Entertainment

‘แต้ว ณฐพร’ ยอมรับคำวิจารณ์กับชีวิตที่ตกเป็นข่าว – เผยเป็นโรคแพนิค 4-5 ปีแล้ว

‘แต้ว ณฐพร’ ยอมรับคำวิจารณ์กับชีวิตที่ตกเป็นข่าว ทำอะไรก็โดนวิจารณ์ เผยเรื่องหนักสุดในชีวิตนอกจากการที่สูญเสียคุณพ่อ ก็ป่วยเป็นโรคแพนิคมา 4-5 ปี

เป็นอีกหนึ่งดาราสาว ที่ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไรก็มักถูกจับตามองและเกิดประเด็นดราม่าอยู่บ่อยครั้ง สำหรับนางเอกสาว แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ หวานใจของ ไฮโซณัย ประณัย ที่เหล่าแฟนคลับก็ขอยกฉายาให้เป็น ดาวติ๊กต๊อก หลังจากที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวมักมีคลิปโชว์ทักษะการเต้น ลีลาสุดร้อนแรงผ่านแอพ TikKok อยู่บ่อยครั้ง

ปกแต้ว1

‘แต้ว ณฐพร’ ยอมรับคำวิจารณ์กับชีวิตที่ตกเป็นข่าว – เผยเป็นโรคแพนิค 4-5 ปีแล้ว

ล่าสุด (10 ม.ค.) ช่องยูทูบ WOODY ได้ปล่อยคลิปวิดีโอที่สัมภาษณ์ สาวแต้ว ในตอน หนักสุดในชีวิต! ‘แต้ว ณฐพร’ ยอมรับคำวิจารณ์ ผ่านมาได้เพราะพลังรัก โดยมีพิธีกร ดำเนินรายการคือ วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา สาวแต้ว ได้เปิดใจถึงเรื่องราวดราม่าต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงเรื่องราวความรักสุดหวานกับแฟนหนุ่ม และความทรงจำต่าง ๆ ที่มีต่อคุณพ่อ

การใช้ชีวิตที่เป็นข่าวตลอดมันเป็นยังไง?
เอาจริง ๆ ก่อนหน้านี้ แต้ว ได้เป็นคนที่มีฉายาว่าไม่มีข่าวด้วยซ้ำ แต่อยู่ดี ๆ ก็อะไรก็ไม่รู้ก็โดนวิพากษ์วิจารณ์ไปหมด ทุกอย่างที่เราใส่เข้าไปในโซเชียลมิเดียทุกอย่างคือสิ่งที่เรากดโพสต์ของเราเอง เราก็ต้องรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น ก็ยอมรับ

ยอมรับตั้งแต่วันแรก?
ยอมรับเลย มันอาจจะมีบางคำพูดที่รู้สึกว่ามันเจ็บจังเลย แต่แต้วเข้าใจว่าเขาไม่ได้รู้จักแต้วในทุกมิติ เพราะฉะนั้นมันไม่ผิดที่เขาจะมองเห็นบางมุม แล้วเขาจะตัดสินเราไปบ้าง เพราะฉะนั้นรู้สึกว่า โอเค ไม่เข้าใจไม่เป็นไร คนรอบข้าง เก็ทนะ แม่เก็ทนะ พี่โอเคนะ ทุกคนโอเคนะ โอเค โซเชียลมิเดียแต้วก็คือไดอารี่ ที่จะได้กลับมาดูว่าวันนี้ทำอะไร วันนี้แฮปปี้ วันนี้ไม่แฮปปี้ แค่นั้น

เดทแรกเป็นยังไง?
ก็แฮปปี้ค่ะ คุยกัน กินข้าว อาหารอร่อย ก็ดีค่ะ

แต้ว

อะไรที่ทำให้รู้สึกดี?
แต้วเป็นคนข้างค่อนแมนมากเลย กับทุกคน ๆ เรารู้สึกว่าเราจัดการได้กับทุกอย่าง ไม่ค่อยอ่อนแอ แต่กับเขาเรารู้สึกว่าตัวเล็กลง

อะไรที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กลง?
มันคือความจริงจังบางอย่าง ที่ทำให้เรารู้สึกว่ายอมก็ได้

มีเรื่องอะไรในความสัมพันธ์ที่แฟนเองก็ยังไม่รู้?
คือเหมือนที่ผ่านมาเราแฮปปี้ มันแฮปปี้จนรู้สึกว่าอยากเก็บความรู้สึกความนี้ไว้ เพราะชีวิตที่ผ่านมามันสอนว่าไม่มีอะไรที่ยั่งยืนได้ แม้แต่คุณพ่อ เราอยากเก็บมันไว้ ไม่รู้จะเก็บมันด้วยวิธีไหน ภาพมันก็เล่าไม่ได้ เราก็เลยเขียนไดอารี่ ตั้งแต่วันแรก ๆ ที่เจอ ก็เขียนความรู้สึก แต่มันคิดแบบนั้นจริง ๆ ในตอนนั้น ซึ่งต่อไปมันอาจจะไม่มีแล้ว ไม่ใช่อะไรก็ไม่รู้จะเกิดขึ้น แต่ ณ ตอนนั้นมันเกิดขึ้นจริงในความรู้สึกเรา เราก็อยากเก็บมันเอาไว้ เราก็เลยเขียน

จะเข้าใจคนนึงยังไงให้ความสัมพันธ์มันดี?
ก็ต้องกลับไปที่ความเป็นจริงแหละ เราไม่เฟอร์เฟค ไม่มีใครเฟอร์เฟคเลย พยายามเข้าใจในส่วนที่มันไม่ได้เฟอร์เฟคสำหรับเขา ดูว่าเขารับในสิ่งที่เราไม่เฟอร์เฟคได้ไหม

นอกจากการสูญเสียคุณพ่อ มีอะไรที่หนักอีกไหม?
เป็นแพนิค แต้วรู้สึกว่าแต้วจะไม่โอเค เริ่มแพนิคกับสภาพร่างกาย แบบหนาวเกินไป เจ็บปวด ปวดท้อง อะไรที่ควบคุมไม้ได้ แต้วก็จะแพนิค มันอยู่ไม่ติดที่ มันรู้สึกว่าเราไม่รู้สึกจะอยู่ตรงนี้ มันรู้สึกไม่ปลอดภัย มันอยู่ข้างใน ข้างในมันแย่ เป็นมา 4-5 ปี ครั้งแรกที่เป็นตอนนั้นอยู่ที่โรงพยาบาล ช่วงนั้นคงเครียด มันก็ตีกันไปหมด ตอนแรกที่เป็นกลัวไปหมดเลย รู้เลยว่าจะข้ามมันไปได้ก็ต่อเมื่อมียา แต่ก็คิดไว้ว่าจะใช้ชีวิตโดยไม่พึ่งยาให้ได้ ฝึกลมหายใจ เหมือนต้องเรียนรู้ว่าต้องปล่อยวาง ล่าสุดที่เป็นคือที่เกาหลี พ่อก็คือบินจากที่กรุงเทพฯ มาหาที่เกาหลี แล้วก็มากอด

แต้ว1

ตอนที่ดูแลคุณพ่อยังไง?
ตอนนั้นเป็นโควิดไง ก็ได้ดูแลคุณพ่อ ชงกาแฟตอนเช้า จนคุณพ่อก็เกิดอุบัติเหตุ วันนั้นแต้วถ่ายโฆษณาอยู่ แล้วคุณแม่ก็ไปด้วย อยู่ ๆ คุณแม่ก็เดินออกไป แล้วผู้จัดการก็มาบอกว่าเกิดแบบนี้ ๆ ก็สั่นเลย ตัวชาเลย ก็ต้องยกกองไปโรงพยาบาลเลย ก็เห็นพ่อทรมาณมาก พังไปหมด วันนั้นเราไม่ร้องไห้เลยนะ ต้องมีสติมาก ๆ เราก็อยู่แบบนั้นก็เกือบ 20 วัน แต้วจะไม่ยอมให้เขาเจ็บ ถ้าเขาจะไปแล้วมันทำให้เขาไม่ทรมานแต่ก็ค่อนข้างโอเค จนถึงวันสุดท้ายวันธรรมดาวันนึงก็เก็บทุกอย่าง เก็บบรรยากาศทุกอย่าง แม่ก็คุยกับพ่อ ทุกวินาทีจำทุกอย่าง ทุกเช้ายังชงกาแฟให้พ่ออยู่ตอนนี้

แต้ว2

8 แต้ว ณฐพร2

batch แต้ว3 1

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo