สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ เตือนประชาชนในช่วงหน้าฝนให้ระมัดระวัง “กิ้งกือ” แม้จะไม่ใช่สัตว์อันตราย ไม่กัด แต่มีพิษ ส่งผลให้ผิวหนังระคายเคืองได้
นพ.ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดี กรมการแพทย์ กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝน เป็นช่วงที่อาจจะพบกิ้งกือได้บ่อย ๆ ในบ้าน หรือสวนสาธารณะต่าง ๆ ขอให้ประชาชนระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับกิ้งกือโดยตรง
ถึงแม้กิ้งกือไม่ใช่สัตว์อันตราย ไม่กัด แต่ถ้าสัมผัสถูกตัว อาจจะสัมผัสสารพิษของกิ้งกือ ซึ่งจะถูกปล่อยออกมาจากบริเวณข้างลำตัว สารพิษเหล่านี้จะมีฤทธิ์ฆ่าสัตว์เล็ก ๆ ประเภทมด หรือแมลง เท่านั้น แต่อาจจะส่งผลกระทบต่อผิวหนังของมนุษย์ได้เมื่อสัมผัสโดยตรง
นพ.สกานต์ บุนนาค ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สารพิษของกิ้งกือมีลักษณะเป็นของเหลวใสไม่มีสี ประกอบด้วยสารกลุ่มไฮโดนเจน ไซยาไนด์ (Hydrogen cyanide) ฟีนอล (Phenol) กลุ่มเบนโซควิโนน และไฮโดรควิโนน (Benzoquinones/hydroquinones) ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้ผิวหนังมีแผลไหม้ได้ บางรายอาจจะมีอาการปวด รวมทั้งการระคายเคืองของผิวหนังร่วมด้วย
หากถูกพิษของกิ้งกือให้ล้างออกด้วยน้ำสบู่ และน้ำสะอาดโดยทันที สามารถทายาแก้อักเสบ และให้การรักษาได้ตามอาการ โดยทั่วไปอาการมักจะหายภายใน 1 สัปดาห์ หากมีอาการรุนแรงให้รีบมาพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยทันที
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- หมอเตือน สารให้ความหวานแทนน้ำตาล เสี่ยงหัวใจวาย อัมพฤกษ์
- ‘กรมอนามัย’ เตือนบริโภค ‘อิ๊วโซดา’ อ่านฉลากให้รอบคอบ เสี่ยงส่งผลเสียสุขภาพ
- กรมอนามัย แนะประโยชน์-ข้อควรระวัง ‘พะแนงหมู’ เมนูสตูยอดนิยมที่ 1 ของโลก