Entertainment

เอมมี่ มรกต เปิดความลับ เงินที่ทำงานมาทั้งชีวิตไม่เคยเก็บเอง ให้สามีเก็บทั้งหมด

นอกจากจะเป็นนักแสดงที่เพียบพร้อมไปทุกบทบาทแล้ว “เอมมี่-มรกต แสงทวีป” ยังเป็นคุณแม่ที่สมบูรณ์แบบอีกคนด้วย เมื่อได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show เจ้าตัวก็ได้เล่าให้ฟังถึงความตั้งใจที่จะมีลูกมาตั้งแต่เด็ก ๆ พร้อมกับเปิดความลับเคยเลิกกับ “พี่หนุ่ม” หรือ ไฮโซเจมส์-จิรายุทธ แสงทวีป” มาแล้ว เพราะความเห็นไม่ตรงกันเรื่องมีลูก แต่สุดท้ายก็กลับมารักกันจนแต่งงานและก็กว่าจะมีลูกได้นั้น เอมมี่ เผยว่าอยากมีลูกมากจนไปตะเวนไหว้พระขอลูก

8 เอมมี่ มรกต3

เงินทั้งชีวิตที่ เอมมี่ ทำงานมาไม่เคยเก็บเงินตัวเองเลยเพราะให้ พี่หนุ่ม สามีเก็บให้ทั้งหมด แต่ช่วงที่ผ่านมา กลายเป็นว่า เอมมี่ ที่เป็นคนซ่อนเงินไม่ให้ พี่หนุ่ม รู้ ?

เอมมี่ มรกต : ก็มีนิดหนึ่งค่ะ คือ จริง ๆ แล้ว มี่ เป็นคนไม่เก่งเลข แล้ว มี่ เป็นคนใช้เงินเก่งคือมีเท่าไหร่ก็ใช้ เราก็รู้สึกว่ามันก็สมเหตุสมผมนะคะ ที่การที่เราให้ พี่หนุ่ม ดูแลมานานแล้ว ได้มาเท่าไหร่ก็ให้ พี่หนุ่ม เขาดูแลไป อยู่กับเขามันเซฟอยู่แล้ว เพราะว่าเราไม่คิดว่าเขาจะเอาไปใช้หรือว่าอะไรอย่างนี้ค่ะ จนพอเราตั้งใจที่จะมีลูก พอหลังแต่งงานไม่นาน มี่ ก็คิดว่าเราต้องมีบัญชีให้ลูกอยากมีให้เขา เราก็เริ่มเก็บบ้าง ซึ่งเขาก็รู้ว่าเรามีบัญชีอันนี้ แต่เขาไม่รู้ว่าเราใส่ไปเท่าไหร่ คือ บางงานก็ไม่ได้เอ่ยบอกว่า มี่ ได้เท่าไหร่ แล้ว มี่ ก็เอาไปเก็บ ๆ

แล้วบังเอิญมันมีจังหวะหนึ่งที่ … เขาอยากได้รถคันหนึ่งมาก แล้ว มี่ กับ พี่หนุ่ม เราฐานะปานกลางมาอยู่แล้ว เราก็ไม่ได้มีเยอะ (เพราะว่าเราสู้มาด้วยกันเยอะแล้วค่ะ) อย่างเช่น เรื่องของเรื่องคือตอนที่เขาจะซื้อแหวนเพชรให้เรา ไหนจะเรื่องงานแต่งงาน ไหนจะซื้อที่สร้างบ้าน เพื่อเป็นเรือนหอ มี่ ก็รู้ว่าเขาใช้จ่ายเงินไปเยอะมาก แล้วก็อาจจะมีแบบ… (เขาอาจจะมีรถคันหนี่ง แล้วเขาก็เอาไปขายเพื่อที่จะเอาเงินนั้นมาซื้อแหวนให้เรา มันก็เป็นรถคันหนึ่งที่เขารักเหมือนกันค่ะ แล้วเราก็รู้มา และมันก็ติดอยู่ในใจของเรามาตลอด) แล้วไม่นานมานี้เขาบอกว่าเขาชอบรถคันนี้จังเลย เราก็ถามเขาว่าเท่าไหร่ เราก็บอกว่าเราพอมีเราซื้อรถคันนี้ให้เขาได้ไหม เพราะว่าตอนนั้น พี่หนุ่ม ขายรถที่ พี่หนุ่ม รักมาซื้อแหวนให้ มี่ ซึ่งเราก็คุยกับเขาตรง ๆ เลยค่ะ ว่าแล้วตอนนี้ มี่ มี มี่ ขอซื้อให้ได้ไหม เราก็เลยซื้อให้เขาแล้วเราก็รู้สึกว่าเราสบายใจแล้ว ปลดตรงนั้นไปว่าเขาเคยทำให้เรา

เห็นว่าเคยทะเลาะกับ พี่หนุ่ม จนเคยจะเลิกกันเพราะเรื่องที่ เอมมี่ อยากจะมีลูก ?

เอมมี่ มรกต : อันนั้นน่าจะเป็นปีที่ 7 ที่คบกันค่ะ (7 ปีอาถรรพ์เลยค่ะ) เหมือนเราคุยกัน เราก็บอกเลยว่าเราอยากมีลูก อยากแต่งงาน มีลูก (เพราะ เอมมี่ ห่างจากพี่หนุ่ม 13 ปีนะคะ) แต่ตอนที่เราทะเลาะกันคือ เรายังไม่ได้แต่งงานกันนะคะ เพราะ มี่ คุยกับเขาก่อนเลยว่า โอเค ถ้าเรามีแพลนที่จะแต่งงานกัน คือ ต้องมีลูกนะ ฉันจะแต่งงานกับผู้ชายที่จะมีลูกกับฉัน แล้วเขาก็แบบมันไม่ใช่เขา ซึ่งเขาก็ยืนหยัดหนักแน่นมากที่จะไม่มีลูก แต่เราก็ยืนหยัดมากที่จะมี แล้วด้วยความที่เป็นเขากับ มี่ ตอนนั้นหัวแข็งพอ ๆ กัน มี่ จำได้เลยว่าเราทะเลาะกัน มี่ เชิดใส่แล้ว มี่ ก็ไปเลย

เราเชิดใส่เพราะเราคิดว่าเราจะต้องใช้สิ่งนี้ต่อรองหรือเปล่า หรือว่าเราเชิดใส่จริง ๆ ?

เอมมี่ มรกต : เราเชิดใส่เพราะว่าเราจะต้องรีบไปหาคนที่จะทำให้ความใฝ่ฝันเของเราป็นความจริงได้ ถามว่าตอนนั้นเสียดายไหมที่เราคบกันมา 7 ปี ตอบได้เลยว่าตอนนั้นคือไม่ค่ะ เพราะว่าเขาไม่ยอมมีลูก แต่เราว่าเราอยากมีลูกมาตั้งแต่เด็กค่ะ 7 ปีมันไม่เท่าไหร่หรอกสำหรับเรา เพราะเราคิดว่าความสุขของเราคือการมีลูก แล้วเชื่อว่าคนที่ไม่มีลูก เขาก็แฮปปี้ในทางของเขา แต่สำหรับของ มี่ คือ อยากมีลูก มี่ ก็ไป เขาก็ปล่อย ตอนนั้นคือ เลิกจริงจังไปเลย 2 ปีค่ะ ที่แบบไม่ได้คบกันเป็นแฟน ตอนนั้นเราก็อกหักนะคะ ร้องไห้ 3 วันติดกันเลย ไม่ทำอะไรเลย ข้าวไม่ทานเลย จนเพื่อนต้องไปขุดเราออกมาจากเตียงเลยค่ะ  แต่หลังจากนั้นเราก็รู้สึกว่าไม่ได้แล้วเราต้องสวยเพื่อให้คนอื่นมาจีบ เผื่อเราจะได้สมหวังในการแต่งงาน แล้วเราก็จะได้สมหวังในการมีลูก ที่จำได้คือพอเพื่อนไปขุดเราออกมาคือเราก็ไปเที่ยวเลย แต่ก็พอเรามองย้อนกลับไปก็เป็นเรื่องที่ตลกมากเลยค่ะ เพราะจริง ๆ มันไม่จำเป็นต้องขนาดนั้นก็ได้

8 เอมมี่ มรกต1

แต่ตลอดระยะเวลาที่เลิกกันตรงนั้น เราไม่เคยเติมน้ำมันรถด้วยตัวเองเลย เพราะถึงไม่ได้เป็นแฟนกันเขาก็ส่งคนมาเติมน้ำมันรถให้เหรอ ?

เอมมี่ มรกต : ใช่ค่ะ เขาส่งคนมาดูแลเราตลอดเลย

และด้วยความที่อยากจะมีลูกมาก เอมมี่ ถึงกับไปตะเวนไหว้พระหลายที่เลย ?

