Wellness

วิจัยชี้ ‘นอนไม่เป็นเวลา’ อาจเพิ่มความเสี่ยง ‘สมองเสื่อม’

งานวิจัยที่นำโดยมหาวิทยาลัยโมนาชของออสเตรเลีย เผยว่าผู้ที่มีรูปแบบการนอนไม่เป็นเวลา อาจมีความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับผู้ที่ตื่น และนอนหลับแบบเป็นเวลา

สำนักข่าวซินหัว รายงานอ้างการเปิดเผยของมหาวิทยาลัยที่ระบุว่า การศึกษานี้ไม่ได้พิสูจน์ว่าการนอนหลับไม่เป็นเวลาทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อม แต่มุ่งแสดงให้เห็นความเชื่อมโยงของ2 สิ่งนี้ โดยพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างความสม่ำเสมอในการนอนหลับ กับความเสี่ยงเผชิญภาวะสมองเสื่อมในอนาคต และศึกษาปริมาตรสมองจากการสแกนสมองด้วย

นอนไม่เป็นเวลา

นักวิจัยใช้ข้อมูลจากยูเค ไบโอแบงก์ (UK Biobank) เพื่อศึกษาผู้คนจำนวน 88,094 คน อายุเฉลี่ย 62 ปี โดยใช้อุปกรณ์สวมใส่ข้อมือตรวจวัดดัชนีความสม่ำเสมอการนอนหลับ และติดตามผลเป็นเวลาเฉลี่ย 7.2 ปี ซึ่งพบว่าผู้เข้าร่วม 480 คนมีภาวะสมองเสื่อม

การศึกษาพบว่าผู้ที่มีรูปแบบการนอนหลับไม่เป็นเวลามากที่สุด มีความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมสูงที่สุด

แมทธิว เพส รองศาสตราจารย์จากคณะจิตวิทยา และสถาบันเทิร์นเนอร์เพื่อสุขภาพสมอง และสุขภาพจิตของมหาวิทยาลัยระบุว่า ผลการวิจัยเน้นย้ำความสำคัญของการนอนหลับที่สม่ำเสมอ

การนอนหลับที่ไม่เป็นเวลาอาจรบกวนนาฬิกาชีวภาพภายในของคนเรา ที่ควบคุมจังหวะเวลาการทำงานของกระบวนการต่าง ๆ ของร่างกายตลอด 24 ชั่วโมง อาทิ การเผาผลาญน้ำตาลในเลือด และไขมัน และการควบคุมความดันโลหิต

การหยุดชะงักของจังหวะเหล่านี้ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อความดันโลหิต เบาหวาน คอเลสเตอรอลสูง และโรคอ้วน เมื่อรวมกันแล้วปัจจัยเหล่านี้เชื่อมโยงกับความเสียหายของหลอดเลือดและการอักเสบในสมอง ซึ่งอาจนำไปสู่การเสื่อมของระบบประสาทและภาวะสมองเสื่อมที่ตามมา

ดร. สเตฟานี เยียลลูรู ผู้เชี่ยวชาญจากคณะจิตวิทยาและสถาบันฯ ระบุว่าคนเราต้องให้ความสำคัญกับการนอนหลับเป็นเวลาและสุขภาพมากขึ้น หลายคนอาจยังไม่ทราบความเชื่อมโยงของสองสิ่งนี้ เนื่องจากงานวิจัยการนอนหลับส่วนใหญ่มักมุ่งเน้นไปที่การตรวจสอบระยะเวลาการนอนหลับและผลลัพธ์ด้านสุขภาพ มากกว่ารูปแบบการนอนหลับที่สม่ำเสมอของผู้คน

นอนไม่เป็นเวลา

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo