Entertainment

ห้องขังดึงสติ ‘หนึ่ง มาฬิศร์’ อดีตเจ้าพ่อละครจักร ๆ วงศ์ ๆ กับมรสุมครั้งใหญ่ในชีวิต

บทเรียนชีวิต หนึ่ง มาฬิศร์ หลังเจอมรสุมครั้งใหญ่ โชคดีที่โดนเข้าห้องขัง ทำให้ได้สติกลับมา

หากเอ่ยถึงละครจักร ๆ วงศ์ ๆ นักแสดงที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่ง ทุกคนต้องนึกถึง หนึ่ง-มาฬิศร์ เชยโสภณ อย่างแน่นอน แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังเจ้าตัวต้องเจอกับมรสุมครั้งใหญ่ในช่วงที่ตนเองอยู่จุดสูงสุดของชีวิต ล่าสุด เจ้าตัวออกมาเผยถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น รวมถึงประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา ในรายการ Z Story Z Holiday ทางช่องอมรินทร์ ทีวี

9 หนึ่ง มาฬิศร์4

ห้องขังดึงสติ หนึ่ง มาฬิศร์ อดีตเจ้าพ่อละครจักร ๆ วงศ์ ๆ กับมรสุมครั้งใหญ่ในชีวิต

ห่างหายไปจากหน้าจอทีวี ตอนนี้ทำอะไรอยู่บ้าง ?

จริง ๆ ก็ยังรับเล่นละครอยู่ แต่หลัก ๆ ตอนนี้คือทำงานเบื้องหลัง ทำอยู่กับ วุธ อัษฎาวุธ บางเรื่องเขียนบท บางเรื่องก็เป็นแอคติ้งโค้ช หรือบางเรื่องก็เข้าไปดูในส่วนของพีอาร์ อ่านนิยาย ย่อนิยาย ทำคาแรคเตอร์ เรียกว่าทำทุกส่วน แล้วแต่โปรดักชั่นว่าเขาต้องการอะไร ยังขาดอะไร

ที่มาของการได้มาเล่นละครจักร ๆ วงศ์ ๆ ?

ขอแก้ข่าวก่อนเลยครับว่า หลายคนบอกว่า ผมเล่นทุกเรื่อง จริง ๆ แล้วเล่นประมาณ 10 เรื่องเองครับ เป็นพระเอกอยู่ประมาณ 7-8 เรื่อง นอกนั้นก็จะเริ่มเป็นเสด็จพ่ออีก 3 เรื่อง เราเริ่มจากการที่เราจบมาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จบการละคร ก็เลยได้มาเริ่มเล่นละคร ช่วงกำลังจะเรียนจบ เป็นละครหลังข่าวช่อง 7 ปรากฏว่าก็มีเพื่อนที่เรียนการละครที่จบด้วยกันมา เขาไปเป็นผู้ช่วยอยู่กองละครจักร ๆ วงศ์ ๆ เราก็ไปดูการทำงานของเพื่อน แล้วเราก็ชอบ เพราะตอนเด็ก ๆ เราก็โตมากับละครแบบนี้ ไปบ่อยจนโดนแซวว่ามาดูขนาดนี้ อยากเล่นหรอ วันหนึ่งก็มีผู้ใหญ่โทรมาถามว่า ได้ข่าวว่าอยากเล่นจริงหรอ เขาก็เลยเสนอมาเรื่องหนึ่ง เป็นชาดก ชาติที่ 5 ของพระพุทธเจ้า ก็คือ มโหสถชาดก ถ้าเกิดอยากเล่น จะให้เล่น ก็เลยได้เล่น คุณแม่ก็ดีใจมาก เพราะแม่ชอบเข้าวัด แต่พอแม่ดูในทีวี แม่มาบอกกับเราว่า ลูกฉันไม่ได้เป็นแบบนี้เลย แต่เรื่องที่พีคที่สุดคือ ดาบ 7 สี มณี 7 แสง เรตติ้งอันดับ 1 ชนะละครเวลากลางคืน สูงสุดถึง 19 ตอนที่เล่นละครก็มีคนรู้จักประมาณหนึ่งอยู่แล้ว แต่พอมาเล่นละครเช้า เวลาไปถ่ายละครต่างจังหวัด จะมีคนมารอให้กำลังใจเยอะมากๆ

9 หนึ่ง มาฬิศร์3

ชีวิตเจอมรสุมครั้งใหญ่ เกิดอะไรขึ้น ?

ช่วงนั้นถ่ายดาบ 7 สีอยู่ เรตติ้งกำลังขึ้นเลย ปรากฏว่าคุณพ่อป่วย หลังจากที่คุณพ่อเริ่มมีอาการไอมาหลายปี ก็คิดว่าไม่ได้เป็นอะไร สุดท้ายมาพบว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย จากปอดแล้วก็ไปตับ คุณหมอบอกว่าอยู่ได้อีก 6 เดือน ตอนนั้นชีวิตของเราในเรื่องการแสดง กำลังพีคมาก หลังจากคุณพ่อเสียได้ไม่นาน คุณแม่ก็เส้นเลือดในสมองแตก ตอนนั้นเราคิดว่า เราจะพยายามดำเนินชีวิตอย่างไรต่อไปเพื่อครอบครัว เงินที่มีก็เอาไปลงทุนธุรกิจ ก็ไม่ประสบความสำเร็จ งานจากที่มีละครปีละ 5 เรื่อง จู่ ๆ ก็เหลือปีละเรื่อง พอไม่มีงาน เราก็อยู่กับบ้าน อยู่กับตัวเอง สุดท้ายก็ใช้ยาเสพติด แต่ตอนนั้นเราคิดว่านั่นคือทางออก บัตรเครดิตมีประมาณ 10 ใบ ก็ใช้รูด หมุนเงินจนสุดท้ายก็เจอดอกเบี้ย โชคดีที่โดนจับ ต้องบอกว่าโชคดี เพราะถ้าไม่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น เราก็ไม่รู้ว่าเราจะไปอีกไกลแค่ไหน ในขณะที่เรากำลังเบลอ ๆ บ้ าๆ อยู่ ก็เหมือนมีคนตบหน้าให้เรามีสติขึ้นมา

ก้าวข้ามผ่านเหตุการณ์ปัญหานั้นได้อย่างไร ?

พอถูกจับ เข้าไปอยู่ในห้องขัง สติก็เกิดขึ้น มันยอมรับได้เลยว่า เหตุการณ์ทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะใคร ก้าวต่อไปจะทำอะไร หาวิธีการแก้ปัญหา พอได้ออกมา มีรุ่นพี่บอกว่าไปหาที่หลบหน้าคนก่อนไหม แต่เรากลับมีความรู้สึกว่า ไม่จำเป็น การที่เราจะหลบหนี เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่เราพยายามจะหนีปัญหา เพราะฉะนั้นตอนนี้เราไม่หนีแล้ว อะไรจะเข้ามาก็ให้เข้ามาเลย เราก็แค่ใช้ชีวิตปกติต่อไป

9 หนึ่ง มาฬิศร์2

ฝากแนวคิดสำหรับคนที่กำลังคิดหลงผิด ?

อย่างที่บอกเลยคือเรื่องของสติ ถ้าคุณมีสติกลับมาได้ ปัญหาที่เห็นว่ามันเป็นทางตัน ไม่มีทางออก คุณเข้าไปได้ มันก็มีทางออกมาได้ สองคืออยากให้พยายามที่จะลุกขึ้นให้ได้ด้วยตัวเอง ถ้าเกิดว่าเราไม่พยายามลุกขึ้น แล้วเราทิ้งตัวอยู่กับพื้น ฟูมฟาย ใครจะมายกยังไงก็ยกไม่ไหว ไม่มีใครช่วยเราได้ เพราะฉะนั้น มันต้องเริ่มจากตัวคุณก่อน ต้องพยายามลุก ได้แค่ไหน เอาให้สุดพลัง

หน้าและหุ่น ยังแซ่บอยู่ แต่ไม่น่าเชื่อว่ายังโสด ?

ตอนนี้อายุ 51 ครับ โสดมาเป็น 10 ปีแล้ว จนชินกับการอยู่คนเดียว ถามว่ากลัวความรักไหม คือจุดจบของความรักมันอาจจะเจ็บ เราก็เลยคิดว่า ถ้าไม่เริ่ม มันก็ไม่เจ็บหรือเปล่า แต่ถ้าวันหนึ่งเดินไปแล้วมีคนที่เข้ามาแล้วใช่เลย ก็ไม่ได้ปิดกั้นตรงนั้น เพียงแต่ว่า ณ วันนี้ก็ยังเฉย ๆ คุณแม่ศึกษาเรื่องดวงดาวมาตลอด แม่ก็ทักว่าดวงเธอ ไม่มีคู่ ตอนแก่ก็จะบวช บวชตลอดชีวิตเลย เราก็คิดว่า แม่อยากให้บวชเองหรือเปล่า แต่ถ้าถามว่าเราอยากจะบวชไหม เรายังไม่รู้ว่าในอนาคต ถ้าเกิดว่าเราไม่ได้มีภาระอะไร หรือไม่ได้มีห่วงจากครอบครัวลูกหลานที่ต้องดูแล ถ้าถึงจุดหนึ่งเราก็อาจจะตัดสินใจแบบนั้นก็ได้

คุณสมบัติคนที่จะเข้ามาเป็นแบบไหนอย่างไร ?

คือคนที่คุยกันรู้เรื่อง ต่อให้หน้าตาตรงสเปคยังไง แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง สุดท้ายมันก็ไปไม่รอดครับ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo