‘อิงฟ้า วราหะ’ เข้าใจ ‘ณวัฒน์’ ทำไปเพราะหวังดี พูดชัดตอนนี้โสดไหม?

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 30 กันยายน 2565

‘อิงฟ้า วราหะ’ เข้าใจ ‘ณวัฒน์’ ทำไปเพราะหวังดี แต่ไม่ได้ทำตาม 100% พูดชัดตอนนี้โสดอยู่ บางทีก็เหงาบ้าง ส่วนโรคซึมเศร้าก็รับการศึกษาด้วยการทานยาอยู่

จบดราม่าร้อนเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ มุก-อิงฟ้า วราหะ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 และ ณวัฒน์ อิสรไกลศีล ซึ่งทั้งคู่ได้พูดคุยหาข้อตกลงใหม่ในการทำงาน และชีวิตส่วนตัว ทีมงานที่ดูแลอิงฟ้าจะเปลี่ยนใหม่ยกทีม รวมถึง ณวัฒน์ จะเป็นคนที่มาคอยดูแลนางงามสาวโดยตรง และอิงฟ้า ก็ขอโอกาสปรับปรุงตัว เดินหน้าซ้อมเพื่อเตรียมตัวเข้าประกวดในเวทีใหญ่ต่อไป ส่วนเรื่องของ ต.น. ก็มีการไปเที่ยวสิงคโปร์ด้วยกันจริง คุยกันจริง แต่ยังไม่ถึงขั้นคบหากัน

‘อิงฟ้า วราหะ’ เข้าใจ ‘ณวัฒน์’ ทำไปเพราะหวังดี พูดชัดตอนนี้โสดไหม?

ล่าสุด (29 ก.ย.) อิงฟ้า ได้มาร่วมงานในงานอีเวนท์แห่งหนึ่ง พร้อมกับให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเปิดใจครั้งแรกถึงดราม่าที่เกิดขึ้น เธอบอกว่าการประกวดที่จะเริ่มขึ้นเลื่อนจากวันที่ 3 เป็นวันที่ 4 แค่วันเดียว ขึ้นเครื่องตอน 04.30 น. ตอนนี้ก็ซ้อมหนักมาก ๆ ด้วยระยะเวลาที่มีก็กอบโกยมาเยอะมาก ๆ ซ้อมวันละ 8 ชั่วโมงต่อวัน มีท่าซิกเนเจอร์ด้วย แต่ยังไม่ได้เอาออกมาให้ดู ขาจากเดิมอักเสบอยู่ตั้งแต่ประกวดรอบมิสแกรนด์กรุงเทพมหานครแล้ว พยายามกายภาพให้ขามันดีขึ้น ตอนนี้ก็มั่นใจในการพูดภาษาอังกฤษ ความพร้อมในใจก็คือเกิน 100 ไปแล้ว

อาการซึมเศร้า?
หลายคนจะเข้าใจว่าเพิ่งเป็นตอนมีดราม่าหนัก แต่ถ้าคนที่ติดตามเรามานาน ๆ จะรู้ว่าเราเรื้อรังมานานมากแล้ว พอได้คุยกับคุณหมอถึงรู้ว่าเหตุการณ์อาฟเตอร์ช็อกในชีวิตเราค่อนข้างเยอะ บางครั้งเรายังมูฟออนจากเรื่องนี้ไม่ได้ ก็มีเรื่องใหม่เข้ามากระทบเราอีก เปรียบเทียบเหมือนน้ำเต็มแก้วอย่าให้มันล้นออกมา มันส่งผลให้เราบางครั้งหงุดหงิดง่าย กลายเป็นคนก้าวร้าวได้โดยที่เราไม่รู้ตัว ตอนนี้ก็พยายามทานยารักษาเคมีในสมองให้ไม่ลบมาก ๆ

แฟน ๆ เป็นห่วง?
เรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรน่าห่วง พรุ่งนี้จะต้องไปรับยาเพิ่ม ก็โอเคแหละ

ทานยานานแค่ไหน?
มันอยู่ที่เราเลย และมันก็อยู่กับสิ่งที่เราเป็นอยู่ด้วย

ดีขึ้นหรือยัง?
ทุกวันนี้ฟ้ารู้สึกว่ามันดีขึ้นมาก ที่มันเรื้อรังเพราะเราไม่เคยเข้าไปหาหมอจริงจังเลย พอเราได้เข้าไปคุย ได้รับรู้วิธีการรักษาจริง ๆ ก็เป็นโรคปกตินี่แหละ บางคนทั่วไปเป็นอยู่แล้วอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำ พอเราได้รับการรักษาก็รู้สึกว่าเรากลับมาสดใสกว่าเดิม คิดบวกมากกว่าเดิม สบายใจมากกว่าเดิม แฟนคลับก็คอยใหักำลังใจ พยายามส่งอะไรให้เราดู ให้เรามีกำลังใจอยู่ตลอด

หลายคนจะเข้าใจว่าเพิ่งเป็นตอนมีดราม่าหนัก แต่ถ้าคนที่ติดตามเรามานาน ๆ จะรู้ว่าเราเรื้อรังมานานมากแล้ว พอได้คุยกับคุณหมอถึงรู้ว่าเหตุการณ์อาฟเตอร์ช็อกในชีวิตเราค่อนข้างเยอะ บางครั้งเรายังมูฟออนจากเรื่องนี้ไม่ได้ ก็มีเรื่องใหม่เข้ามากระทบเราอีก มันส่งผลให้เราบางครั้งหงุดหงิดง่าย กลายเป็นคนก้าวร้าวได้โดยที่เราไม่รู้ตัว ตอนนี้ก็พยายามทานยารักษาเคมีในสมองให้ไม่ลบมากๆ เรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรน่าห่วง พรุ่งนี้จะต้องไปรับยาเพิ่ม ก็โอเคแหละ

ปัญหากับบอส?
ฟ้าว่าบางทีมันเป็นเรื่องของการเข้าใจผิด ในเมื่อเรื่องมันผ่านไปแล้ว เราไม่อยากออกมานั่งอธิบายเพื่อให้คนเข้าใจในสิ่งที่เราเป็นหรือสิ่งที่เราเจอ ก็ปล่อยผ่านไป ไม่ได้อะไร ส่วนตัวกับบอสก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน เขาก็ยังรักและเป็นห่วง เป็นคนที่ถามตลอดว่ากินยาหรือยัง ทานยาให้ตรงเวลานะ เขาก็อยากให้เราอยู่กับตัวเองเยอะ ๆ

เป็นรูมเมทโกโก้?
ตอนที่คุยกันเขาก็ถามว่าเราอยู่ยังไง เราเครียดเรื่องอะไรบ้าง ก็บอกเขาว่าบางทีมันมีเรื่องส่วนตัว เรื่องครอบครัวเราบ้าง บางทีจะมีเหงาบ้าง ก็เลยถ้าเหงาก็ให้พี่โก้ไปอยู่ด้วย เลยบอกว่าไม่เป็นไร

ต้องบอกบอสตลอด?
ที่ผ่านมามันมีการผิดพลาดเรื่องการสื่อสาร รอบนี้ก็ให้ดีลผ่านบอสโดยตรง ไม่ต้องผ่านทีมงานเลย

อึดอัดไหม ทำทุกวัน?
เราก็เข้าใจ เขาทำด้วยความหวังดีแหละ เป็นฟีลแบบมีลูกสาว ฟ้าก็ไม่ได้ทำตาม 100 เปอร์เซ็นต์ แต่บางครั้งถ้าไม่ได้ออกไปไกลมากก็ไม่ได้แจ้ง เพราะบางทีกลัวจะรบกวนเวลาทำงานเขา ถ้าจะออกไปไหนไกล ๆ

อึดอัดไหม?
ข้อตกลงนี้ก็ไม่ถึงกับสร้างความอึดอัด เพราะปกติเราก็เป็นคนโลกส่วนตัวสูงด้วยเพราะเราทำงานเยอะ เวลากลับมาอยู่กับตัวเองก็จะชอบอยู่เงียบๆ ไปไหนมาไหนก็ไม่ได้บอกใคร ตัวเราเองก็ต้องปรับด้วย ปรับเข้าหากัน

อยากให้โสดไปอีก 3 ปี?
คือจริง ๆ เรื่องนี้ด้วยความเข้าใจของเรา ที่ผ่านมาเราก็ทำงาน เราก็มีเหงา เราก็มีคุยบ้าง มันเป็นเรื่องปกติมาก ๆ เพราะเราก็ 27 แล้ว แต่ว่าเรายังไม่มีแพลนที่จะจริงจังกับใคร การมีแฟนหรือการมีคนคุยสำหรับเราจะเป็นการแต่งงานวันนี้หรือพรุ่งนี้ หรือว่าจะเลิกทำงาน คือบางคนก็เข้าใจผิด มันเป็นการใช้ชีวิต บางทีเราก็อยากมีเพื่อนคุย เพื่อนคิดเฉย ๆ แต่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเราก็เข้าใจทางบอส เขาก็กลัวว่าจะส่งผลกระทบถึงอนาคตเรากับงานเราด้วย ซึ่งตรงนี้ก็เข้าใจได้ หลังจากนี้ก็คงต้องโฟกัสเรื่องของการทำงานให้มากขึ้น

สถานะตอนนี้?
สถานะตอนนี้ก็โสดค่ะ

ไลฟ์พูดคุยกับแฟนคลับ?
เหมือนเดิม บ่อยกว่าเดิมด้วย

ไลฟ์แต่ 8 โมงเช้า?
หลัง ๆ นอนเร็ว ด้วยยาที่ทานทำให้เราง่วง นอนเร็ว แล้วเราก็จะตื่นเช้า การใช้ชีวิตก็จะเริ่มเปลี่ยน

เรื่องยาที่กิน?
ไม่ได้เป็นยารักษาโดยตรงตั้งแต่แรก เพราะถ้าเป็นยาที่รักษาโดยตรงสำหรับคนที่เป็นซึมเศร้าเรื้อรังจริง ๆ มันจะต้องใช้ระยะเวลาเป็นเดือนกว่าที่สารเคมีจะเข้าที่ มันจะเบลอ อาจจะทำงานไม่ได้ ก็เลยเป็นการกินยาที่เยียวยาไปก่อน กลับมาจากอินโดฯ ก็ถึงจะรับตัวยาอีกตัวหนึ่ง

ดราม่าครั้งนี้ได้บทเรียนอะไรบ้าง?
ก็หลายอย่างอยู่พอสมควร บางคนก็ไม่ได้เข้าใจเราร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่เราเจอแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เราเข้าใจเลยว่าเคยไปคุยกับพี่โอ๊ต ปราโมทย์ วันที่ไปถ่ายรายการ เป็นข้อคิดที่เราได้ วันที่คนรักเรา ทำอะไรก็ดีไปทุกอย่าง แต่วันนึ่งที่เราทำอะไรไม่ถูกใจปุ๊บ มันจะขุดคุ้ยและหาข้ออ้างโน้นนี่นั่นที่ทำให้เราดูไม่ดี หรือไม่ชอบเราไปเลย ซึ่งตอนนี้ก็กำลังเจออยู่และกำลังจัดการกับความคิดตัวเองว่าโอเคเรามาอยู่ตรงนี้ เป็นคนสาธารณะ คอมเมนต์จนเกินความพอดีก็แซวเล่น บางทีสื่อตัดคลิปสั้น ๆ ไปลง ไม่ได้ด่า ไม่ได้ซีเรียส แค่อยากเข้าไปสร้างเสียหัวเราะให้เฉย ๆ

มูฟออนแล้ว?
ใช่ค่ะ ทั้งหมดทั้งมวลก็คือไม่คิดจะโทษใครเลย มันเป็นความผิดของเราคนเดียวทุกอย่างที่เกิดขึ้น เราสื่อสารผิดเอง และจัดสรรไม่ดีเอง ก็ได้แต่ขอโทษคนที่ต้องเดือดร้อนกับเรื่องนี้ไปด้วย ไม่อยากให้ทุกคนรีบตัดสินใคร หรือว่าดึงใครเข้ามาโยงให้เป็นเรื่องเป็นราว หลังจากที่เรากลับมาทำหน้าที่ของเราแล้วก็อยากให้เรื่องมันจบ อยู่กับปัจจุบันและโฟกัสในสิ่งที่เราทำและสิ่งที่เรากำลังจะไปข้างหน้า นั่นก็คือการประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล

ฝากถึงแฟนคลับ และคนที่เปลี่ยนใจ?
สำหรับคนที่เปลี่ยนใจ อยากขอบคุณอย่างน้อยครั้งหนึ่งอาจจะเคยชอบเรา แต่ถ้าผิดหวังในตัวเรา และรู้สึกว่าเราทำไม่ถูกใจก็ไม่เป็นไร สำหรับคนที่ยังอยู่ก็ขอบคุณที่ยังรักและซัปพอร์ต เพราะคนที่ยังอยู่เขาก็ยังเชื่อมั่นในตัวเราเหลือเกิน ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็จะรอฟังจากพี่ฟ้า ยังไงก็จะรอดูก่อน แล้วท้ายที่สุดก็เชื่อว่าเวลาจะทำให้เห็นเองว่ามันเป็นยังไง เขาก็รู้ว่าเรารักเขาแฟนคลับน่ะ