Entertainment

‘มุก มาริษา’ ภรรยา ‘แซม ยุรนันท์’ เผยเรื่องพีค! คนโทรหากลางดึก บอกสามีเสียชีวิตแล้ว

พระเอกรุ่นใหญ่ แซม ยุรนันท์ ควงภรรยาสาวสวย มุก มาริษา เปิดเส้นทางความรัก จากคนที่เคยเมินสู่การใช้ชีวิตคู่มายาวนานกว่า 37 ปี พร้อมเคลียร์ชัด ๆ เป็นคนกลัวภรรยาจริงไหม ซึ่งทั้งคู่เปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง วัน31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และหนิง ปณิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

6 มุก มาริษา ภรรยา แซม ยุรนันท์6

คบกันมา 37 ปีแล้วเหรอ ?

แซม : 37 ปี เกิดกันหรือยังเนี่ย

เห็นหล่อขนาดนี้ ตอนแรกที่เจอพี่มุกเมินพี่แซมเลย ?

แซม : เชิดใส่ จริง ๆ เพื่อนพี่ในตระกูลเขา เป็นเพื่อนพี่มาตั้งแต่เด็ก แต่ว่าคุณแม่พี่มุกแต่งงานไปอยู่ข้างนอก ตรงนั้นเราเรียกวัง เขาอยู่ที่เดียวกันหมด ทีนี้คุณแม่แต่งงานไปอยู่ข้างนอกก็ไม่เคยเจอเขาเลย เพื่อนคนอื่นเจอกันหมด ก็มาเจอกันตอนเลี้ยงรับเพื่อนกลับมาจากเมืองนอก เราก็ไม่ไปสักที เอาผู้หญิงมาล่อ บอกว่าใส่เสื้อสีแดง มึงต้องชอบแน่ ๆ เราก็บอกว่าไม่ต้องเอามาล่อหรอก เดี๋ยวไป พอไปถึงก็ไม่ได้คิดอะไร ก็ทักกับพี่น้องคนนั้นคนนี้ ตอนนั้นเป็นดาราใหม่ ๆ ก็ไม่ได้มอง แต่มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินผ่านทีไร ก็จะมองไปอีกทาง ตั้งใจให้รู้ว่าฉันไม่ได้ดูเธอ

พี่มุกทำไมต้องเมินผู้ชายหล่อขนาดนี้ ?

มุก : จริง ๆ พี่เป็นคนขี้อาย ถ้าเดินผ่านผู้ชายหล่อ ๆ หรือรู้ว่าใครมองเนี่ย พี่จะไม่มอง เพราะพี่อาย พี่ก็จะมองตรง

แซม : ไม่ตรงนะ มองไปอีกข้างนึงเลย

มุก : ถ้ามีคนมองพี่จะทำหน้าไม่ถูก ก็จะมองไปอีกทางนึง

ตอนแรกเขาหล่อไหม ?

มุก : ก็หล่ออยู่นะ

ตอนนั้นที่ไปเจอพี่แซมเริ่มดังมากๆ  เหมือนกัน ?

แซม : ไม่ ๆ ตอนนั้นเพิ่งเริ่มเล่นหนังไม่เท่าไหร่เอง อายุ 21-22 ปี เป็นพระเอกหนัง ร้องเพลง เล่นละครแล้ว

สมัยก่อนมันไม่มีโอกาสเจอดารานักแสดงกันง่าย ๆ เหมือนสมัยนี้ ตอนนั้นพี่มุกรู้สึกยังไงบ้าง ?

มุก : ตอนนั้นเด็กมั้ง แล้วเขาก็มาในกลุ่มญาติ ซึ่งเป็นญาติสนิทพี่ แล้วพี่แซมก็เป็นเพื่อนกับญาติพี่หมด

ถ้าวันนั้นเขาเชิดใส่สานสัมพันธ์ต่อกันได้ยังไง ?

แซม : ก็บอกเพื่อนว่าเสื้อแดงคนนี้เปล่าที่มึงพูด คือมาคอแข็งใส่กูทำไม เริ่มต้นก็มาจากคอแข็งนี้แหละ มันเป็นอะไรทำไมต้องคอแข็งใส่เรา ถามเพื่อนว่าเป็นยังไง เขาบอกไม่มีอะไร เขาก็จูงมือไปโต๊ะนี่เลย ไปไหว้คุณพ่อ คุณแม่ ให้รู้ไปเลยว่ายังจะคอแข็งคาโต๊ะอยู่ไหม เพื่อนก็พาไปนั่งเลย เขาก็มีปฏิกิริยา มองเรี่ยราด จะเอายังไงดี หลังจากนั้นเพื่อนก็บิ๊วต่อ โทรศัพท์คุยกัน มีแซมนั่งอยู่ด้วย เขาอยากคุย คือจริง ๆ มาจากเรื่องอยากรู้ว่าเพราะอะไร คอแข็งใส่ฉัน

พอได้คำตอบแล้วช็อกไหม นี่เขาเขินเราเหรอเนี่ย ?

แซม : ไม่รู้เขารู้สึกอะไร

มุก : ก็เป็นแผนไง เขาก็เสร็จเราเลย ไม่ ๆ คือพี่เป็นคนขี้อาย พี่ทำหน้าไม่ถูก ไม่ได้คิดอะไร

มันก็เลยกลายเป็นเหมือนเชิดใส่เขา มันก็เลยกลายเป็นศึกที่พี่ต้องชนะให้ได้ ?

แซม : ตอนนั้นคิดแค่นั้นว่าทำไม

แล้วสุดท้ายเกมนี้ชนะได้ยังไง ?

แซม : ชนะหรือยังเนี่ย พี่รู้สึกว่าพี่แพ้อยู่ตลอดเวลา

อะไรที่ทำให้ตัดสินใจไปจีบพี่มุก ?

แซม : จริง ๆ ก็เป็นสานสัมพันธ์เหมือนเป็นเพื่อนอีกคนในญาติพี่น้องที่เราสนิทอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ลักษณะการคบมันดันต่างไปเอง มันเหมือนไม่ใช่เพื่อน

6 มุก มาริษา ภรรยา แซม ยุรนันท์5

สมัยก่อนผู้ชายโทรจีบผู้หญิงยังไง ?

แซม : ก็ใช้โทรศัพท์บ้าน โทรศัพท์มือถือไม่มี ก็ถามว่าทำอะไรอยู่ กินข้าวหรือยัง ก็ประมาณนั้น

มุก : ไม่มีพูดชอบนะคะ ก็แบบคุยธรรมดา คือเจอกันในงานใช่ไหม คุณพ่อคุณแม่เห็นท่าไม่ดี คงจะเห็นมองเยอะ ก็ลากกลับบ้านเลย เราก็กลับบ้าน เขาก็อยู่งาน เขาก็สานต่อเอง

โทรมาจีบเรื่อย ๆ ?

แซม : อยู่กับเพื่อนด้วยนะ ไม่ได้โทรเอง เพื่อนเป็นคนโทร เพราะไม่ได้รับสายเอง คุณพ่อคุณแม่รับ ก็แล้วแต่ ญาติเป็นคนโทร

มุก : คือเขาเป็นเพื่อนกับญาติพี่ ก็ให้ญาติโทรมาหากันมันไม่แปลก เสร็จแล้วเขาก็มาพูด

แซม : เผอิญแซมนั่งอยู่ด้วยอะไรแบบนี้ อยากคุยด้วยหน่อยไหม ประมาณนี้ แต่ก็คุยกันยาวก่อน เพราะพ่อแม่ นั่งฟังอยู่

แสดงว่าที่บ้านพี่มุกหวงมาก ?

มุก : ก็หนักเหมือนกัน

แซม : ไม่รู้สิ ถ้ารับไปกินข้าวนอกบ้านไม่ต้องพูด ถ้ามากินที่บ้านเวลคัม เพื่อน ๆ ก็มา พี่ไม่ได้ไปคนเดียวนะ พี่ไปวันแรกจำได้เลย แซมอย่าเคี้ยวหมากฝรั่งนะ อย่านั่งอย่างนี้ ก็มีเพื่อนไปนั่งเป็นไม้ประดับอยู่ด้วย ยิ่งถ้ารับไปข้างนอกเป็นเรื่องใหญ่ ใครเป็นคนมารับ คนนั้นต้องมาส่งด้วย ถ้าบอกว่าจะกลับ 6 โมงเย็น คือเย็นมากแล้ว มันจะมืดแล้ว ถ้าเลทกว่านั้นเรื่องใหญ่มาก ต้องจอดข้าง ๆ เพื่อหยอดเหรียญบาทโทรศัพท์บอกว่าอาจจะต้องช้าสัก 10 นาทีถึง 15 นาที

มุก : ต้องบอกว่าทำไมถึงช้า

แล้วจุดไหนที่พี่มุกประทับใจพี่แซม ?

มุก : ไม่รู้เหมือนกัน มันค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไปมั้ง รู้อีกทีนึงก็ขาดไม่ได้แล้ว

แซม : เขาก็เคยถามพี่นะว่าพี่ชอบเขาเมื่อไหร่ พี่ก็คิดไม่ได้ พี่ก็ตอบไปว่าไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ แต่รู้อีกทีมันชอบแล้ว เขาบอกว่าเขาตัดสินใจเลือกเพราะคำตอบนี้ เราก็ถามว่าทำไม เขาบอกว่า ถ้าบอกว่าชอบวันนี้ ๆ แสดงว่าคิดไว้ก่อน แต่คนที่ชอบ รักกัน มันต้องไม่รู้ตัว มันเข้ามาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

ตอนแรกที่ไปเดทกันต้องมีคนไปด้วย ?

แซม : ใช่ เป็นเพื่อนสนิทมากที่เป็นคนเดียวที่เป็นทหาร แล้วคุณพ่อพี่มุกรักมาก เขาจะต้องไปกับเรา พี่ไม่อึดอัดนะ แต่เพื่อนพี่อะอึดอัด มึงเพลินกันเลยนะ

สมัยก่อนมีไปดูหนังกันไหม ?

แซม : มี แต่ต้องรอบค่ำหน่อย หนังที่ไม่ค่อยมีคนมากนัก พี่ทำตัวแบบเข้าตามตรอก ออกตามประตู ที่คุณพ่อชมนะ เสมอต้นเสมอปลาย ไม่เห็นต้องกลัวผู้ใหญ่ถ้าไม่ทำอะไรผิด พอเป็นแฟนแล้วเขาก็เริ่มปล่อยไปไหน มาไหนกัน ก็เป็นปีแหละถึงจะไปดูหนังได้ กินข้าวได้

แล้วเวลาไปดูหนังพี่ไม่กลัวคนรอบข้างเห็นเหรอ? 

แซม : พี่จอดรถ พี่มุกไปซื้อตั๋ว ถ้าคนเยอะพี่มุกก็เข้าไปก่อน พอตอนจบข่าววอร์จะขึ้นทีหลัง พอจะจบปุ๊บเราก็ต้องรีบออก เพราะเดี๋ยวออกมาไม่ได้ แต่สมัยนี้ไม่ใช่เพราะข่าววอร์ขึ้นก่อน

ตอนนั้นพี่ดังขนาดนั้น พี่ปิดพี่มุกยังไง ไม่มีสื่อรู้เลยตลอด 10 ปี ใช่ไหม ?

แซม : พี่ไม่ได้ปิดนะครับ เราก็คบกันปกติ ถือว่าเป็นการให้เกียรติ ถามว่าหนังสือพิมพ์ดัง ๆ สมัยก่อน รู้หมด เพราะพี่พาพี่มุกไปไหว้ และอธิบายให้เข้าใจอยู่แล้ว เราคบกับคนที่เขามีพ่อมีแม่ แล้ววันนี้การที่เราจะไปไหน เราไปพูดแบบไม่ได้หมั้นหมาย ไม่ได้อะไรกันไว้ เราไม่รู้จริง ๆ ว่าอนาคตคืออะไร ถึงแม้เราจะทำวันนี้ได้ดีที่สุด เพราะสมัยก่อน ถ้าผู้หญิงมาคบกับใครที่มีชื่อเสียงต้องเลิกกันไป เหมือนเป็นแม่หม้ายแล้ว มันไม่ใช่คนนี้เคยเป็นแฟนคนนี้ คือเรื่องมันใหญ่กว่าการที่เขาดำเนินชีวิตหลังจากนี้ เราให้เกียรติ แล้วพี่ก็บอกทุกเล่มเลยว่า เมื่อพี่จะแต่งงานให้เป็นเรื่องเป็นราว พี่จะทำทุกอย่างให้ถูกต้อง เพื่อจะเชิญทุกคน เพราะทุกคนเป็นญาติเรา ถามว่าทุกเล่มรู้ไหม รู้หมดเลย เพียงแต่ไม่ได้เขียนถึงอะไรมาก อาจจะมีแซวบ้างนิด ๆ หน่อย ๆ ก็จะกำชับหนังสือพิมพ์อื่น ๆ เหมือนกัน เขาไม่ได้ปิดเพื่อจะไปคบซ้อนกับใคร ไม่พูดเพราะเป็นการให้เกียรติผู้หญิง

6 มุก มาริษา ภรรยา แซม ยุรนันท์4

พี่แซมเขาไม่พูดถึงเรื่องเราในสื่อเลย น้อยใจไหม ?

มุก : จำความรู้สึกตอนนั้นไม่ได้ขนาดนั้น น้อยใจไหม อาจจะมี คือญาติเรารู้จักเขาหมด พี่แซมเขาเสมอต้นเสมอปลาย เขามาบ้านเราทุกคนก็รู้จักเขาหมด เราก็รู้จักฝ่ายเขา ก็แค่ไม่ได้ลงสื่อแค่นั้นเอง พี่ก็เลยไม่สนใจ ถามว่ารู้จักสื่อไหมรู้จัก พี่แซมพาไปไหว้หมด

ครอบครัวถามไหมว่าทำไมพี่แซมไม่เปิดตัว ?

มุก : เขาชอบนะคะ เขาชอบให้คบกันเงียบ ๆ พี่ก็อยู่กันเงียบ ๆ

คู่นี้เปิดตัวทีเดียวแต่งงานเลย ช็อกทั้งประเทศ ?

แซม : ถามว่าช็อกประชาชนทั่วไปอาจจะมีบ้าง แต่ถ้าแฟนคลับสนิทที่ตามพี่ เขาก็รู้ว่าพี่มีแฟนนะ พี่ ๆ น้อง ๆ ในวงการบันเทิงรู้หมด บางทีพี่มุกก็ทำขนมไปให้ที่กองถ่าย ไม่ได้เป็นเรื่องปิดนะ แต่ว่าเราไม่เห็นจำเป็นต้องโชว์สื่อขนาดนั้น เรารักกันแล้วก็จบ

ตอนที่แต่งงาน ข่าวใหญ่มาก ออกรายการทีวีเลย ?

แซม : งานแต่งงานเราไม่ออกรายการไหนเลย ก็ท้ากัน ตอนนั้นคุณวิทวัสก็เหมือนกัน ผมก็บอกว่าที่ไม่ได้ออก เพราะว่ามุกเขาไม่ได้เป็นนักแสดง เขาไม่ชินกับการออกทีวี ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ เขาบอกว่าไม่มีเวลา ถ้าอย่างนั้นพี่ขออนุญาตไปถ่ายถอดสดที่งานแต่ง งานแต่งพี่ก็ถ่ายทอดสดช่อง 7 แล้วพระองค์โสมท่านก็เมตตาเสด็จเป็นประธานงานเลี้ยงฉลองสมรสพระราชทาน เพราะเราเข้ารับพระราชทานน้ำสังข์จากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 งานนี้เกิดขึ้น 27 ปีแล้ว

จริงไหมที่บอกว่าถ้ากระแสตกก็ไม่ว่า ?

แซม : เข้าใจดารารุ่นก่อน ถ้าเกิดคนไหนมีครอบครัวแต่งงาน เหมือนกับแฟน ๆ จะไม่รับ ก็อาจจะอยู่ในวงการได้ไม่เหมือนเดิม ซึ่งพี่ก็เข้าใจแล้ว ณ วันนั้นเราพร้อม ความรักเราสุกงอม เราอยากอยู่ด้วยกัน เราอยากมีลูก เราเข้าใจแล้วรับสภาพได้ ถ้าแฟน ๆ จะไม่รับเราก็พร้อม เราอยากมีชีวิตครอบครัว

พี่มุกโอเคไหม ถ้าตอนนั้นแต่งแล้วกระแสตก ?

แซม : ตอนนั้นไม่คิดอะไรเลย คิดอยากอยู่ด้วยกันแค่นั้น คือผู้หญิงคนนึงเนอะ เป็นแฟนกันมานาน ๆ ก็อยากแต่งงาน

การที่แต่งงานกับพระเอกหล่อขนาดนี้ ลึก ๆ เรามีหึงบ้างไหม ?

มุก : หึงอยู่ แต่ก็พยายามสกัดความรู้สึกนี้ออกไป เพราะว่าเขาอยู่กับเรา เราก็ไม่อยากทำตัวงี่เง่า จะหึงเพื่ออะไรในเมื่อเขาอยู่กับเรา เขาเสมอต้นเสมอปลาย คือพี่แซมเขาน่ารักจริง ๆ

6 มุก มาริษา ภรรยา แซม ยุรนันท์1

หึงมากที่สุดยังไง ?

มุก : ก็ไม่พูดด้วย ทั้งที่เขาไม่รู้ว่าเขาผิดนะ คือผู้หญิงสวย ก็หึงแค่นั้น ไม่มีอะไรเลย

เวลาพี่มุกดูละครพี่แซมรู้สึกยังไงเวลาเขาจู๋จี๋กัน ?

มุก : แต่พอตัดความรู้สึกนั้นออกไป ดูละครด้วยความสนุกเลย ไม่หึง เคยหึง แล้วก็หึงไปคนเดียว เป็นบ้าคนเดียว เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ หลัง ๆ ก็ตัดความรู้สึกออกไป

เห็นว่าเคยมีผู้หวังดีประสงค์ร้าย โทรศัพท์มาถึงบ้านเลย มาให้ข้อมูล วีรกรรมของพี่แซม ?

แซม : ไม่มีวีรกรรม คนเหล่านั้นอาจจะไปฟังอะไรมาแล้วก็มาเล่า พี่มุกเขาก็ฟัง

มุก : เคยมีเพื่อน ซึ่งพี่ก็รู้จักเพื่อนเขาหมด เนี่ยเห็นไปเล่นโบว์ลิ่งกับเพื่อน ถามผู้หญิงใคร บอกผู้หญิงผมสีแดง อ่อ…รู้แล้วใคร คือเพื่อนอะ เขาพยายามจะยุยง

พอเราไม่ฟังเขา เห็นว่าเขามาด่าเราเลยเหรอ ?

มุก : โง่ เราก็บอกว่าเรื่องของฉัน

แซม : เรื่องที่โง่เนี่ย เขาหาว่าพี่ไปซื้อที่ พี่แซมเขามีที่ดินที่นี่ด้วยนะ ติดน้ำ พี่แซมเขาไม่มีนะ เขาบอกมี เขามีเขาก็ไม่บอกเธอสิ เธอมันโง่

พี่มุกรับมือกับผู้หวังดีประสงค์ร้ายยังไง ?

มุก : จากนั้นพี่ก็จะพูดกับทุกคน สมมติว่าเป็นเพื่อนกัน ส่วนใหญ่จะหวังดีใช่ไหม บอกเนี่ย..รู้ไหมถ้าพี่แซมเขาไปมีคนอื่น จะว่ายังไง เดี๋ยวก่อนนะ ๆ ทำความเข้าใจกันก่อน อย่าโกรธนะ คือถ้ารู้อะไรมาเกี่ยวกับพี่แซม จะจริงหรือไม่จริงไม่ต้องมาเล่า ไม่อยากฟัง พี่พูดอย่างนี้เลย ตั้งแต่สาวจนแก่ก็จะพูดแบบนี้อยู่

ทำไมพี่เชื่อใจพี่แซมขนาดนี้ ?

มุก : คือพี่ว่ามันเป็นถ้าปัญหามันเกิดที่เราสองคนไม่ต้องมาพูด คือถ้ามีอะไรขึ้นมาพี่อาจไม่สนใจปัญหานั้น มันเรื่องของพี่ คือพี่ไม่อยากรู้ อาจจะมีก็ไม่ต้องมาเล่า เรื่องจริง หรือไม่จริง ไม่ต้องมาเล่าไม่เอา

อันนี้จริงไหม พี่แซมนอนอยู่ข้าง ๆ มีคนโทรมาบอกว่าพี่แซมเสียชีวิตแล้ว ?

มุก : ใช่ อันนี้ซีเรียสมาก เป็นข่าวว่ารถชนอะไรสักอย่าง แล้วพี่แซมก็นอนอยู่ข้าง ๆ แล้วมีคนหวังดีจริง ๆ
เขาโทรมาตอนตี 4-5 คิดว่าพี่แซมตายแล้ว แล้วพี่นอนหลับก็ตื่นมารับ จนเขาพูดว่าพี่แซมตาย เขาก็อยู่ตรงนี้ ตายแล้วจริง ๆ พี่ปลุกเลยนะ

แซม : ความเชื่อของเขา มันเชื่อแรงขนาดคนที่อยู่กับความเป็นจริงยังตกใจ ประมาณแบบยังไม่รู้เรื่องเหรอคะ พี่แซมตายแล้ว เขาก็ร้องไห้ใหญ่เลย ไม่ตายหนิ เขาอยู่นี่ เขาบอกว่าเนี่ยข่าวออก จนนี่ลุกขึ้นไปเปิดไฟ มุกต้องเขย่าให้พี่ตื่น

มุก : คือพี่คิดอันนี้ผีหรือเปล่า คือพี่เชื่ออย่างนั้นเลยนี่เรานอนกับผีเหรอ หรือเขาตายจริง ๆ หรือเราไม่รู้ หรือเป็นผี

แซม : คือคนที่ฟังมา เขาเชื่อแบบเราความจริงหรือมันไม่จริง เขาก็เลยบอกว่าไม่ต้องมาเล่าเรื่องอะไรที่จริงหรือไม่จริงไม่รู้ ฉันเชื่อในสิ่งที่ฉันเห็นและมันเป็นอยู่

เรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงคนนึงที่สตรองมาก ๆ ใช้ความเชื่อใจเป็นหลัก ถามว่ามันมีหวั่นไหวบ้างไหม ?

มุก : พี่อาจจะเป็นคนจิตแข็งก็ได้ พี่ไม่หวั่นไหวจุดนี้ พี่ทำดีที่สุด แล้วก็ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นเขารักใครมากกว่าพี่ พี่ก็มีความมั่นใจสูงนิดนึง

แซม : มันอยู่ที่ผู้หญิงด้วย พี่พูดอยู่เสมอว่าถ้าวันนี้พี่ต้องเอาชีวิตชุ่ย ๆ แลกกับสิ่งที่เป็นอยู่ แล้วมีความสุขอยู่ พี่ไม่แลก เพราะว่าชีวิตครอบครัวพี่ดี พี่ไม่แลก ไม่คุ้ม เราเจอคนที่เรารักแล้วมันโอเคแล้วเนี่ย พี่จะไม่ยอมเสีย แล้วบอกลูกอยู่เสมอว่า รักแท้ที่มีตั้งแต่เด็ก ๆ มีอยู่จริง เพราะพ่อแม่ คบกันตั้งแต่เด็ก ๆ ตั้งแต่ยังเรียนหนังสือ แล้ววันนี้ยังอยู่กินกัน เพราะฉะนั้นถ้าคิดว่าใช่แล้ว คีฟมันเอาไว้ เพราะว่ามันดีที่สุดแล้ว

6 มุก มาริษา ภรรยา แซม ยุรนันท์3

พี่แซมเคยหึงหวงเขาบ้างไหม ?

แซม : มี นางอยู่การบินไทย ถึงแม้ไม่ใช่แอร์โฮสเตส อยู่ภาคพื้นดินต้องเจอคนเยอะมาก กลับมามีคนเอาดอกไม้มาให้ คนนั้นเอานี่มาให้ เราก็มีเหมือนกัน หมั่นไส้มันให้อะไรบ่อย ๆ เราก็ไปแสดงตนบ้าง หลังจากนั้นพี่ก็ไม่ต้องทำอะไรอีกแล้ว เพื่อนพี่มุกที่รู้จักพี่ก็จะรุมมาหาพี่ ไม่มีใครอยู่ได้หรอกครับ เป็นพวกพี่หมด

พี่กลัวเมียหรือไหม ?

แซม : ไม่กลั๊ว..จะบอกว่ากลัวไหม ก็ไม่ได้กลัวนะครับ แต่ด้วยความที่เรารัก เราก็เกรงใจ อะไรที่ทำให้ผิดใจ อะไรที่ทำให้ไม่ชอบ ก็แค่ไม่ทำ อาจจะดูเหมือนกลัว แต่อยู่เป็น เพราะรู้ว่าใครใหญ่ที่สุดในบ้าน เราก็ต้องเจียมตัว เราอาศัยอยู่ คนกลัวเมีย ได้ดีทุกคน เชื่อพี่

เวลาทะเลาะกัน ส่วนใหญ่ทะเลาะกันเรื่องอะไร ?

มุก : เรื่องไม่เป็นเรื่อง

แซม : เช่น เรื่องคนอื่น ไปเดือดร้อนแทนคนอื่น คือมีเรื่องแบบนั้นแต่ไม่ได้ใหญ่โตอะไร ตอนสมัยวัยรุ่น เถียงกันเพื่อเอาชนะกันแค่นั้น ใส่อารมณ์กันไปมา สุดท้ายไม่ได้อะไร เหตุผมมีอยู่นิดเดียวพอเราโตขึ้นมา เราเข้าใจแล้วว่าจะเอาชนะกันทำไม ชนะเมียพี่แล้วพี่ได้อะไร ไม่มีความสุขกับชีวิต พี่ว่าความรักคือการยอมกันได้ เรารักพอที่จะยอมไหม ก็แค่นั้น ดีลกันแค่สองคน แพ้เมียอายอะไร เขาไม่ไปขอเหมือนเพชร 10 กะรัตทุกวัน คือถ้าตรงนี้มันดีกว่าก็แค่ยอม

แล้วเวลาโกรธกันใครง้อใคร ?

มุก : เหมือนไม่มีใครง้อใคร มันก็เถียงเรื่องไม่เป็นเรื่อง มันไม่ได้โกรธกันจริง แค่แบบหมั่นไส้

แซม : บางทีเขาก็มีวิธีของเขา นี่น้ำส้ม แต่ไม่ได้มีขอโทษนะ คือพี่ก็เหมือนกันถ้าไม่ชอบอะไรพี่ก็ไม่พูด ก็จะไปคิดให้เรามีเหตุผลมากขึ้น

ผู้หญิงคนนี้บ่นเก่งไหม ?

แซม : บ่น ยิ่งแต่งงานใหม่ ๆ บ่นมากเลย มาใช้ชีวิตด้วยกัน ไลฟ์สไตล์มันไม่เหมือนกัน เขาถูกเลี้ยงมาแบบนี้ ฉันถูกเลี้ยงมาแบบนี้ บางทีก็บ่นมาก บ่นจนแบบเราต้องบอกว่าหยุดบ่นสักทีได้ไหมอิแก่

มุก : แล้วตอนนั้นเรายังสาวอยู่ด้วย เราก็อึ้ง ต่อไปนี้ก็ไม่พูดแล้ว

แซม : เขาไปฟ้องแม่เขา แม่บอกว่าคงจะบ่นมากโดนแซมเรียกว่าอิแก่ เขาก็ไม่บ่นอีกเลย

พี่ไม่กลัวเขาโกรธเหรอ ?

แซม : ตอนนั้นที่พูดไป ไม่ได้พูดขำ ๆ นะ พี่ทำอะไรอยู่ไม่รู้แล้วเขาก็บ่น ๆ พี่ก็บอกว่าหยุดบ่นได้ไหมอิแก่ แล้วพี่ก็หลบ แต่มันได้ผล พอบอกปุ๊บเขาก็ไม่บ่น

มุก : พอเขาพูดมาเราก็เห็นตัวเอง เราพูดมากไปนะ เราไม่ควรทำ ทุกวันนี้ไม่พูดเลยนะ

แซม : ปากสามีช่วยได้นะ ตอนเขาลดน้ำหนักไม่ลงตอนคลอดลูกใหม่ ๆ บอกไออ้วน ไม่เกิน 2-3 อาทิตย์ผอมเลย

มุก : คือพี่ก็ไม่ยอมอ้วน ฟิตร่างกายตลอด

มุก มาริษา1

พี่แซมบอกว่าถ้าทะเลาะ อย่าทะเลาะต่อหน้าลูก เพราะอะไร ?

แซม : ส่วนหนึ่งมันไม่ควรอยู่แล้ว สามี-ภรรยา เป็นเรื่องของคนสองคน ทะเลาะไม่เท่าไหร่ ถ้าจะดุลูกก็เข้าใจนะ เพราะมันต้องมีคนนึงเป็นยักษ์ในบ้าน แล้วเราบอกเขาว่าถ้าจะดุลูกอย่าให้เราอยู่ เพราะบางทีลูกหันมามองเราแววตาแบบช่วยด้วย แล้วเราช่วยไม่ได้ แล้วเขาจะพึ่งพ่อได้ยังไง มันต้องมีเรื่องที่แม่ต้องดีลกับลูกพ่อไม่เกี่ยว เพราะว่าเราไม่รู้สถานการณ์นั้นจริง ๆ เราควรให้ลูกมีที่พึ่ง ถ้ามีปัญหากับแม่ก็มาพึ่งพ่อ ถ้ามีปัญหากับพ่อก็ไปพึ่งแม่ เราควรให้ลูกมีที่พึ่ง อย่าเหมือนกับรุมลูกอยู่

เห็นว่ายังไงลูกก็ต้องไปเรียนเมืองนอก เพราะปมของตัวเอง ?

มุก : มันก็ไม่เชิง ถ้าลูกไปก็ดีในแง่นั้น พี่ก็คุยกับลูกพี่ไม่ได้ไป เพราะว่าติดผู้ชาย คือพี่มีพี่น้อง 3 คน พี่สาวก็ไป พี่ชายก็ไป พี่ลูกคนเล็กพี่ก็ต้องไป แต่พี่ติดคนนี้ คบกันตั้งแต่เรียนไม่จบ ก็ติดเขา เขาก็บอกว่าอย่าไปเลยนะ เราก็ยังไงดี จนในที่สุดก็ตัดสินใจไม่ไป เสร็จแล้วก็บอกลูกว่าลูกไปเถอะ อย่ามีแฟนนะ ถ้ามีแฟนเดี๋ยวจะไม่ได้ไปเมืองนอกแบบแม่ เขาก็ย้อนกลับมาว่า ไม่มีใครเขาเหมือนแม่หรอก เขาอยากไปเมืองนอกกันทั้งนั้นแหละ

แซม : เขาก็บอกนะว่าลูกไปเรียนเถอะ แม่ไม่ได้ไป เพราะแม่ติดผู้ชาย ลูกก็หัวเราะ แต่อย่าลืมนะผู้ชายที่แม่ติดวันนี้ คือพ่อของลูกอยู่ทุกวันนี้

ติดตามรับชมรายการ คุยแซ่บShow ย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

 

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo