นายกฯ บอกตัวเลขยังไม่เป็นทางการ คนไทยในอิสราเอล เสียชีวิต 1 ราย ถูกจับ 11 ราย ย้ำให้ความสำคัญสูงสุด ยกหูคุยทูตไทย-อิสราเอล ติดตามใกล้ชิด สั่งทอ.สแตนบายบิน 24 ชั่วโมง อพยพขนคนไทยกลับทันทีที่น่านฟ้าเปิด พร้อมให้รมช.ต่างประเทศ ออกจากทริป 4 ประเทศอยู่ติดตามสถานการณ์
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ก่อนเดินทางไปเยือน 4 ประเทศ ว่า ได้ติดตามสถานการณ์การโจมตีในอิสราเอลอย่างใกล้ชิด ได้พูดคุยกับเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ได้ให้กำลังใจ
ล่าสุดเพิ่งได้มีการพูดคุยกับเอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล เมื่อเวลา 04.00 น.ของเวลาท้องถิ่น ฝากให้ดูแลคนไทยที่อยู่ที่นั่น พร้อมให้เบอร์ติดต่อส่วนตัวกับทูตทั้งสองไว้แล้ว
“ได้รับรายงานอย่างไม่เป็นทางการว่ามีคนไทยเสียชีวิต 1 คน และมีแรงงานที่ถูกจับไปกักขัง 11 คน ตอนนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าอยู่ส่วนไหน สถานการณ์ที่อิสราเอลยังล็อกดาวน์ห้ามออกจากบ้าน” นายเศรษฐา กล่าว
นายเศรษฐา กล่าวว่า เมื่อสักครู่ได้พูดคุยกับ พล.อ.อ. พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้มีการเตรียมความพร้อมในการอพยพคนไทย ทั้งเตรียมเครื่องบินของกองทัพอากาศ 24 ชั่วโมง ที่จะเดินทางไปรับคนไทยกลับประเทศ แต่ขณะนี้น่านฟ้าปิด ขณะเดียวกันยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้ให้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของตนไว้กับเอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล ขอให้รายงานประจำวัน เอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล ยังไม่สามารถออกนอกเคหะสถานได้ ต้องอยู่ในห้องหลบภัยในบ้าน เพราะสถานการณ์ยังตึงเครียดอยู่ และยังเดินหน้าไปในทิศทางที่ไม่ดีขึ้น ต้องยอมรับว่าเป็นสถานการณ์น่าเป็นห่วง
สำหรับการให้ความช่วยเหลือคนแรงงานไทย ที่ถูกควบคุมตัวนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ ว่าอยู่ที่ไหนอย่างไร แต่พยายามเต็มที่ที่จะใช้ วิธีทำการทูต เพราะถือเป็นบุคคลที่บริสุทธิ์และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งเลย รวมถึงการดูแลแรงงานไทยที่อยู่ทางตอนใต้ของอิสราเอลที่ยังคงติดตามเพราะไม่สามารถออกจากบ้านได้ แล้วที่บอกว่าแรงงานไทยถูกจับตัวไป 11 คนยังไม่ยืนยันข้อมูลอาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ ขณะที่ผู้บาดเจ็บยังไม่ทราบจำนวน ส่วนแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานที่อิสราเอลนั้นมี ประมาณ 25,000 คน โดยมี 5,000 คนอยู่ในเขตที่พื้นที่มีปัญหาขัดแย้ง
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึง ในส่วนของญาติที่ต้องการทราบสถานการณ์ว่าก็มีเบอร์โทรศัพท์ติดต่ออยู่แล้ว และหลังจากนี้จะมีการตั้งศูนย์ประสานงานของกระทรวงการต่างประเทศ ส่วนแผนอพยพคนไทย ยังไม่สามารถตอบได้ว่าอยู่ ในระดับไหน เพราะเป็นคำศัพท์ทางการแต่ยืนยันว่า ผู้บัญชาการทหารอากาศพร้อม 24 ชั่วโมง พร้อมทันทีที่จะเดินทางไป โดยเตรียมเครื่องบิน C130 ซึ่ง สามารถขนคนกลับมาได้เที่ยวละ 423 คน โดยการเดินทางต้องแวะเติมน้ำมัน 1ครั้ง
ทั้งนี้ได้แจ้งไปยัง เอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอลแล้วว่า ตนสามารถที่จะนำเครื่องบินไป รอคอยสแตนบายไว้ได้ เพื่อความรวดเร็วในการขนคนกลับ แต่เป็นเพียงข้อเสนอ ขณะนี้น่านฟ้ายังไม่เปิด แต่ถ้าเลิกล็อกดาวน์ สามารถให้คนออกจากบ้านได้ลดระดับความรุนแรงลงแล้วก็อาจจะพิจารณาใหม่ เชื่อว่ากระทรวงการต่างประเทศและกองทัพอากาศกำลังประเมินสถานการณ์กันอยู่ เรื่องนี้ตนให้ความกังวลใจในระดับสูงสุด ให้ความสำคัญสูงสุด
มีความเป็นห่วงเรื่องใดเป็นพิเศษกับสถานการณ์ในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต เป็นเรื่องที่รู้สึกเสียใจและไม่อยากให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นคนไทย แล้วไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง จึงรู้สึกกังวลและไม่สบายใจเป็นอย่างมาก
นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่านายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ติดภารกิจที่ต่างประเทศ แล้วจะเดินทางไปสมทบที่ฮ่องกง ตนจึงสั่งการให้นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยกเลิกเดินทางร่วมคณะไปปฏิบัติภารกิจ 4 ประเทศ โดยสั่งให้อยู่ประสานงาน ดูแลสถานการณ์ที่ประเทศไทย เพราะเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นจากอิสราเอลถือเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรง ทุกคำถาม ที่มีความเป็นห่วง ก็คงจะพยายามให้ความกระจ่าง ทั้งเรื่องการตั้งศูนย์ประสานงาน การดำเนินการด้านการทูตหรือความคืบหน้าของผู้ที่ถูกจับตัวไป เพื่อให้คำตอบกับทุกคน ขอให้ประชาชน สบายใจ ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุด
ขอบคุณข้อมูล: แนวหน้า
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ทอ. เตรียมพร้อม เครื่องบิน-กำลังพล-ยุทโธปกรณ์ อพยพคนไทยในอิสราเอลกลับประเทศ
- นายกฯ ประณามการโจมตีอิสราเอล ห่วง 2 คนไทยถูกจับตัว สั่งการพร้อมอพยพคนไทยทันที
- สถานทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ-กระทรวงการต่างประเทศ แจ้งเบอร์ฉุกเฉิน ข้อมูลคนไทยในอิสราเอล