เอมมี่ มรกต : ก็ไปมูชุดใหญ่ค่ะ ไกลสุดก็ไปที่อังกฤษค่ะ เพราะว่า มี่ เป็นเด็กวัดค่ะ มี เรียนภาษาไทยที่วัดใช่ไหมคะ (วัดพุทธประทีป ที่ประเทศอังกฤษ) ก็ไปขอหลวงพ่อดำที่ วัดพุทธประทีป ก็ไปขอที่นั่น แล้วก็ไปขอที่พม่า ที่ เชเวดากอง พี่มดดำ ก็บอกว่าไปขอจุดนี้ ๆ เราก็ไปที่นั่น และอีกที่คือ ครูบาศรีวิชัย ที่เชียงใหม่ ค่ะ เพราะตอนที่ มี่ ได้นางงามคือ มี่ ก็ไปเก็บตัวที่นั่น ที่ เชียงใหม่ ก็ไปขอสามที่นี่เลยได้ลูกมา เพราะก่อนหน้านี้เราก็พยายามทำหมดทุกอย่างทั้งตรวจเช็กในทางวิทยาศาสตร์ เราก็ได้ใช้ผสมน้องข้างนอกค่ะ แล้วก็ใส่น้องเข้าไปแต่ด้วยความที่อาจจะเป็นเพราะเราก็ต้องสู้หรืออะไรอย่างนี้ คือ วันที่น้องมา ตรวจแล้วมาก็ร้องไห้อีก คงเป็นเพราะว่าด้วยความที่เราอยากมีมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ แล้วพอได้มีแล้วพอไปตรวจแล้วบังเอิญว่ารกเกาะต่ำมาก แบบเขาเข้าไปแล้ว แต่เขาเกาะเหมือนโหนอยู่ค่ะ คุณหมอก็เลยสั่งให้พัก 2 สัปดาห์ นอนอย่างเดียวเลยค่ะ แบบติดเตียงเลยค่ะ พี่หนุ่ม เขาก็ดูแลเราดีมากจะเข้าห้องน้ำก็อุ้ม จะทานข้าวก็ป้อน คือดูแลเราดีมาก แต่พอหลังจากสองอาทิตย์เราก็ไปตรวจอีก คุณหมอ ก็บอกว่าติดแล้วทำตัวปกติได้เลย แต่ด้วยความที่เรากลัวว่าน้องจะหลุดอีกเราก็เลยไปอัลตร้าซาวด์ทุกอาทิตย์เลย (ปกติเขาไปสองอาทิตย์กัน) เพราะหมออยู่ทองหล่อ อยู่ใกล้บ้านเราก็ไปดูเขาตลอด

8 เอมมี่ มรกต2

เอมมี่ มรกต : แต่พออายุครรภ์เราได้ 35 สัปดาห์คุณหมอบอกว่าไม่ได้แล้ว ต้องผ่าแล้วดูเพราะว่าดูเหมือนว่าน้องเขาหัวใจหยุดเต้นไปแป๊ปหนึ่งค่ะ แล้วพอดีฤกษ์ที่ขอไปกับวันที่คุณหมอจะผ่าคือ วันเดียวกันพอดี แล้ว มี่ ด้วยความที่ไม่ได้คิดและเห็นคนเก็บสเต็มเซลล์กัน เราก็จะเก็บสเต็มเซลล์เพื่อเอามาทำหน้า คือ ตั้งใจติดต่อบริษัทเอาไว้หมดแล้ว พอวันผ่าออกมาเนี่ย บังเอิญว่ารกของลูกมันกรอบแห้งหมดเลยค่ะ คือ เลือดไม่ไปหล่อเลี้ยงเขามาประมาณ 2 วันแล้ว แล้วเขาก็สู้มาด้วยตัวเอง คือ หาอะไรมาดูแลตัวเองมาจนถึงวันที่ผ่าวันนั้นเลยค่ะ แต่วันนั้นตอนแรกเราก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมาก คนที่เราห่วงที่สุด คือ สามี เพราะว่ากลัวว่า พี่หนุ่ม เขาจะเป็นลม เห็นเลือด เห็นการผ่า แล้วคือ เราก็โดนบล็อกหลังไปเหมือนหน่วง ๆ เวลาคลอดลูกออกมาค่ะ แต่เราดูหน้า พี่หนุ่ม ตลอดเวลาว่า โอเคใช่ไหม เพราะเขากลัวเลือด เขาคงกลัวการคลอด การผ่าท้อง การอะไรอย่างนี้เขาคงกลัวไปหมด แล้วพอลูกออกมา พี่หนุ่ม เขาก็บอกว่าลูกออกมาแล้ว เราก็ถามว่าลูกครบใช่ไหม แล้วพี่หนุ่ม โอเคใช่ไหม แล้วพอพี่หนุ่ม บอกว่าโอเค มี่ เลยบอกคุณหมอว่า มี่ ขอหลับ แล้วก็หลับไปเลยค่ะ

จริงแล้วคือ ใจสู้ทั้งคุณแม่ และ คุณลูก เลย ?

เอมมี่ มรกต : คือ เขาสู้มาตั้งแต่วันแรกของเขาเลย จนถึงวันที่เขาผ่าออกมาเลย คือ เขาสู้มาก และเขาก็คลอดก่อนกำหนดและเขาก็ต้องเข้า NICU อยู่สองสัปดาห์ค่ะ แล้วเราก็กลับบ้านไปแล้วก็ต้องมาหาลูกทุกวัน

ความใฝ่ฝันของเราที่อยากมีลูกมาตลอดชีวิตวันที่อุ้มเขาเป็นอย่างไรบ้าง ?

เอมมี่ มรกต : ก็ร้องไห้แต่ก็มันคงไม่ได้ทันคิด แต่ก็คือมันอินมาก ๆ จนถึงวันนี้ ก็ยังอินในความเป็นแม่มาก ๆ เลยค่ะ ตอนที่กอดลูกครั้งแรก มี่ ว่ามันก็คงทำให้เราเหมือนแบบความรักเปี่ยมล้นจนถึงทุกวันนี้ก็ยังคงรู้สึกว่าเรายังอินกับเขามาก ๆ อยู่เลยค่ะ

สามารถชมคลิปย้อนหลังได้ทางช่องยูทูบ CHANGE2561

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo