Opinions

คุณเป็นแบบนี้อยู่มั้ย? เปิด 5 สัญญาณอันตรายที่บอกว่ากำลังมีหนี้ท่วมหัว

Avatar photo
89454

เป็นหนี้ท่วม! “เครดิตบูโร” เปิด 5 สัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าคุณกำลังมีหนี้ท่วมหัว พร้อมเช็คลิสต์ 6 ค่าใช้จ่ายที่ไม่ควรจ่าย

จากสถานการณ์โควิดที่พ่นพิษอย่างต่อเนื่อง ทำให้สภาพคล่องของเงินในกระเป๋าเริ่มเกิดภาวะตึงเครียด หลายคนเลือกหาทางรอดของตัวเอง ทั้งประหยัดค่าใช้จ่าย แต่บางรายเลือกทางรอดโดยการกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่อง เมื่อกู้มากๆ จนเต็มอัตรา การผ่อนชำระหนี้ก็เริ่มยากขึ้น บางรายอาจจะช้อปปิ้งเพลินจนลืมเช็คเงินในกระเป๋าของตัวเอง

เปิด 5 สัญญาณอันตราย เช็คสุขภาพทางการเงิน หากคุณมีคุณสมบัติเหล่านี้ บอกเลยต้องระวัง พร้อมแนะ 6 ข้อตรวจสอบว่าคุณมีค่าใช้จ่ายที่ไม่ควรจ่ายหรือไม่ เพื่อป้องกันการสร้างหนี้ที่ไม่จำเป็น จนกลาย เป็นหนี้ท่วม ในอนาคตอ่านเลย!!

เป็นหนี้ท่วม

1. มากกว่า 45% ของรายได้ต้องเอาไปให้เจ้าหนี้

ลองนึกภาพดูสิ ว่าถ้าคุณต้องเอาเงินเดือน 45% หรือรายได้เกือบครึ่งไปประเคนให้เจ้าหนี้หมด แล้วสุขภาพทางการเงินของคุณจะเป็นยังไงในระยะยาว? เพราะนั่นหมายความว่าเกือบครึ่งของทรัพย์สินที่คุณมีอยู่ “ไม่ใช่ของคุณโดยแท้จริง” แต่เป็นทรัพย์สินที่ได้มาด้วยเงินของเจ้าหนี้ทั้งนั้น แล้วเป็นแบบนี้ต่อไปจะไหวหรอ? ถามใจตัวเองดู

2. คุณจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าคุณมีหนี้อยู่ทั้งหมดเท่าไร

ถ้าคุณคิดไม่ออก บอกไม่ถูก ว่าคุณมีหนี้สินติดพันอยู่ทั้งหมดเท่าไร ไม่ว่าจะเพราะจำนวนมันสูงจนนับไม่ถ้วน หรือคุณจงใจลืม ๆ มันไป ก็ล้วนส่อว่าหนี้ที่คุณมีมันเยอะเกินกว่าที่คุณจะรับผิดชอบได้แล้ว อาจทำให้คุณไม่ทันระวังตัว ยิ่งก่อหนี้มาพอกพูนขึ้นไปอีก แถมเวลาถึงกำหนดชำระก็ไม่ทันได้ตั้งตัวหรือวางแผนอะไรเลย

เป็นหนี้ท่วม

3. คุณเริ่มกู้ยืมเงินมาเพื่อใช้หนี้

หนึ่งในวิธีสุดคลาสสิคของคนรวยหนี้ ก็คือ การกู้เงินจากแหล่งที่ (คุณคิดว่า) ประนีประนอมง่ายกว่ามาโปะหนี้ส่วนที่ต้องรีบจ่าย ฟังดูเหมือนง่าย แต่จริง ๆ แล้วเป็นแค่การหนีปัญหาเฉพาะหน้า หากเป็นแบบนี้หลายงวดเข้า บัญชีหนี้สินของคุณก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลงเลย แค่เปลี่ยนเจ้าหนี้ไปเรื่อย ๆ เท่านั้น

4. คุณเริ่มกังวลว่าคนที่บ้านจะเห็นใบแจ้งหนี้ของคุณ

เวลาไปรษณีย์มาที่บ้านทีไร คุณเป็นต้องรีบวิ่งไปโกยบรรดาใบแจ้งหนี้ของตัวเองไปซ่อนไว้ไม่ให้ครอบครัวเห็น แบบนี้ไม่ดีแน่ เพราะลึก ๆ แล้วแม้แต่ตัวคุณเองยังรู้เลยว่าหนี้สินขนาดนี้นับว่าไม่ธรรมดา ถ้าคนที่รักคุณมาเห็นเข้าต้องตำหนิและเป็นห่วงชีวิตคุณอย่างแน่นอน แล้วคุณจะไม่ตำหนิ ไม่ห่วงตัวเองหน่อยหรือ?

5. เวลามีเบอร์ไม่รู้จักโทรเข้ามา คุณจะวิตกก่อนเลยว่าเป็นการทวงหนี้

มีเบอร์แปลก ๆ โทรเข้ามาทีไร คุณเป็นต้องสะดุ้งทุกที ใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ ว่าจะเป็นการโทรมาทวงหนี้รึเปล่า แปลว่าเจ้าหนี้ได้ประเมินแล้วว่าสถานการณ์ของคุณในตอนนี้มีโอกาสสูงที่จะจ่ายคืนไม่ไหว จึงต้องเข้ามาวนเวียนป้วนเปี้ยนในชีวิตประจำวันของคุณมากขึ้น แล้วแบบนี้ชีวิตจะมีความสุขได้ยังไง คุณจะทนใช้ชีวิตร้อน ๆ หนาว ๆ แบบนี้ไปจนถึงเมื่อไร?

เป็นหนี้ท่วม

พร้อมตรวจสอบ 6 ค่าใช้จ่ายที่ไม่ควรจ่าย อะไรบ้างที่ควรค่าแก่การตัดออก เช็8ที่นี่

1. ซื้ออาหารมาตุน แต่กินไม่ทัน

เป็นกันไหม? ยิ่งมีอาหารตุนอยู่ในตู้เย็นเยอะแค่ไหน ก็ยิ่งรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น แถมบางครั้งมีโปรโมชั่นซื้อเยอะถูกกว่าด้วย แต่บางทีเกิดซื้อมาตุนเยอะเกินไปจนกินไม่ทันนี่สิ เงินกลายเป็นอาหารหมดอายุไปเสียอย่างนั้น กลายเป็นยิ่งเปลืองหนักเขาไปใหญ่ ฉะนั้นก่อนซื้ออาหารมาเก็บก็ควรประเมินกำลังบริโภคของครอบครัว และตรวจดูวันหมดอายุให้ดีก่อนเสมอ

2. ซื้อของลดราคา แต่ไม่เคยได้ใช้

บางคนเห็นป้าย Sale ก็พุ่งตัวเข้าใส่ คิดว่ารีบซื้อเอาไว้ตอนราคาถูก เผื่อว่าอนาคตจะมีโอกาสได้ใช้ ทั้งที่ความจริงอาจเป็นของที่ปกติไม่เคยคิดจะซื้อ หรือไม่ได้จำเป็นเลยสักนิด ผลสุดท้ายของชิ้นนั้นก็นอนเหงาอยู่มุมตู้ไปตลอดกาล แทบจะลืมไปเลยว่าเคยมี แบบนี้ก็น่าเสียดายเงินอยู่นะ

3. ซื้อเสื้อผ้า แต่ใส่ไม่ได้

หนุ่ม ๆ สาว ๆ บางท่านแค่เห็นเสื้อผ้าสวยถูกใจก็รีบคว้าไว้ แต่ลืมลองก่อนซื้อ กลับมาถึงบ้านกลายเป็นใส่ไม่ได้ คับไป หลวมไป คอกว้าง ผ้าบางหวิวไปซะอย่างนั้น สุดท้ายก็ต้องส่งต่อให้คนอื่น ขายเป็นของมือสอง หรือบริจาคไป ฉะนั้นคราวหน้าคราวหลังควรเช็คไซส์ให้แน่ใจก่อนซื้อ จะได้ไม่เสียเงินเปล่า

4. สมัครสมาชิกฟิตเนส แต่ไม่ได้เล่น

เห็นใคร ๆ ก็พากันไปออกกำลังกายจนหุ่นฟิตเฟิร์มน่าอิจฉา ถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดียกันสนุกสนาน หลายคนเลยอยากใส่ใจสุขภาพตัวเองบ้าง ลงทุนสมัครสมาชิกฟิตเนสราคาหลักหมื่น แต่เอาเข้าจริงเกิดไม่มีเวลาว่าง ขี้เกียจเดินทาง หรือขาดความเอาจริงเอาจัง จนล้มเลิกความตั้งใจหลังจากเล่นไปได้ไม่กี่วัน เงินที่เสียฟิตเนสไปก็กลายเป็นศูนย์

5. จ่ายเซอร์วิสชาร์จ แต่ไม่ได้รับบริการ

ปัจจุบันตามร้านอาหารหรูหรือร้านอาหารบนห้างสรรพสินค้า มักจะมีการบวกค่าบริการ (Service Charge) เพิ่มเติมมาในบิลด้วย เช่น 10% ของค่าอาหาร เป็นต้น ซึ่งก็คงพอรับได้ถ้าจ่ายแล้วได้รับการบริการที่ดีสมน้ำสมเนื้อ แต่ชีวิตมันไม่เป็นอย่างนั้นนี่สิ เพราะบางร้านพนักงานก็บริการได้ไม่ต่างจากร้านอาหารทั่วไป แถมบางทียังแย่กว่าด้วยซ้ำ เห็นแล้วอาจจะนึกเสียดายเงินค่าบริการที่เสียไปได้

6. ให้เงินคนอื่นยืม แต่ไม่ได้คืน

ถ้าคุณเป็นคนใจดี ใจอ่อน ขี้สงสาร เมื่อเพื่อน ๆ เกิดเดือดร้อนเงินทองฝืดเคืองขึ้นมา พวกเขาอาจนึกถึงคุณเป็นที่พึ่งแรก ๆ แต่อย่าลืมว่าเพื่อนบางคนพอถึงเวลาสุขสบายขึ้นมา เขาอาจไม่ได้นึกถึงคุณสักนิดเลยก็ได้ แถมยังอาจจะลืมเรื่องหนี้สินที่เคยยืมคุณไปด้วย ครั้นจะทวงก็เกรงจะผิดใจกัน ถ้าไม่ทวงก็ง่าย ๆ คือกลายเป็นหนี้สูญโดยสมบูรณ์เท่านั้นเอง รู้อย่างนี้ก่อนให้ใครยืมเงินก็อย่าลืมคิดให้ดีก่อนสักร้อยตลบนะ

ที่มา : เครดิตบูโร

อ่านข่าวเพิ่มเติม