‘ดิว อริสรา’ ไลฟ์เปิดใจ หลังเจอเรื่องช็อกหนักที่อเมริกา ตอนนั้นเสียใจจนพูดไม่ออก

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 23 กันยายน 2564

ดิว อริสรา ไลฟ์เปิดใจ หลังโดนโจรบุกขโมยของชุดใหญ่ไปจากรถ มูลค่าความเสียหายกว่า 3 หมื่นเหรียญสหรัฐ ตอนนั้นเสียใจจนพูดไม่ออก

หวังไปพักผ่อนให้สบายกายสบายใจ แต่ดาราสาว “ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์” กลับต้องเจอเรื่องช็อก หลังจากที่เจ้าตัวโบกมือลาเมืองไทย แล้วจูงมือหวานใจไฮโซหนุ่มโปรไฟล์หรู “เซบาสเตียน ลี” จัดทริปบินลัดฟ้าบินไปเที่ยวใช้เวลาว่างไกลถึงเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมกับทยอยปล่อยภาพสาดความหวานให้แฟน ๆ ได้ติดตามผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว @duearisara

ดิว อริสรา ไลฟ์เปิดใจ หลังโดนโจรบุกขโมยของชุดใหญ่ไปจากรถ

แต่ปรากฏว่า สาวดิว กลับถูกโจรเข้ามาขโมยของชุดใหญ่ไปจากรถ มีค่าที่ถูกขโมยไปนั้น รวม ๆ แล้วมูลค่า 3 หมื่นเหรียญสหรัฐ ซึ่งตีเป็นเงินไทยนับล้านบาทเลยทีเดียว โดยล่าสุด (21 ก.ย.) เจ้าตัวได้มาไลฟ์เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นให้ฟังว่า

“วันนั้นเป็นวันที่เราจะต้องแวะเอาของ ๆ เรา ไปฝากไว้กับญาติเซบ เราเลยแวะซื้อของฝาก ลงจากรถไปแค่ 15 นาทีเพื่อซื้อเค้ก พอกลับมารถไม่ได้เสียหาย หรือโดนทำลายอะไรเลย แต่พอเราเปิดข้างหลังเพื่อเอาของใส่ สรุปเจอของกระจัดกระจายไม่อยู่กับที่เหมือนเดิม ซึ่งหลังรถมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ 2 ใบ ถุงแบรนด์เนมประมาณ 3 ถุง ตอนแรกยังตลกตัวเองอยู่ เพราะโลกสวยนึกว่าผีหลอก

แต่เซบตั้งสติ ไปเปิดหลังรถเช็คกระเป๋าเดินทาง เพราะข้างในนั้นก็มีของมีค่า ซึ่งของก็ครบ กระเป๋าเดินทางก็ครบ ถุงที่อยู่ข้างหน้าก็เหมือนจะครบ เราก็นับถุง แต่ไป ๆ มา ๆ เฮ้ย 1 ถุงใหญ่ ที่เป็นชาแนลถุงใบใหญ่ หาย คือแบบงงอ่ะ แล้วด้วยความที่เราเป็นคนจัดของ แล้วความโก๊ะของเรา เราก็คอนเฟิร์มว่าล็อกรถแล้ว 100% แต่ด้วยความที่เราจัดของ เราก็ยัดของทุกอย่างเลย ไม่ว่าจะเป็นชาแนลที่ซื้อกี่รอบ ๆ แล้วก็ชาแนลที่ใส่ไปแล้ว ความติงต๊องอ่ะ ชาแนลก็ชาแนล อยู่ด้วยกันไปเลย เวลาแพ็คจะได้ไม่งง ก็ใส่ไปในนั้นหมดเลย แล้วถุงชาแนลก็คือหายไปแล้ว

เราก็เสียใจแล้วก็ไม่มีคำพูดอะไรเลย เซบก็งงไปเลยว่าทำไมเราถึงเงียบ แต่ความที่เรารู้สึกว่ามันน่ากลัว เราก็เลยเงียบ นั่งตั้งสติในรถ แล้วเราก็เลยพูดว่า เซบรู้สึกไหมว่าเซบยังได้กลิ่นอยู่เลย ความหมายคือรถของเรา เราก็จะมีกลิ่นเรา ที่เราใช้ประจำ เราก็จะได้กลิ่นประจำ แต่อยู่ ๆ สิ่งที่เราได้กลิ่น คือเราได้กลิ่นของคนที่เพิ่งมานั่ง แล้วลุกออกไป กลิ่นมนุษย์ แล้วก็กลิ่นบุหรี่ ที่เขาสูบ

แล้วที่พีคยิ่งกว่านั้น โซนตรงกลางพอเซบเปิดมา ขโมยก็คงคิดว่าเออของมีค่าจะต้องเก็บตรงกลาง พอเราเปิดขึ้นมาปุ๊บ ตรงนั้นของเรามันเป็นตู้เย็นแล้วก็แช่เครื่องดื่มไว้ สรุปที่เราได้กลิ่นเขา คือเขาคงยังมีเวลาชิลอ่ะค่ะ เพราะว่าเครื่องดื่มหายไป 2 กระป๋อง ก็คือคงนั่งกัน 2 คน แล้วก็กินกัน แล้วความที่พีคยิ่งกว่านั้น คือถุง 2 ใบข้างหลัง ใบหนึ่งเป็นกุชชี่ ใบหนึ่งเป็นแอร์เมส ตอนที่ดิวกลับมาคงมีคนส่งซิกบอกเขาแหละ เขาเลยเอาไปได้แค่ถุงเดียว คิดสภาพว่าถ้าดิวกลับมาแล้วเขานั่งอยู่จะเกิดอะไรขึ้น เราเป็นสายลุยอยู่แล้ว ผู้ชายฉันก็ตงบวกเหมือนเดิม คงจะเละน่าดู ก็เลยคิดว่าบนความโชคร้ายคงมีความโชคดีอยู่”