประกาศในเวทีหาเสียงต่อหน้าสาธารณชนว่าจะเลิกเล่นการเมืองแต่กลับตระบัดสัตย์ต่อคำพูดของตนเองกลับมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีคำขวัญ “สัจจังเวลาอมตะวาจา” คำจริงเป็นสิ่งไม่ตาย เป็นข้อเตือนสติ ให้ผู้บริหารและสมาชิกพรรคพึงระวังอยู่ตลอดเวลา

ประชาธิปัตย์

2. ผมไม่เห็นด้วยกับนายเฉลิมชัย ที่มีท่าทีตั้งแต่เริ่มต้น ภายหลังที่มีการเลือกตั้ง ต้องการที่จะนำพรรคประชาธิปัตย์ไปจับมือกับพรรคเพื่อไทย และในที่สุดนายเฉลิมชัย ก็นำพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยเมื่อเร็วๆ นี้ ทั้งที่ พรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์เป็นไม้เบื่อไม้เมาต่อสู้ห้ำหั่นทางการเมืองกันมากกว่าสองทศวรรษ โดยเฉพาะเรื่องการต่อต้านการทุจริต ซึ่งตรงกันข้ามกับอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์อย่างสุดขั้ว

3. ในขณะนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ฯ มีเลขาหน้าห้องและญาติของนายเฉลิมชัยถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ออกหมายจับ ข้อหานำเข้าตีนไก่เถื่อนหมูเถื่อน ถือเป็นข้อเท็จจริงที่ประจักษ์ชัดในลักษณะภาวะวิสัยในความซื่อสัตย์สุจริตและความน่าเชื่อถือหรือไว้วางใจต่อสาธารณชน นายเฉลิมชัยจึงไม่มีความเหมาะสมกับตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์หรือตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลใดก็ตาม ความเห็นของผมจึงเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตติชมด้วยความเป็นธรรม ในฐานะสมาชิกพรรคที่สามารถกระทำได้

“ผมจึงส่งข่าวนี้ไปถึงนายเฉลิมชัย ว่าท่านเป็นถึงหัวหน้าพรรคมีอำนาจสูงสุด ในการจัดการกับสมาชิกพรรคเมื่อเห็นว่าสมาชิกสมาชิกคนใดกระทำผิดข้อบังคับพรรค เพราะฉะนั้นถ้าท่านแน่จริงท่านทำเลยและทำไห้ไว ไม่ต้องไปยืมมือใครให้มาเป็นศัตรูกับผมโดยไม่จำเป็น และถ้าจะเล่นเรื่องทำให้พรรคเสื่อมเสีย ผมคิดว่าคนแรกที่ท่านต้องจัดการคือตัวท่านเองไม่ใช่คนอื่นที่เขารักและพยายามกอบกู้พรรค”

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight