Wellness

สธ.เตือนกลุ่มเสี่ยง ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก เลี่ยงกิจกรรมนอกอาคาร

สธ.เตือนกลุ่มเสี่ยงเจ็บป่วยง่าย ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก งดกิจกรรมภายนอกอาคาร งดการออกกำลังกายในที่โล่งแจ้ง เหตุเพิ่มหายใจเอาอากาศเข้าสู่ร่างกาย 10-20 เท่าตัว

รพ.สุราษฎร์ธานี ๑๙๐๙๐๘ 0026 1

ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากสถานการณ์หมอกควันในเขตพื้นที่กรุงเทพหลายจุดมีค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน กระทรวงสาธารณสุข ห่วงใยประชาชน เนื่องจากคุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนอาจสูดดมเข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว

โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงเจ็บป่วยได้ง่าย เช่น ผู้สูงอายุ เด็ก หญิงตั้งครรภ์ รวมทั้งผู้ที่มีโรคประจำตัว จึงได้เตรียมการให้โรงพยาบาลทุกระดับที่อยู่ในพื้นที่ จัดเตรียมเครื่องมือแพทย์ เวชภัณฑ์ ยาประจำห้องฉุกเฉินต่าง ๆ เพื่อให้บริการประชาชนที่เจ็บป่วยจากการสูดดมมลพิษหมอกควันได้อย่างทันท่วงที

นอกจากการดูแลช่วยเหลือด้านสุขภาพแก่ประชาชนในพื้นที่แล้ว สิ่งสำคัญคือขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ และปฏิบัติตามข้อแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด ที่จะทำให้ทราบข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับปัญหาหมอกควัน รวมทั้งมีความรู้ความเข้าใจ และทราบแนวทางการปฏิบัติ เพื่อดูแลตัวเองและคนในครอบครัวปลอดภัยจากพิษของหมอกควัน

สำหรับข้อแนะนำในการปฏิบัติตัวที่สำคัญ คือ

1.หลีกเลี่ยงการออกนอกสถานที่ รวมทั้งทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงข้างต้น ควรพักผ่อนอยู่ในบ้าน ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด เตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม

2.งดเว้นการสูบบุหรี่ เผาหญ้า ต้นไม้ หรือขยะต่าง ๆ

3.หลีกเลี่ยงกิจกรรมการใช้แรงมาก เช่น การออกกำลังกายในที่โล่งแจ้ง เนื่องจากจะเพิ่มการหายใจเอาอากาศเข้าสู่ร่างกาย 10-20 เท่าตัว

4.ใช้หน้ากากอนามัยปิดปาก และจมูก จะทำให้ห่างไกลจากมลพิษทางอากาศได้

a2614e51a7ba31800bcd6f23baa57831

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า หมอกควันจัดเป็นมลพิษทางอากาศชนิดหนึ่ง
ที่เกิดจากการสะสมของควัน หรือฝุ่นละอองในอากาศ ส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อระบบต่างๆของร่างกาย ซึ่งมลพิษจากหมอกควันที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นอันตราย และมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยจะมีอาการเบื้องต้น คือ

  • ระคายเคืองดวงตา จมูก คอ ทางเดินหายใจ เช่น คันบริเวณตา แน่นจมูก เจ็บคอ ไอ หายใจลำบาก
  • คนที่เป็นโรคหอบหืด ถุงลมโป่งพอง หรือโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด จะแสดงอาการมากขึ้น

โดยการศึกษาพบว่า โอโซน จะเข้าไปทำลายเนื้อปอดอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่มีอาการเลย ผู้ที่เป็นโรคปอดและหัวใจจะเป็น กลุ่มเสี่ยงโดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็ก หญิงตั้งครรภ์ จะทำให้มีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีความไวต่อผลของมลพิษทางอากาศ

ดังนั้น ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือเป็นกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว หากพบอาการผิดปกติต่าง ๆในร่างกาย เช่น หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ไอ ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ให้รีบพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน

Avatar photo