บันทึกการเดินทางในครั้งนี้ ลุงม่วงจะพาไปเที่ยวที่จังหวัดเพชรบุรี อีกหนึ่งจังหวัดที่เดินทางง่ายไม่ไกลมากนัก กับสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ
- ชุมชนตลาดเก่าริมน้ำเพชรบุรี
- พระราชวังบ้านปืน
- ชายหาดชะอำ
- โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
- พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดพลับพลาชัย – วัดเกาะแก้วสุทธาราม
- อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
วิถีถิ่น กินเที่ยว
- ตลาดเก่าริมน้ำเพชรบุรี
- ธนาคารปู และวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแพปลาชุมชน
- สะพานปลา ชะอำ
- ข้าวแช่แม่อร ตลาดเก่าริมน้ำเพชรบุรี
- สวนตาลลุงถนอม
ท่องเที่ยวในรูปแบบวิถีถิ่นกินเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและรับผิดชอบตามมาตรการ New Normal ตามลุงม่วงไปชมรีวิว กันได้เลยจ้า
เพชรบุรี เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีทะเลงดงาม มีอาหารทะเลอุดมสมบูรณ์ มีสถาปัตยกรรม ศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่ามากมาย
ชุมชนตลาดริมน้ำเพชรบุรี ชุมชนตึกแถวโบราณที่ค้าขายมานานหลายสิบปี มีภาพวาด Street Art แสนน่ารักตามผนังบ้านเรือน ที่สะท้อนเรื่องราวของความเป็นชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีน และเป็นอีกจุดที่สามารถมาเดินชมวิถีชีวิตของชาวตลาดเมืองเพชร แถมยังได้ถ่ายรูปกับภาพวาดสวยๆ อีกด้วย
เดินมาจนถึงสุดซอย เราจะเห็นภาพของพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 9 อย่างโดดเด่น งดงามเป็นอย่างยิ่ง
ข้าวแช่แม่อร ตลาดริมน้ำเพชรบุรี เป็นร้านข้าวแช่ตำรับเมืองเพชรดั้งเดิม ที่มีชื่อเสียงโด่งดังอีกหนึ่งร้านของจังหวัดเพชรบุรี ร้านจะตั้งอยู่ในซอยตลาดริมน้ำ ขายมาตั้งแต่ปี 2524 เป็นสูตรที่ตกทอดมาจากคุณยายของคุณบังอร
ความที่เคยช่วยเคยเป็นลูกมือของคุณยายมาตั้งแต่เด็กๆ คุณบังอรจึงได้ซึมซับสูตรข้าวแช่ และทำขายมาจนทุกวันนี้ โดยคงสูตรต้นตำรับ ตามที่คุณยายเคยทำเอาไว้ในแบบดั้งเดิม
กว่าจะได้ข้าวแช่ที่อร่อยแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องใช้ความละเอียดใส่ใจในทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ข้าว ข้าวที่ดีต้องร่วน และนุ่ม เม็ดเรียวสวยไม่แตกหัก นำมาหุงด้วยวิธีเฉพาะ และต้องคอยดูไม่ให้ข้าวสุกแข็งจนเกินไป จากนั้นนำมาขัดให้หมดเมือก จึงได้ข้าวเม็ดขาวสวยน่ารับประทาน ส่วนน้ำข้าวแช่นั้น เป็นน้ำอบควันเทียน และน้ำอบดอกมะลิผสมกัน ลอยดอกกระดังงาเพิ่มความหอมชื่นใจ
สำหรับเครื่องข้าวแช่ มีด้วยกันสามอย่างคือ เนื้อปลากระเบนผัดหวาน ลูกกะปิ และไชโป๊ผัดหวาน ทุกอย่างล้วนต้องใช้ความชำนาญ และความละเมียดละไมในการทำทั้งสิ้น
จากนั้นลุงม่วงได้เดินทางต่อไปยัง พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดพลับพลาชัย ซึ่งไม่ไกลกันมากนัก และตั้งอยู่ภายในวัดพลับพลาชัย ชุมชนเมืองเก่าริมน้ำเพชรบุรี
วัดพลับพลาชัย เป็นวัดเก่าแก่สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย สมัยรัชกาลที่ 5 หลวงพ่อฤทธิ์เป็นผู้นำในการฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรม วรรณกรรมการศึกษา และเป็นผู้ก่อตั้งคณะ หนังใหญ่วัดพลับพลาชัย
เดินเข้ามาด้านใน เราจะพบกับหนังใหญ่ที่แขวนเอาไว้โดยรอบ สวยงามมากๆ โดยหนังใหญ่วัดพลับพลาชัย มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก และได้เล่นถวายต่อหน้าพระพักตร์
นอกจากนี้ภายในวัดยังมีศิลปะที่น่าสนใจคือ ลายปูนปั้นหน้าบันที่วิหาร และซุ้มประตูโบสถ์ งานจำหลักไม้ที่บานประตูโบสถ์ และพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่
จากวัดพลับพลาชัย เดินทางมาอีก 1 กิโลกว่าๆ ก็มาถึง วัดเกาะแก้วสุทธาราม ซึ่งตั้งอยู่ ต.ท่าราบ อ.เมืองเพชรบุรี เป็นวัดเก่าแก่อายุร่วม 300 ปี สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย
เดิมวัดเกาะมีสายน้ำไหลผ่านรอบด้าน ชาวบ้านจึงเรียกว่าวัดเกาะ เป็นศูนย์รวมของชาวชุมชนวัดเกาะ นอกจากนี้ วัดเกาะยังเป็นแหล่งบ่มเพาะช่างฝีมือของเมืองเพชร โดยเฉพาะงานแกะสลักไม้ที่โดดเด่น มีให้เห็นตามวัด และบ้านเรือนในย่านวัดเกาะ
ภายในโบสถ์วัดเกาะ จะมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง เล่าความเป็นมาของพระพุทธศาสนา เขียนด้วยสีฝุ่นผสมกาวงดงามมาก และถือได้ว่าเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณเก่าแก่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองเพชรบุรี มีคุณค่าอย่างยิ่งในด้านศิลปะ และด้านโบราณคดี
เพชรบุรีเป็นเมืองขนมหวานอย่างแท้จริง พบเห็นร้านค้าขายขนมหวานได้โดยทั่วไป ทั้งร้านของฝากในตัวเมืองเพชรบุรี ตลาดเก่าริมน้ำเพชรบุรีแห่งนี้ รวมไปถึงย่านเขาวัง มาเที่ยวเมืองเพชร ก็อย่าลืมแวะซื้อเป็นของฝากกลับบ้านกันด้วยนะครับ
จากวัดเกาะแก้วสุทธาราม เดินทางมาอีกกิโลกว่าๆ ก็มาถึง พระราชวังบ้านปืน หรือ รามราชนิเวศน์ เป็นพระราชวังที่งดงามด้วยความคลาสสิกของสถาปัตยกรรมยุโรป มีอายุกว่า 100 ปี ใช้สำหรับแปรพระราชฐานในฤดูฝน ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5
ที่พระราชวังบ้านปืน นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายภาพได้เฉพาะด้านนอกเท่านั้น ด้านในห้ามถ่ายครับ เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.00 น. โดยค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท นักเรียนนักศึกษาในเครื่องแบบ 5 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท
ช่วงบ่ายวันนี้ลุงม่วงเดินทางมาที่ แหลมผักเบี้ย หรือ “โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” ตำบลแหลมผักเบี้ย อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี
ความสำคัญของเครื่องหมายสัญลักษณ์ SHA ที่ปัจจุบันสามารถพบเห็นได้ตามสถานที่ท่องเที่ยว และสถานบริการต่างๆ มีความหมายในด้านสุขอนามัย และมีความปลอดภัยโดยกระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬาจัดทำขึ้นร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข
SHA หรือ Amazing Thailand Safety & Health Administration มีชื่อเต็มในภาษาไทยว่า โครงการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย เป็นโครงการความร่วมมือของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับกรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ฯลฯ โดยนำมาตรการความปลอดภัยด้านสาธารณสุขผนวกกับมาตรฐานการให้บริการที่มีคุณภาพของสถานประกอบการ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวว่าทุกคนจะได้รับประสบการณ์ที่ดี มีความสุข และความปลอดภัยด้านสุขอนามัยจากสินค้าและบริการนั้นๆ
โครงการศึกษาวิจัย และพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง และการพัฒนาในพื้นที่หลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นความอุดมสมบูรณ์ ทรัพยากรธรรมชาติ อาชีพ รายได้ ความเจริญ ความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจ ที่เป็นรากฐานของการพัฒนาพื้นที่ โดดเด่นในเรื่องการบำบัดน้ำเสีย และกำจัดขยะ
พื้นที่ในโครงการกว้างใหญ่มาก การมาเที่ยวชม ทางโครงการจะมีรถรางนำเที่ยวพร้อมไกด์ให้ความรู้ หรือใครอยากออกกำลังกาย ก็มีจักรยานให้ปั่นเที่ยว ไฮไลท์ของการมาเที่ยวโครงการวิจัยฯ แหลมผักเบี้ย คือสะพานไม้เดินชมธรรมชาติป่าโกงกาง ยาว 800 เมตร ไปสุดทางที่จุดชมวิวกลางทะเล
ไม่ไกลจากโครงการวิจัยฯ แหลมผักเบี้ย ห่างออกมาราว 500 เมตร จะเป็นที่ตั้งของ ธนาคารปู และวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแพปลาชุมชน ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี
ได้มีโอกาสฟังการบรรยายความเป็นมาของชุมชน ได้ชมฐานการเรียนรู้อนุบาล และอนุรักษ์ปูม้า ในถ้วยแก้ว คือลูกปูน้อยๆ ที่รอการนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
ที่ ธนาคารปู และวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแพปลาชุมชน ยังมีร้านอาหารทะเลสดๆ ให้ได้นั่งทานกันอีกด้วย เมนูเด่นก็คงหนีไม่พ้นปูม้า
ช่วงเย็นวันนี้เรามาหาอาหารทะเลทานกันที่ สะพานปลา ชะอำ สำหรับที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของชะอำ ท่านสามารถเลือกซื้ออาหารทะเลสดๆ ในราคาย่อมเยาได้จากชาวบ้านที่ทำประมงอยู่ที่นี่ และเป็นท่าเทียบเรือกุ้ง หอย ปู ปลา ประกอบกับยังได้ชมวิถีของชาวประมงอีกด้วย
บริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของ “สะพานปูชัก” ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด ด้วยวิถีชีวิตของชาวประมงเรือปูที่ใช้วิธีรักษาความสดของปูม้าที่จับได้แบบธรรมชาติ ด้วยการใส่ถุงตาข่ายผูกเชือกห้อยกับราวสะพานเหล็กเล็ก ๆ ที่สามารถยกเปิด – ปิดได้
แต่ละเช้าบรรดาชาวประมงเรือปูจะนำปูออกจำหน่ายที่คอสะพาน และจะใช้วิธีชักปูจากถุงตาข่ายราวสะพานขึ้นมาเสนอขาย พร้อมบริการนึ่ง และทำน้ำจิ้มให้เสร็จสรรพ เราจึงสามารถรับประทานปูม้าชะอำที่สด เนื้อแน่น รสชาติหวานแบบธรรมชาติ ในราคาชาวประมงที่สะพานยกทุกวัน
เช้าวันใหม่ ตื่นมาพร้อมภาพบรรยากาศของชายหาดชะอำที่น่าหลงใหล
สายๆ วันนี้ลุงม่วงเดินทางมาที่ สวนตาลลุงถนอม ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอบ้านลาด ห่างจากตัวเมืองไม่ไกลนัก สวนตาลลุงถนอมเกิดมาจากการที่ ลุงถนอม เจ้าของสวนอยากที่จะอนุรักษ์สวนตาลเอาไว้ให้อยู่คู่กับเมืองเพชร จึงเริ่มปลูกต้นตาลแห่งนี้มาเป็นเวลาร่วม 20 ปี จนถึงปัจจุบัน
สวนตาลลุงถนอม กับบรรยากาศผ่อนคลายท่ามกลางต้นตาล ที่เรียงรายสวยงาม เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด มาถ่ายภาพเก๋ๆ ชิมน้ำตาลสดแสนอร่อยให้ชื่นใจกันได้ครับ ที่นี่ยังมีผลิตภัณฑ์จากต้นตาลจำหน่ายเป็นของฝากทั้ง ลูกตาลสด ขนมตาลโตนด น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลสด ผลไม้ท้องถิ่น ที่ราคาไม่แพง แถมยังสดใหม่อีกด้วย
ก่อนกลับ ลุงม่วงขอแวะมาเที่ยวชม เขื่อนแก่งกระจาน ที่ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เพราะไม่ได้มานานมากแล้ว บรรยากาศบนสันเขื่อนยังคงความงดงามเหมือนเดิม ลมพัดเย็นสบาย ถ้ามีโอกาสก็อยากกลับมากางเต็นท์นอนที่บริเวณที่ทำการอุทยานฯ อีกครั้ง
อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ว่ากันว่ามีพื้นที่กว้างที่สุดในประเทศไทย ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2524 โดยกำหนดพื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำ และป่าเหนือเขื่อนแก่งกระจานเป็นเขตอุทยานฯ เป็นต้นน้ำลำธารของแม่น้ำหลายสาย
บริเวณอ่างเก็บน้ำจะมีเกาะกลางน้ำอยู่มากมายหลายเกาะ นักท่องเที่ยวที่ต้องการจะล่องเรือชมทิวทัศน์ พายเรือคายัคเพื่อพักผ่อน หรือตกปลาน้ำจืดในทะเลสาบ ก็สามารถเช่าเรือได้ที่ร้านอาหาร หรือชมรมเรือที่อยู่บริเวณที่ทำการอุทยานฯ
จากที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ขับรถไปยังเส้นทางบ้านกร่างแคมป์ เราจะได้พบกับ อุโมงค์ต้นไม้ ที่งดงาม และร่มรื่นมากๆ เส้นทางนี้ยังเป็นเส้นทางไปยังเขาพะเนินทุ่ง และบริเวณบ้านกร่างแคมป์ยังสามารถชมผีเสื้อเป็นจำนวนมากในฤดูร้อนได้อีกด้วย
ก่อนเดินทางกลับบ้าน ลุงม่วงลองแวะมาชิมกาแฟกันที่ ร้านนาตาชม คอฟฟี่ ซึ่งตั้งอยู่ในเขต อ.เมือง บรรยากาศของร้านจะโอบล้อมไปด้วยต้นตาล และมีทุ่งนาล้อมรอบ บรรยากาศดีทีเดียว
จากลากันไปด้วยภาพบรรยากาศของ ร้านนาตาชม คอฟฟี่ กับการเดินทางท่องเที่ยวใกล้ๆ สบายๆ ในวันหยุดสั้นๆ แล้วพบกันใหม่ในจังหวัดต่อไป สวัสดีครับ
#AMAZINGไทยเท่ #เที่ยวไทยเที่ยวง่ายสนุกทุกทริป
ที่มา : เฟซบุ๊กเพจ ม่วงมหากาฬพาเที่ยว : Life for Travel
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ราชบุรี’ ไปเที่ยวด้วยกันอีกนะ
- เลี้ยวขวา เปิดโลกกว้างที่ ‘สระบุรี’
- เที่ยว ‘บางสะพาน’ ปลายสุดของ ‘ประจวบคีรีขันธ์’