‘ต้น ณฐนนท์’ ผู้จัดละคร เข้าพบ ‘อัยการสูงสุด’ ชี้แจงปมดราม่า ‘ให้รักพิพากษา’

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 16 สิงหาคม 2564

ต้น ณฐนนท์ ผู้จัดละคร ให้รักพิพากษา เข้าพบอัยการสูงสุด ชี้แจงปมดราม่า ยันไม่มีเจตนาชี้นำชักจูงให้เกิดทัศนคติในทางลบต่อวิชาชีพใด ๆ

จากกรณีละคร “Dare To Love ให้รักพิพากษา” ทางช่อง 3 นำแสดงโดยนางเอกสาวชื่อดัง “เบลล่า ราณี” และพระเอกน้องใหม่ “กองทัพ พีค” ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จากอัยการระดับสูงหลายราย เกี่ยวกับนำเสนอเนื้อหาที่บิดเบือนการทำงานของอัยการ และตำแหน่งผู้พิพากษา ซึ่งอาจส่งผลให้สังคมเข้าใจผิดได้นั้น

ต้น ณฐนนท์ ผู้จัดละคร ให้รักพิพากษา เข้าพบอัยการสูงสุด ชี้แจงปมดราม่า

ล่าสุด (26 ส.ค.) “ต้น-ณฐนนท์ ชลลัมพี” ในฐานะผู้จัดละคร “Dare to love ให้รักพิพากษา” พร้อมด้วย “หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย” ผู้ประสานงานกับหน่วยงานอัยการ ได้นำเอกสารเข้าพบ “วงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์” อัยการสูงสุด เพื่อชี้แจ้งถึงประเด็นที่กำลังเป็นกระแสดราม่าอยู่ในขณะนี้ ณ อาคาร A สำนักอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ

โดย “ต้น ณฐนนท์” เปิดใจว่า ด้วยความที่ประเทศไทยค่อนข้างมีเอกลักษณ์และมีความน่ารักแบบไทย ๆ การมีผู้ใหญ่ให้ความสนใจและท่านกรุณาปันเวลามาใส่ใจในเรื่องเหล่านี้ แม้ไม่ใช่วาระแห่งชาติ ตนถือว่ามันเป็นเรื่องที่ดีมาก เราเป็นเด็ก ทำได้ดีที่สุดก็คือเข้ามาพบท่านด้วยตัวเอง เพื่อเรียนรู้และมีโอกาสได้ชี้แจงเป็นการส่วนตัว การทำงานแบบมืออาชีพทุกคำติเพื่อก่อ ทำให้ตนมีไฟในการทำงาน ถือว่าเป็นเรื่องได้มากกว่าเสีย ต้องขอขอบคุณที่ทุกท่านได้สละเวลาอันมีค่าในช่วงวิกฤตประเทศแบบนี้เพื่อเรียกให้ตนเข้าพบ

ทั้งนี้ ตนมีความตั้งใจที่อยากรังสรรค์งานดี ๆ สู่สายตาผู้ชม อยากจะยกระดับทั้งเนื้อหาของละคร และเทคโนโลยีในการถ่ายทำให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ เหมาะสมกับยุคสมัย เพราะนี่ก็ปี 2021 แล้วไม่อยากจะย่ำอยู่ที่เดิม ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาแบบนี้ที่ประชาชนซึมเศร้าจากวิกฤติ เราเป็นเฟืองเล็ก ๆ ในการสร้างรอยยิ้มได้ตนก็ดีใจแล้ว ทางผู้จัดฯ ก็ต้องขอบพระคุณผู้ใหญ่ในวงการทุกท่านที่ให้การสนับสนุน และแฟนคลับหลาย ๆ ล้านคน ที่ให้ความไว้ใจสนับสนุนตนและศิลปินให้มีสัมมาอาชีพแบบนี้คงอยู่ได้ในยามยาก

ส่วนการแก้ไขเพิ่มเติมในส่วนที่เหลือ ด้านการถ่ายทำคงไม่ได้เปลี่ยนแปลง เพราะถ่ายทำเสร็จหมดและ on air แล้ว แต่สิ่งที่ทำได้และยินดีที่จะทำคือการ ใส่คําชี้แจงเพิ่มเติมในช่วงเริ่มต้น ระหว่างดำเนินเรื่อง และช่วงท้ายก่อนจบและหลังจบ EP. เช่น ตัวละครและเหตุการณ์ต่าง ๆ ในละครเรื่องให้รักพิพากษา เป็นเรื่องราวสมมติ ถูกเติมแต่งและเป็นสถานการณ์เฉพาะบุคคล เพื่ออรรถรสของละคร โดยมิได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อวิชาชีพใด ๆ และไม่ได้มีเจตนาชี้นำชักจูงและเกิดทัศนคติในทางลบต่อกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง

เรื่องของขบวนการยุติธรรม เป็นเทรนด์ของละคร ซีรีส์ในปัจจุบันทั่วโลก เช่น เกาหลี อเมริกา ญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คนไทยให้ความสนใจมาก ทางผู้จัดฯ มีความตั้งใจที่จะนำเสนอละครเชิงนี้ เพื่อให้เกิดความสดและแปลกใหม่ เพื่อให้ประชาชนรู้ว่าขบวนการยุติธรรมของประเทศเรานั้นศักดิ์สิทธิ์ โปร่งใส น่าเคารพ และ เป็นเกราะพึ่งพาให้กับประชาชนทุกคน

เชื่อว่าคนดูละครดูหนังทุกคนแยกแยะออกว่า ละครคือมีเนื้อหาอรรถรสเพิ่มเติมเพื่อสีสันในการสร้างความน่าสนใจ ละครแนวนี้แม้เป็นเรื่องแรกสำหรับเรา แต่ในต่างประเทศเขาทำกันมาเยอะแล้ว มันเป็นเรื่องที่กุขึ้นมาเชิงเอนเตอร์เทนเมนต์ มันไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าโจมตีวิชาชีพใดวิชาชีพหนึ่ง แต่มันบอกเราแค่เพียงว่าทุกอย่างมีขาวดำ มีทั้งคนดีและคนไม่ไม่ดีมันก็เท่านั้น

ในช่วงเวลาที่บ้านเมืองตกอยู่ในสถานการณ์ที่โศกเศร้าและลำบากแบบนี้ ตนไม่อยากให้เกิดความบาดหมางขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจากฝ่ายใด ๆ ตนรู้แค่ว่าตนตั้งใจทำละครให้ออกมาดีและสนุกที่สุดก็เท่านั้น มั่นใจว่าคนที่แยกแยะคำ 2 คำออกระหว่าง สารคดีกับละคร เขาคงจะเข้าใจแล้วก็คงไม่ต้องอธิบายกันเยอะ

อยากให้ประชาชนเป็นกำลังใจให้นักแสดง ผู้จัดช่อง ว่าพวกเขาทำงานกันอย่างเติมที่ด้วยความทุ่มเท เพราะมันยากมาก ด้วยมิติของเนื้อหาเรื่องขบวนการยุติธรรม ศิลปินดาราทุกคนท่องจำบทกันเป็นสิบ ๆ หน้า เพื่อให้ออกมาดีที่สุดและสนุกที่สุด

ส่วนตัวผู้จัดฯ สัญญาว่าจะไม่ท้อและจะนําทุกประเด็นติเพื่อก่อ ไปประกอบการพิจารณาเพื่อให้ละครเรื่องต่อไปออกมาสมบูรณ์มากยิ่ง ๆ ขึ้นไป ขอให้แฟน ๆ ส่งเสียงกันมาว่ายังอยากให้มีละแนวนี้ต่อไปหรือไม่ เพราะตนก็ใฝ่ฝันว่าถ้ากระแสมาดีขนาดนี้ ดูแล้วเกิดประโยชน์มากกว่าโทษ ก็ยินดีที่จะทำต่อไป ส่วนสารคดีตนคงไม่ทำแน่