Entertainment

ร้องเก่งขนาดนี้ ‘อั๋น ภูวนาท’ ฝากคำถามถึง ‘ศรีสุวรรณ’ หลังยื่นร้อง 2 พส.นักไลฟ์

อั๋น ภูวนาท ฝากคำถามถึง ศรีสุวรรณ หลังยื่นร้อง 2 พส.นักไลฟ์ ร้องเรียนมากมายหลายคดี ได้ตามความคืบหน้าของคดีที่ตนยื่นร้องเรียนไปมากน้อยเพียงใด ?

สืบเนื่องจากกรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ส่งคำร้องไปยังมหาเถรสมาคมผ่าน ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแก่งชาติ เพื่อขอให้มีบัญชาสอบสวนเอาผิดภิกษุอลัชชี (ผู้ไม่ละอาย) ที่ชอบเล่นโซเชียลมีเดียโดยไลฟ์เอาธรรมะมาสอนเป็นเรื่องตลกขบขัน แต่เมื่อมีคนสนใจเข้ามาดูมาก ๆ รวมทั้งมีเพจที่มาคอมเมนต์ขายสินค้า มาโปรโมทแบรนด์ตัวเอง กลับมาทวงถามให้จ่ายค่ามาใช้พื้นที่เพจของตนในขณะไลฟ์ ชี้ให้เห็นว่า พส. ดังกล่าวมิใช่วัตรปฎิบัติของภิกษุ

11 อั๋น ภูวนาท1

อั๋น ภูวนาท ฝากคำถามถึง ศรีสุวรรณ หลังยื่นร้อง 2 พส.นักไลฟ์

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางด้านพิธีกรชื่อดัง “อั๋น ภูวนาท” ได้แชร์โพสต์ของ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ ที่ได้เขียนข้อความแสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าวว่า “ร้องเก่งขนาดนี้ เดอะวอยซ์ต้องเข้าแล้วแหล่ะ สภาพพพ”

จากนั้น อั๋น ภูวนาท ก็ได้ตั้งคำถามถึงเรื่องนี้ว่า “ร้องเรียนมากมายหลายคดี ได้ตามความคืบหน้าของคดีที่ตนยื่นร้องเรียนไปมากน้อยเพียงใด ?”

อั๋น ภูวนาท ฝากคำถามถึง ศรีสุวรรณ
อั๋น ภูวนาท ฝากคำถามถึง ศรีสุวรรณ

ทั้งนี้ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า พระวินัยบัญญัติที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงให้ภิกษุที่บวชมาในพระศาสนาต้องปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัยบัญญัติทุกรูป “ถ้าทำไม่ได้ ก็จะเป็นเพียงคนโกนหัวแล้วเอาผ้ามาห่มตนให้ดูเหลือง คล้ายดั่งพระภิกษุ ที่ไม่สังวรณ์ว่า ตนต้องบิณฑบารตเลี้ยงชีพเป็นอาจิณ หาใช่มาแสวงหาเงินทองความร่ำรวยจากการบวชเป็นพระ ที่บ้านไม่ต้องเช่า ข้าวไม่ต้องซื้อเหมือนประชาชนทั่วไปเท่านั้น”

สำหรับข้ออ้างของการไลฟ์ เพื่อต้องการเผยแพร่ธรรมะให้เท่าทันยุคสมัย โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นคนรุ่นใหม่ จะได้เข้าถึงธรรมะได้นั้น เห็นว่าเป็นเพียงข้ออ้างที่ไร้น้ำหนักของเหล่า พส.พวกนี้เท่านั้น เพราะคนจะซาบซึ้งในธรรมะต้องมาจากระบบการสั่งสอนอบรมมาตั้งแต่ครอบครัว วัด โรงเรียนร่วมกัน มิใช่มาจากภิกษุที่ทำตนเป็นคณะตลกที่เปลี่ยนหน้าจากหม่ำ เท่ง โหน่ง มาเป็น 2 พส.กลุ่มนี้แต่อย่างใด

นอกจากนี้ยังเชื่อว่า ไม่มีใครซาบซึ้งจากข้อธรรมะ ที่นำมาพูดให้ขบขันได้ แต่กลับเป็นการทำให้ศาสนามัวหมองถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์จากเหล่า พส.ดังกล่าว โดยสังเกตดูได้จากการโพสต์ทวงเพจต่าง ๆ ที่มาโปรโมทแบรนด์ของตนในขณะที่ พส.ไลฟ์โดยให้เบอร์พร้อมเพย์ อย่างไม่ละอายต่อพระธรรมวินัย

ทั้งนี้ ตามพระวินัยปิฎก ได้ระบุเอาไว้ในพระมหาวิภังค์ ว่า “อนึ่ง ภิกษุใด รับ ก็ดี ให้รับ ก็ดี ซึ่งทอง เงิน หรือ ยินดีทอง เงิน อันเขาเก็บไว้ให้ เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์” อันถือเป็นอาบัติ เป็นโลกวัชชะ หรือการกระทำที่ทำให้ขาวโลกติเตียนได้ และการเผยแพร่ธรรมะด้วยวิธีตลกขบขัน ไม่ปรากฎในพระไตรปิฎกแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้เหล่า พส.พวกนี้ก็เคยมีปัญหาจากข้อขัดแย้ง เกี่ยวกับค่าตัวที่ไปเป็นวิทยากรในเวทีต่าง ๆ มาแล้ว หรือบางรูปก็ไปช่วยไลฟ์โฆษณาสินค้าต่าง ๆ ด้วย ซึ่งก็เข้าข่ายต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ด้วยเช่นกัน ซึ่งตามหลักพระธรรมวินัยนั้นหากต้องอาบัติลักษณะนี้ บ่อยครั้งต้องหลุดจากความเป็นพระดั่งโทษปาราชิกเลยทีเดียว

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ไม่อาจปล่อยให้ภิกษุอลัชชีเหล่านี้กระทำการย่ำยีพุทธศาสนาได้อีกต่อไป จึงส่งคำร้องไปยังมหาเถรสมาคมผ่านสำนักพุทธฯเพื่อให้มีบัญชาวางกฎเหล็กห้ามภิกษุใดๆกระทำเยี่ยงนี้อีกและให้สอบสวนเอาผิด พส.ที่ต้องอาบัติซ้ำดังกล่าวเพื่อลงโทษขั้นเด็ดขาดต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo