จอนนี่ แอนโฟเน่ อวดโฉมใหม่หลังผ่าตัดยกทั้งหน้า จากนี้คิดลงเล่นการเมือง-เตรียมใจโดนด่า

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 22 ธันวาคม 2564

จอนนี่ แอนโฟเน่ อวดโฉมใหม่หลังผ่าตัดยกทั้งหน้า เคลียร์แยกทางหุ้นส่วนเดิม แจงเหตุย้ายไปช่องวิกหมอชิต เผยตั้งเป้าอายุ 55 ปี คิดลงเล่นการเมือง เตรียมใจโดนด่า

เปิดใจครั้งแรก จอนนี่ แอนโฟเน่ ดารารุ่นเก๋า กับการไปอัพหน้าจนทายอายุไม่ถูกกันเลยทีเดียว บอกได้สมดั่งใจหน้าดูสดชื่น พร้อมเผยถึงเรื่องของการย้ายช่อง และปัญหากับหุ้นส่วนจนต้องแยกทาง และความตั้งใจอยากลงเล่นการเมืองหลังจากนี้ ทุกประเด็นสุดแซ่บในรายการ คุยแซ่บSHOW ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มีธัญญ่า ธัญเรศ อาจารบ์เป็นหนึ่ง และหนิง ปณิตา ดำเนินรายการ

จอนนี่ แอนโฟเน่ อวดโฉมใหม่หลังผ่าตัดยกทั้งหน้า จากนี้คิดลงเล่นการเมือง-เตรียมใจโดนด่า

ไปทำหล่อมา ?

จอนนี่ : ใช่ครับ ครบ 1 เดือนพอดีเลย เรียกว่าอัปเดตดีกว่า เค้าทำให้ฟรีแล้วเราก็อยากทำพอดี เราดูรีวิวหาข้อมูลจนน่าวางใจ เค้าถามทำคู่กันเลยมั้ยกับคุณนก คุณนกบอกถามฉันหรือยัง งั้นเราทำนำไปก่อนเลย เราเห็นพี่โน่ก่อน เค้าไปดูดไขมันที่แผ่นอก เราก็อยากทำด้วย แต่พอไปตรวจของเราไม่ใช่ไขมัน มันเป็นโรคเต้านมโต คุณหมอบอกผ่าได้ แทนที่จะทำหน้าเลยไปผ่าหน้าอกก่อนเอาก้อนเนื้อนี้ออก แล้วเค้าก็ดูดไขมันแถมให้เลยพอทำเสร็จแล้วเราเริ่มสนุก

ก่อนหน้านั้นแอนตี้เรื่องการทำศัลยกรรม ?

จอนนี่ : ไม่ชอบ เพราะไอดอลเรายับหมดทุกคน อย่างอาหนิง นิรุต เท่ห์แบบยับ ๆ สมัยหนุ่มใครให้บำรุงหน้าผมบอกไม่ต้อง เพราะผมมีในหัวผมแล้วว่าจะเป็นยังไง เลยไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้

อะไรดลใจให้คิดเปลี่ยนเลย ?

จอนนี่ : คนเราแต่ละคนไม่ได้เป็นอย่างนั้นได้ทุกคน พอเรามียับ ๆ ลองไปเทียบกับเค้า เราไม่ได้เท่ห์แบบเค้า เราไม่ได้เป็นอย่างน้าหนิงได้ ผมว่าแต่ละคนมีแบบของตัวเองว่าควรเป็นยังไง ผมเห็นว่ามาถึงครึ่งชีวิตแล้ว ถ้าเราอยากจะทำอะไรทั้งทีก็ทำมันตอนนี้ ทำตอนนี้ก็ยังไม่เยอะนิด ๆ หน่อย ๆ เก็บ ๆ

หลังจากหน้าอก แล้วทำอะไรต่อ ?

จอนนี่ : หน้าเลยครับทีนี้ ดึงเลยดีกว่า ตัดสินใจ 5 นาที นี่แบบ face off เลย ตั้งแต่เข้าห้องผ่าตัดจนถึงตอนนี้ยังไม่รู้สึกเจ็บเลย บางคนความเจ็บอาจจะไม่เท่ากัน

กลัวเรื่องโหงวเฮ้งเปลี่ยนมั้ย ?

จอนนี่ : มีครับ ผมว่ามันเป็นงานฝีมือมาก เราบอกหมอเอาแบบธรรมชาติ ผมยังชอบผมอยู่ แต่ขอให้สดชื่นขึ้น สดใสขึ้น ไม่ได้ว่าต้องดูเด็กลง ผมไม่อยากให้มันผิวหน้ามันห้อย ดูหน้าเหนื่อย วันจะเข้าห้องผ่าตัดเรานั่งนึกในใจจะทำทั้งทีเอาให้มันเยอะ ๆ ไปเลยดีกว่าเผื่อไว้อีก 10 ปีข้างหน้า พอไปเจอหมอบอกยกให้เป็นตาจีนไปเลยได้มั้ย หมอบอกผมไม่ทำให้ เค้าอธิบายให้ฟัง ว่าของเราไม่ได้เพราะมีเครา ถ้าดึงเยอะเคราจะไปขึ้นหู

ศัลกรรมต้องวางยาสลบ แต่ตัวพี่เองมีประสบการณ์ไม่ดีเกี่ยวกับวางยาสลบ ?

จอนนี่ : วางยาสลบบ่อยเพราะไฟไหม้ ทุกครั้งที่ขัดแผลไฟไหม้ต้องวางยาสลบ ตื่นมาเหมือนหลอน เป็นคนแพ้ยาสลบหรืออะไรไม่ทราบ เวลาฟื้นยาสลบจะมีอาการไม่เหมือนคนอื่น จะเพ้อเหมือนเราเมาอะไรสักอย่าง มีโวยวาย เรารับรู้หมด แต่คอนโทรลตัวเองไม่ได้ เลยค่อนข้างหลอนยาสลบจะไม่ไปยุ่งกับหมอวิสัญญีพอสมควร จะไปบอกให้เค้าฟัง เค้าก็ปรุงยาให้ในการวางยา ตื่นมาคราวนี้เป็นอีกด้านนึงกลับนั่งนิ่ง สงบเลย นั่งสำรวจตัวเองเจ็บตรงไหนบ้าง

ฟื้นขึ้นมาเห็นหน้าตัวเองความรู้สึกเป็นยังไงบ้าง ?

จอนนี่ : มันบวมก่อนเลยอาการแรก ที่ตกใจเลยคือเวลาเราส่องกระจกเราเห็นหูตัวเองหรือเปล่า พอเราไม่เห็นมันเลยแปลก ๆ มันบวม พอผ่านไป 1-2 วัน มันยุบอย่างเร็วเลย

แล้วตอนนี้ผ่านไป 1 เดือน เวลาส่องกระจก ?

จอนนี่ : ยังหล่อไม่เสร็จ ยังบวมอยู่

กระแสหลังทำ ?

จอนนี่ : ที่เราไปเห็นนะ ทุกคนเค้าก็ชอบ หน้าตาสดชื่น มันก็เป็นแบบที่เราอยากได้ ตอนครบ 1 อาทิตย์ตัดไหม โรงพยาบาลเอารูปขึ้นคนก็แบบทำไมมันบวม ผมมีไอจีแต่ไม่ได้เล่นเองให้น้องเล่น เพราะไม่ค่อยมีเวลา ตอนหลังเลยเล่นเองคนจะได้ไม่พูดกันไปเรื่อยเดากันไปเรื่อย จะได้ถ่ายตัวเองให้เค้าดูได้เลยอัปเดตให้เองว่ามันเปลี่ยน

ภรรยาว่าไงบ้าง ?

จอนนี่ : เค้าก็แอบอิจฉาความสวยของผม ผมยุให้ทำ ให้มันดูสดชื่น ไม่ได้ให้เปลี่ยนหน้า แต่ที่ผมทำคือ lift up ไม่มีใส่อะไรแปลกปลอม หน้าเราก็ยังเป็นหน้าเราอยู่ หน้าตึงขึ้น

มีคนชวนฉีดปากด้วย ?

จอนนี่ : ที่โรงพยาบาลเค้ามาชวนว่าเติมปากอีกหน่อย คุณนกนั่งอยู่ข้าง ๆ บอกไปไกล ๆ เลยฉีดเมื่อไหร่ไม่ต้องมาเดินข้างฉัน เราเลยเอ๊ะ..เบรคไว้ก่อน พี่ลองไปดูเค้าฉีดแล้วเป็นยังไง สำหรับพี่ยังไม่น่าฉีด

ทำไมถึงกล้าบอกว่าศัลยกรรม ?

จอนนี่ : ไม่รู้จะปิดทำไม เราไม่ได้ทำบนหน้าใคร ทำบนหน้าตัวเอง เราไม่ได้ไปทำให้ใครเค้าเดือดร้อน มันเป็นความสุขส่วนตัวเป็นความชอบของเราเอง ที่อยากทำให้หน้าสดชื่น เราไม่ได้เปลี่ยนหน้าตัวเองเลยไม่รู้สึกว่าต้องปิดบัง เรื่องการดูแลหน้าตาหรือศัลยกรรมผมว่าปัจจุบันนี้มันดูเป็นเรื่องไม่ต้องปิด

จะทำอะไรต่อ ?

จอนนี่ : แปลงเพศเลยครับ (หัวเราะ) ไม่มีครับ หมดแล้ว

กระแสบางคนบอกหน้าเดิมดีกว่า ?

จอนนี่ : หน้ามันก็ไม่ได้เปลี่ยน อาจจะยังไม่เข้ารูปบ้าง มันยังบวมอยู่ ถ้าหน้าเดิมรอไว้หนวดอีกแป๊บนึง ตอนนี้ต้องทำแผลเราเลยไว้ไม่ได้

เรื่องการย้ายช่องเกิดปัญหาอะไร ?

จอนนี่ : มันมี 2 เรื่อง เรารู้สึกว่าอยากหยุดทำงานกับที่เดิมก่อน ด้วยมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายในการร่วมงานกัน ตั้งแต่โควิดเศรษฐกิจมันดิ่งลงมาก ลูกค้าโฆษณาสปอนเซอร์ไม่มีกำลังซื้อเยอะพอสมควร ปรับเปลี่ยนจาก time sharing เป็นเก็บค่าเช่า เราคำนวนต้นทุนแล้ว แต่ไม่ได้ทะเลาะกันนะครับ คุยกันด้วยเหตุด้วยผล ว่าเราไปไม่ไหวจริง ๆ อย่าเรียกว่าแยกย้ายแต่เราขอหยุดก่อน เราดูแล้วว่าในอีก 1 ปีข้างหน้าก็น่าจะกลับมายังไม่มากนัก ถ้าโดนค่าเช่าเวลาเข้าไปอีกก็น่าจะแพงเพราะช่องใหญ่ เราก็น่าจะขาดทุนเยอะเพราะเราปิดต้นทุนนี้ไม่ได้ เราเลยขอหยุดก่อน อีกอันเราไปทำงานกับทางเทโร ซึ่งมีการย้ายเหมือนกัน เราต้องตามเทโรไปอีกช่องหนึ่ง ไปทางวิกหมอชิต ทำรายการขึ้นรายการใหม่ ทำละคร ไม่ได้ทะเลาะกับใครเราคุยกันด้วยเหตุด้วยผล

ปรับตัวยังไง ?

จอนนี่ : เปลี่ยนเยอะมาก ผมอยู่มาเกือบ 30 ปี ส่วนอีกช่องคนดูคนละกลุ่มกันเลย เราไม่เคยทำงานเสิร์ฟเค้ามาก่อนต้องเปลี่ยนเยอะมาก วิธีคิดเรื่องงาน วิธีทำงานต้องเปลี่ยนไปหมด

ทางช่องเดิมน้อยใจบ้างมั้ย ?

จอนนี่ : มันไม่มี เพราะว่าเราไม่ได้ย้ายเพราะทะเลาะ เราหยุดเฉย ๆ ตอนแรกผมกะอยู่เฉย ๆ อยู่กับบ้าน หลบโควิดอย่างเดียวเลย บังเอิญมีคนมาชวนให้ไปช่วยงานที่เทโร เป็นจังหวะเดียวกับที่เทโรย้ายมาทำงานอีกช่องหมอชิต เราก็เลยต้องทำงานกับเทโรที่ช่อง

มีข่าวแยกทางกับอดีตหุ้นส่วน ?

จอนนี่ : ผมมีหุ้นส่วนหลายคน แยกกันเพราะว่าเค้าอยากแยก เราก็แล้วแต่ตามสบาย ผมเป็นคนคิดอย่างหนึ่งเป็นคนเพื่อนเยอะ หุ้นส่วนเยอะ มีหลายบริษัท มันเหมือนการมีแฟน ถ้าแฟนขอเลิกเราจะไม่ตีโพยตีพาย เราคงคิดไม่เหมือนกับเราแล้วจะแยกกันก็ตามสบาย เราไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน

หลายคนคิดว่าแยกกันต้องทะเลาะกัน ?

จอนนี่ : ผมไม่มีนะ เค้ามีหรือเปล่าผมไม่ทราบ ผมก็บอกเค้าว่าเฉย ๆ ผมไม่ได้มีปัญหาอะไร หุ้นส่วนคนอื่นไม่ทราบว่าเค้ายังไง แต่ตัวผมไม่มีอะไรเลย

ความเปลี่ยนแปลงใหญ่เลย ?

จอนนี่ : ปีที่แล้วก็มี เอาตรง ๆ นะ ปิดไป 2-3 บริษัทเลย เราไม่ใจหายนะ เพราะเศรษฐกิจมันแย่จริง ๆ

จะลาวงการบันเทิง ?

จอนนี่ : ไม่ได้ลาวงการบันเทิงครับ เราตั้งเป้าชีวิตเราไว้ว่าในแต่ละช่วงอยากให้เป็นยังไง ในเรื่องของธุรกิจการทำงานวงการบันเทิงก็ถือเป็นธุรกิจ วางมือจากงานที่เราต้องทำธุรกิจสักอายุ 55 อันนี้นึกในใจไว้ก่อนหน้านี้ ตอนนี้ 52 แล้ว เราก็เริ่มดูไว้ แต่ในช่วงนี้ที่ผ่านมาเป็นช่วงโควิดเจอคนที่ลำบากมาก ไปช่วยเหลือคน ผมได้นั่งกลับมาคิด ชีวิตเราตั้งแต่อายุ 17 เข้าวงการจนถึงทุกวันนี้ ได้หาเงินมาด้วยวงการบัรเทิง ทั้งความนิยมชมชอบของคนดู วงการให้ทุกสิ่งทุกอย่าง รวมถึงมีครอบครัว เจอภรรยา มีลูก มีเงินเลี้ยงครอบครัว คิดว่าหลังจากนี้ถ้าอยากวางมือจากธุรกิจแล้ว สิ่งที่อยากทำเลยก็คืออยากไปเล่นการเมือง ไปดูแลพี่น้องประชาชนบ้าง ด้วยความรู้ความสามารถที่เรามี เราน่าจะทำงานกลับให้บ้านเมืองบ้าง ให้ประเทศชาติบ้าง ให้ประชาชนบ้าง จะไปอยู่ที่ไหนอันนี้ยังไม่ได้ตกลง

การเมืองอาจมีถูกด่ากลัวมั้ย ?

จอนนี่ : ไม่ได้กลัวครับต้องโดนอยู่แล้ว เตรียมใจแล้ว พี่นกก็เตรียมใจแล้ว พี่นกไม่ค่อยโอเค มันต้องมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ เราก็ปิดหูปิดตาบ้าง ไม่ต้องไปรับทั้งหมดคนเรา ไม่อย่างนั้นมันจะทำให้สิ่งที่เราตั้งใจอยากทำ ไม่ได้ทำ

ติดตามรับชมรายการ คุยแซ่บShow ย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama