เปิดใจทั้งน้ำตา แม่บีม ปภังกร เล่านาทีเห็นลูกไม่หายใจ-คำพูดสุดท้ายที่ได้คุยกัน

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 29 มีนาคม 2565

เปิดใจทั้งน้ำตา แม่บีม ปภังกร เล่านาทีเห็นลูกไม่หายใจ หลังโทรหาแล้วไม่รับสาย จึงได้ไปหาที่คอนโด และพบว่าลูกนอนหลับอยู่บนเตียง ไม่มีอะไรผิดปกติ คำพูดสุดท้ายที่ได้คุยกัน “พรุ่งนี้เจอกัน”

เป็นการบอกลาครั้งสุดท้าย หลังจากที่วงการบันเทิงต้องสูญเสียนักแสดงมากฝีมือไปอีกหนึ่งคน สำหรับการจากไปอย่างกะทันหันของพระเอกหนุ่มดาวรุ่ง วัย 25 ปี บีม-ปภังกร ฤกษ์เฉลิมพจน์ โดยผลชันสูตรจากนิติวิทยาโรงพยาบาลตำรวจระบุในใบมรณะบัตร สาเหตุการตายคือระบบไหลเวียนโลหิตและการหายใจล้มเหลว

แม่บีม ปภังกร เล่านาทีเห็นลูกไม่หายใจ-คำพูดสุดท้ายที่ได้คุยกัน

ซึ่งในวันนี้ (29 มี.ค.) ก่อนจะเริ่มพิธีฌาปนกิจจะเริ่มขึ้น นางดาวิกา ฤกษ์เฉลิมพจน์ คุณแม่ของดาราหนุ่ม ก็ได้เผยความรู้สึกหลังจากที่ต้องสูญเสียลูกชายอย่างกะทันหัน “แม่อยากขอบคุณผู้ใหญ่ค่ะ ทุก ๆ ท่านเลย บริษัทหลายบริษัท เพื่อนนักแสดง เพื่อนนักเรียน อยากขอบคุณทุก ๆ กำลังใจที่ส่งมาค่ะ มันมีค่ามาก ๆ เลย ทำให้รู้ว่าทุกคนรักบีมแค่ไหน”

พิธีการวันนี้เตรียมอะไรบ้าง?
เคลื่อนย้ายน้องตอน 15.00 น. กล่าวนิดหน่อยถึงน้อง 16.00 น. แล้วก็จะฌาปนกิจ

เข้มแข็งขึ้นบ้างไหม?
ดีขึ้น ดีขึ้นเยอะมาก ๆ ค่ะ ก็ยอมรับความจริงว่าน้องไม่อยู่แล้วจริง ๆ จะพยายามจะใช้ชีวิตต่อไปไม่ให้น้องเป็นห่วง

สาเหตุไม่ได้ติดใจ?
ไม่ได้ติดใจเลยค่ะ จริง ๆ แล้ว เป็นคนไปเจอน้องเอง แล้วก็ท่าที่แม่ไปเห็น คือน้องหลับ แบบทุกครั้งที่น้องหลับจริง ๆ ไม่ได้มีอะไรผิดปกติเลย

มีปัญหาสุขภาพ?
ผลจากลองโควิดหรือเปล่าไม่แน่ใจค่ะ ต้องรอผลจริง ๆ 45 วัน ปกติแล้วน้องแข็งแรง ออกกำลังกายตั้งแต่เด็ก เตะบอล ไปยิม แข็งแรงค่ะ ผลชันสูตรเบื้องต้นคือระบบไหลเวียนโลหิตและการหายใจล้มเหลว

หลังจากหายโควิดเป็นการเล่นกีฬาครั้งแรกของน้องไหม?
เป็นการกลับไปเตะบอลครั้งแรกดีกว่า หลังจากที่น้องไปยิม ไปอะไรแบบนี้ ครั้งนี้เป็นการเตะบอลครั้งแรก แข็งแรงค่ะ ก็เล่นตลอด เมื่อก่อนโควิดก็เตะบอลเกือบทุกวันที่ว่าง น้องเป็นตอนเดือนมกราคม

หลังจากติดโควิดมีอาการไหม?
มีค่ะ อาจจะเหนื่อยนิดหน่อย ก็ไม่ปกติ เป็นเพราะว่าเราไม่ได้ออกกำลังกายคาร์ดิโอ อาจจะเหนื่อยง่ายปกติอยู่แล้ว

มีประวัติโรคหัวใจ?
ไม่เคย ไม่มีเลยค่ะ สุขภาพปกติค่ะ

วันที่แม่เจอน้องในวันนั้น?
จริง ๆ มีนัดกันตอนเช้าแล้วก็โทรหาน้องตอนเช้า ไม่รับสาย ปกติน้องตื่นสายอยู่แล้ว ก็โทรไปหาอีกทีตอนบ่าย คิดว่าตอนเช้าน้องไม่ตื่น บ่ายก็ยังไม่รับ แม่เลิกงาน 5 โมง ก็เลยเข้าไปดูเขา

กังวลแล้ว?
จริง ๆ กังวลตั้งแต่ตอนบ่ายค่ะ คือบีมไม่เคยผิดนัด ถ้าโทรอีกแป๊บเดียวเขาจะโทรกลับ วันนั้นติดต่อไม่ได้ ไม่โทรกลับ ไม่อ่านไลน์

สิ่งสุดท้ายที่ได้คุย?
พรุ่งนี้เจอกันค่ะ

อยากจะบอกอะไรกับเขา?
จริง ๆ ไม่ต้องห่วงเลย ทุกคนจะดำเนินชีวิตต่อไป ขอให้เขาไปในภพภูมิที่ดี ไม่ต้องห่วงอะไรเลย

มีอะไรที่ตั้งใจทำกับน้องไว้ไหม?
จริง ๆ ก่อนหน้าที่น้องจะเสีย มันคือทริปครอบครัวที่เราไปเที่ยวกันมา ไปเที่ยวกันมา 3 วัน 2 คืน แม่กลับมาส่งเขาเย็นวันอังคาร แม่ติดต่อน้องไม่ได้วันพุธ

ในอีกมุมนึงเห็นคนรักน้องเยอะมาก?
แม่ซาบซึ้งมาก ๆ มากแบบไม่รู้จะมากขนาดไหน อยากขอบคุณไม่รู้เท่าไหร่ถึงจะพอจริง ๆ นะ มันเยียวยาหัวใจคนในครอบครัวมากจริง ๆ

งานแสดง?
บีมตั้งใจกับทุก ๆ งานที่ได้รับมอบหมาย บีมทุ่มเทกับงานที่เขาได้รับทุกชิ้น ไม่ว่ามันจะยาก หรืออะไรที่เขาไม่เคยทำ เขาจะเรียนรู้ตลอดเวลา มีเหนื่อยบ้าง แต่ไม่เคยท้อเลย

วันที่บีมตัดสินใจเป็นนักแสดงรู้สึกยังไงบ้าง?
สนับสนุนทุกอย่างที่เขาอยากทำ อยากให้เขาใช้ชีวิตของเขาให้เต็มที่ตั้งแต่ไหน แต่ไรอยู่แล้ว

เป้าหมายของบีม?
ยังนะคะ ไม่ได้มีเป้าหมายยิ่งใหญ่อะไรมากมาย เขาไม่ได้คิดว่าเขาเป็นนักแสดงที่ดังอะไรด้วย เขาคิดว่าเขาเป็นคนตัวเล็ก ๆ คนนึง นักแสดงตัวเล็ก ๆ

ภูมิใจแค่ไหน?
ภูมิใจค่ะ ภูมิใจในตัวเขามาก ก็มีผลงานอีก 1 ชิ้นที่ยังไม่ได้ออกไป อยากให้ทุกคนดูเขาด้วยหัวใจ เรื่องนี้เขาตั้งใจมากจริง ๆ และมันเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของเขา

ได้บอกเขาไหมว่าภูมิใจ?
บอกเขาตลอดค่ะ เขาจะเป็นคนเขิน ๆ ทำหน้าตาติดตลกอะไรแบบนี้ค่ะ