“สิงโตคำราม” อังกฤษ ฝันสลายคาบ้าน พ่ายช่วงดวลจุดโทษให้ “อัซซูรี่” อิตาลี 3-2 หลังเสมอ 1-1 ในเวลา 90 นาที ทำให้ทัพ “อัซซูรี่” คว้าแชมป์ยูโร เป็นสมัยที่ 2 ในรอบ 53 ปี นับตั้งแต่หนล่าสุดเมื่อปี 1968
การแข่งขันศึก ฟุตบอลยูโร 2020 นัดชิงชนะเลิศ คืนวันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่สนามเวมบลีย์ เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ อิตาลี ลงสนามพบ อังกฤษ
เริ่มเกมได้เพียง 1 นาที 57 วินาทีเท่านั้น แฟนบอลในสนามเวมบลีย์ ได้เฮกันสนั่น เมื่อ อังกฤษ ได้สวนกลับบอลมาถึง คีแรน ทริปเปียร์ ทะลุหลุดมาทางฝั่งขวา ก่อนเปิดข้ามมาเสาสองให้ ลุก ชอว์ วิ่งมาซัดจังหวะเดียวเข้าไปตุงตาข่าย ให้อังกฤษ ออกนำ 1-0 เป็นประตูแรกของ ลุก ชอว์ ในนามทีมชาติอังกฤษ ทั้งยังเป็นประตูที่เร็วที่สุดในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร อีกด้วย
หลังเสียประตู อิตาลี พยายามเร่งเกมบุก เพื่อเอาประตูคืน แต่จังหวะสุดท้ายยังขาด ๆ เกิน ๆ ทำอะไรไม่ได้มากนัก กลับเป็นอังกฤษ ที่เมื่อตัดบอลได้ ก็บุกทำเกมขึ้นมาได้อย่างน่ากลัวหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่มีสกอร์เพิ่มเช่นกัน จบ 45 นาทีแรก อังกฤษ ออกนำอิตาลี 1-0
ครึ่งหลังอิตาลี เป็นฝ่ายครองบอล และขึงเกมบุก ได้อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งนาที 67 อิตาลี ได้ลูกเตะมุม เปิดมาเสาสองให้ มาร์โก แวร์รัตติ แทรกตัวพุ่งโหม่งไปติดเซฟ จอร์แดน พิกฟอร์ด ในจังหวะแรก ก่อนที่ เลโอนาร์โด โบนุชชี จะวิ่งตามมาซ้ำเข้าไปตุงตาข่ายเป็นประตูตีให้อิตาลี ตีเสมอ อังกฤษ 1-1
ช่วงเวลาที่เหลือยังเป็นอิตาลี ที่เล่นกันได้ดีกว่า ขณะที่อังกฤษ ทำได้เพียงลงไปตั้งรับ และรอสวนกลับ แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่มีประตูเพิ่ม จบ 90 นาที อิตาลี เสมอ อังกฤษ 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษ ออกไป
ช่วงต่อเวลาพิเศษ ทั้งสองทีมยังคงทำอะไรกันไม่ได้ จบ 120 นาที ยังเสมอกัน 1-1 ต้องตัดสินกันที่การดวลลูกจุดโทษ
ผลปรากฎว่า อิตาลี เป็นฝ่ายยิงได้แม่นกว่า ทั้งยังได้ ดอนนารุมมา ช่วยเซฟ เอาชนะ อังกฤษ 3-2 คว้าแชมป์ได้เป็นสมัยที่ 2 หลังจากเคยคว้าแชมป์มาแล้วเมื่อปี 1968
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ประวัติศาสตร์! ‘อังกฤษ’ เชือด ‘เดนมาร์ก’ 2-1 เข้าชิงครั้งแรก Euro 2020
- ยื้อถึงจุดโทษ! ‘อิตาลี’ ดับ ‘สเปน’ เข้าชิง Euro 2020
- เตือนภัยคอลูกหนัง ‘เชียร์บอล Euro 2020’ อย่ารวมกลุ่ม ลดเสี่ยงโควิด-19