“จตุพร” ฟันเปรี้ยง 2 คดี ตัดสินเดือนสิงหาคม รอดยาก ลามไปกระทบกับพรรคเพื่อไทย ทำนักการเมืองอึดอัด
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า การเมืองในเดือนสิงหาคมจะร้อนเดือดระอุยิ่งขึ้น อีกทั้งเปรียบการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตเป็นปลาหมอคางดำ โดยมีจุดเริ่มทำลายทางเศรษฐกิจ แล้วลุกลามไปขายคอนโด คาสิโน และแลนด์บริดจ์ ซึ่งการระบายเช่นนี้ทำให้ประเทศพินาศย่อยยับ ขณะที่กลุ่มทุนการเมืองได้ประโยชน์แบบพวกพ้อง
“สัญญาณการเมืองเดือนสิงหานั้น นับแต่ 7 สิงหา ศาล รธน.ตัดสินคดียุบพรรคพรรคก้าวไกล ซึ่งเชื่อว่า รอดยาก ส่วนวันที่ 14 สิงหาคดีเศรษฐา ทวีสิน นั้น ที่ได้ยินขณะนี้คือ ไม่รอด และจะลามไปกระทบกับพรรคเพื่อไทยจนเกิดปัญหาภายในอย่างมาก”
นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อผลลัพธ์คดีเศรษฐารอดยากแล้ว ต้องจับตาว่า จะลาออกจากนายกฯ ก่อนถึงวันศาล รธน. ตัดสินหรือไม่ เพราะในความเป็นจริงแล้วคนที่ต้องคดีย่อมรู้หรือประเมินผลการตัดสินได้อยู่แล้ว ยิ่งกรณีของพรรคก้าวไกลโอกาสถูกยุบพรรคค่อนข้างชัดเจนและจะเป็นอื่นยากมาก
อีกทั้งกล่าวถึงการแถลงของ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยว่า เป็นการแตกหักกับเพื่อไทยและประกาศศึกเบื้องต้น ดังนั้น เดือนสิงหาคมนี้อุณภูมิการเมืองย่อมร้อนระอุเดือดจนยากจะหลีกเลี่ยงได้ อีกอย่างเชื่อว่านักการเมืองที่อึดอัดในพรรคมีอารมณ์เช่นนี้คงมีมาก
ส่วนทักษิณ ชินวัตร จะพ้นโทษนั้น นายจตุพร กล่าวว่า ถึงได้ใบบริสุทธิ์แล้ว แต่อาจจะมีปัญหาอีก เพราะหากพิสูจน์ได้ว่า ทักษิณไม่ได้ปฏิบัติตัวตามพระบรมราชโองการลดโทษแล้ว ย่อมมีโอกาสกลับเข้าคุกได้อีกเช่นกัน
“ที่บอกว่าทักษิณได้ใบบริสุุทธิ์แล้วจะมาช่วยการเมืองนั้น ถามว่ามาช่วยเรื่องอะไร แค่นี้ยังเกิดเรื่องไม่พออีกเหรอ กระบวนการยุติธรรมของบ้านเมืองพินาศย่อยยับหมด ดังนั้น คนที่มีหน้าที่ (ควบคุมจัดการ) เมื่อเห็นว่าปลายทางเขากำลังจะทำความเสียหายแล้ว ทำไมคนมีหน้าที่ไม่หยุดยั้งเสียก่อน แสดงว่าชาตินี้เราต้องการให้เป็นแบบนี้ใช่หรือไม่ และทั้งที่ 4 โครงการที่จะทำนั้นก็เห็นว่าใครจะได้ประโยชน์ แต่ประเทศฉิบหาย”
สำหรับดิจิทัลวอลเล็ต นายจตุพร กล่าวว่า เป็นโครงการแจกเงินที่เหมือนกับปล่อยปลาหมอคางดำ เพราะจะเกิดระบาดสร้างความเสียหายในทางเศรษฐกิจ และต้องใช้หนี้เงินกู้มาแจกมากถึงสามเท่าตัว ดังนั้นโครงการดิจิทัลจึงเป็นของร้อนของเพื่อไทย หากมีเจตนาบริสุทธิ์แล้ว ต้องแจกเป็นเงินสดให้ประชาชนไปเลยดีกว่า
“ดิจิทัลวอลเล็ตจะมีจุดเริ่มเหมือนปลาหมอคางดำ แล้วระบาดไปสู่โครงการขายคอนโดให้ต่างชาติอยู่ 99 ปี และลามไปถึงทุนสีเทาเข้าครอบครองที่ดินของคอนโดที่ถูกซ่อนไว้กับการให้ซื้อได้ 49% มาเป็น 75% จึงเท่ากับการส่งสัญญาณให้มายึดที่ดินในไทย”
นายจตุพร กล่าวว่า จากนั้นปลาหมอคางดำทางเศรษฐกิจยังลามไปถึงการกินโครงการคาสิโนมูลค่านับล้านล้าน จำนวน 8 แห่งทั่วประเทศ และยังระบาดไปถึงโครงการแลนด์บริดจ์ที่เสนอให้ต่างชาติเช่าซื้อที่ดิน 3 แสนไร่นานถึง 99 ปี แล้วยังเป็นที่ดินที่มีทางออกสู่มหาสมุทรทั้งสองฝั่งของไทยด้วย ดังนั้น ขณะนี้บ้านเมืองจึงมีความเสียหายรออยู่เบื้องหน้า แต่กลุ่มทุนการเมืองจะได้ประโยชน์
“ถ้าจะหยุดปลาหมอคางดำทางการเมืองแล้ว ต้องหยุดตั้งแต่ดิจิทัลวอลเล็ต ถ้าประชาชนกดดันให้รัฐบาลแจกเป็นเงินสดมาเลยหมื่นบาท ถึงไหนจะฉิบหายกันทั้งที เพราะคนเดือดร้อนไปทั่ว จะได้ไปจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเทอม ที่จะให้ไปซื้อที่ร้านสะดวกซื้ออย่างเดียวไหวเหรอ”
นายจตุพร ย้ำว่า ดิจิทัลวอลเล็ตเป็นจุดเริ่มต้นความพินาศย่อยยับของบ้านเมือง เพราะกู้มาเป็นเงินบาทแต่แจกให้ประชาชนเป็นเงินดิจิทัล แล้วใช้หนี้เป็นเงินบาท ทำแบบนี้เพื่ออะไรกัน ถ้าแน่จริงแจกเป็นเงินบาทไปเลยเพื่อให้ประชาชนใช้จ่ายได้สะดวก อย่ามาอ้างเศรษฐกิจจะหมุน 4-5 รอบ มันหมุนอยู่ในกลุ่มทุนที่ได้ประโยชน์เสียเองที่จะนำไปทำโครงการอื่นต่ออีก แล้วระบาดไปโครงการที่สอง ไปสาม และสี่อีก
“ถ้าคุณ (เพื่อไทย) อยากกระตุ้นเศรษฐกิจคือเรื่องแรกคุณต้องไปเสีย (จากการเป็นรัฐบาล) เรื่องสองแล้วสิ่งที่คิดจะทำก็เลิกเสีย ถ้าคนมาใหม่ (เป็นรัฐบาล) ถ้าเอาประเทศชาติเป็นหลักมันฟื้นอยู่แล้ว แต่โครงการทั้งสี่เรื่องมันมีอะไรที่บอกว่า เอาประเทศเป็นหลักบ้าง“นายจตุพร กล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘รมว.คลัง’ ยันเดินหน้า ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ มั่นใจคดี ‘เศรษฐา’ ไม่กระทบโครงการ
- ‘เศรษฐา’ ไม่รู้! ปฏิญญาเขาใหญ่คืออะไร เชื่อการไปตีกอล์ฟร่วมกัน ก็เป็นเรื่องธรรมดา
- ‘ศรษฐา’ บอกเป็นเรื่องธรรมดา หลังชาวเน็ตบ่นคิดถึง ‘ลุงตู่’ ชี้อยู่มาตั้ง 8 ปี
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์ : https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsigh
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yx