Wellness

ทำความเข้าใจให้ถูก! ‘โรคซิฟิลิส’ ติดต่อได้ แม้ไร้เพศสัมพันธ์

เมื่อพูดถึง “โรคซิฟิลิส” คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจกันว่า เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น แต่ตามความเป็นจริงแล้ว โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้จากสาเหตุอื่น ๆ ด้วย ทั้งผ่านการสัมผัสแผลติดเชื้อ รับเลือดจากผู้ติดเชื้อ หรือแม้กระทั่ง การติดต่อจากแม่สู่ลูก 

ในปัจจุบัน ซิฟิลิส เป็นโรคที่หลายคนมองว่าเป็นแล้วรักษาด้เลยชะล่าใจ ขาดวินัยในการป้องกันโรค โดยเฉพาะเมื่อเวลามีเพศสัมพันธ์ แต่ตามความเป็นจริงแล้ว รู้หรือไม่ว่า อันตรายสูงสุดของโรคนี้เป็นเช่นไร และสามารถรักษาให้หายได้อย่างง่ายดายจริงหรือ

505935118

สาเหตุของโรคซิฟิลิส

โรคนี้ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อ “ทริปโปนีมา พัลลิดุม” ที่สามารถแพร่เชื้อได้ ผ่านทางการสัมผัสผู้มีเชื้อ ทั้งการจูบ การสัมผัสแผล การมีเพศสัมพันธ์ การรับเลือดมาจากผู้ติดเชื้อ และการสัมผัสเข็มที่ติดเชื้อ

นอกจากจะมีการติดต่อจากคนสู่คนแล้ว ยังสามารถติดต่อจากสตรีมีครรภ์ กับลูกน้อยในครรภ์ได้ด้วย โรคนี้ถึงแม้จะรักษาให้หายได้ แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าโรคซิฟิลิสมีมากถึง 4 ระยะด้วยกัน

ระยะของโรคซิฟิลิส

ระยะที่ 1 ผู้ป่วยจะมีแผลเล็กตรงจุดที่เกิดการติดเชื้อ โดยเฉพาะบริเวณอวัยวะเพศ ในระยะนี้จะเกิดแผลหลังรับเชื้อไปแล้วไม่เกิน 2 เดือน และหายไปเองภายใน 6 สัปดาห์

ระยะที่ 2 อาการจะพัฒนาจากระยะที่ 1 ในระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือน โดยจะเกิดตุ่มขึ้นตามตัว น้ำหนักลดลง ต่อมน้ำเหลืองมีอาการบวม และผมร่วง เป็นต้น แต่ก็เช่นเดียวกับระยะที่ 1 อาการเหล่านี้สามารถหายได้เองเช่นกัน

โรคซิฟิลิส

ระยะสงบ เป็นระยะที่ผู้ป่วยแทบไม่แสดงอาการ แต่ยังมีเชื้ออยู่ในร่างกาย ก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่ซิฟิลิสระยะสุดท้าย

ระยะที่ 3 หากมาถึงระยะนี้ และไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง จะส่งผลข้างเคียงอย่างรุนแรง เช่น มีผลต่อระบบประสาท หัวใจ สมอง เป็นอัมพาต เสียสติ และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

อันตรายกว่าที่คิด

โรคซิฟิลิส เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่ไม่ใช่แค่การต้องมีเพศสัมพันธ์ แล้วจะติดโรคได้เท่านั้น แต่เชื้อร้ายนี้ยังสามารถแพร่เข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ ผ่านการสัมผัส แผลติดเชื้อ การจูบ หรือการติดต่อจากแม่สู่ลูก ซึ่งหลายคนอาจจะคิดว่าโรคซิฟิลิสไม่รุนแรง สามารถรักษาให้หายได้ แต่อย่าลืมว่าโรคนี้มีหลายระยะ และบางระยะอาจจะไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาเลย

ผู้ป่วยบางคนอาจจะไม่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อ จนกระทั่งเข้าสู่ระยะสุดท้ายแล้วถึงจะแสดงอาการออกมาให้เห็น หากไม่ได้รับการรักษา เชื้อร้ายนี้จะแพร่กระจายไปทั่วร่างกายอย่างรวดเร็ว จนอาจส่งผลต่อสมอง ระบบประสาท อวัยวะต่าง ๆ ทำงานผิดปกติ หรืออาจจะร้ายแรงถึงขึ้นพิการ และเสียชีวิตได้

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าโรคซิฟิลิสสามารถติดต่อจากแม่สู่ลูกได้ หญิงมีครรภ์ที่ติดเชื้อ และไม่ได้รับการรักษาจะส่งผลให้เกิดความเสี่ยงในการแท้งบุตร ทารกเสียชีวิตในครรภ์ หรือทารกเสียชีวิตหลังคลอดได้

นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำให้ติดเชื้อเอชไอวีได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

โรคซิฟิลิส

อย่างไรก็ดี แม้โรคซิฟิลิสจะอันตราย แต่ใช่ว่าจะไม่สามารถป้องกันได้ การป้องกันการเกิดโรคร้ายนี้สามารถทำได้โดยการสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ และไม่ควรเปลี่ยนคู่นอนบ่อย เพื่อลดความเสี่ยงของการติดโรคร้าย

การตระหนักถึงโรคร้ายและป้องกันตัวเองจากโรคร้ายที่มากับเพศสัมพันธ์นั้นสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะเมื่อป่วยแล้ว จะไม่สามารถย้อนเวลากลับไปให้เป็นปกติได้ เมื่อพบว่าตนเองมีอาการน่าสงสัยว่าจะเป็นโรคดังกล่าว ควรเข้าพบแพทย์เพื่อรักษาโรคได้อย่างทันท่วงทีก่อนที่จะสายเกินแก้

ที่มา: โรงพยาบาลเพชรเวช

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo