จากกรณีนักแสดงสาวชื่อดัง “สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข” ยื่นฟ้อง นายวรพันธ์ อุดมพงษ์ ครูสอนว่ายน้ำ เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา พร้อมเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 5 ล้านบาท และค่าเสียหายรายเดือน เดือนละ 1 แสนบาท จนกว่าจะแก้ไขชื่อเสียงให้กลับคืน หลังถูกโพสต์ข้อความใส่ร้ายธุรกิจขายอุปกรณ์ดำน้ำในทำนองว่าอยู่ในสภาพชำรุดซื้อมาแล้วมีปัญหา ซึ่งสร้างความเสียหายต่อธุรกิจนับ 10 ล้านบาท แม้จะได้ทำการลบออกไปแล้วก็ตาม แต่ก็ได้สร้างความเข้าใจผิดต่อผู้อื่นและกระทบต่อธุรกิจไปแล้ว โดยเจ้าตัวยืนยันว่าจะไม่มีการเจรจา เพราะต้องการให้เรื่องจบที่ชั้นศาล
ล่าสุด (7 มิ.ย.) สายป่าน อภิญญา พร้อม ทนายเกรียงชัย วิศิษฎ์สรอรรถ ได้เดินทางไปที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อทำการไต่สวนมูลฟ้อง หลังจากเลื่อนมาแล้วหนึ่งครั้งเนื่องจากสถานการณ์โควิด
โดยทาง ทนายเกรียงชัย เปิดใจกับสื่อมวลชนก่อนเข้าเข้าห้องพิจารณาคดี ระบุว่า ยังไม่ได้มีการคุยกับคู่กรณี วันที่ศาลนัดไกล่เกลี่ยอีกฝ่ายก็ไม่มา ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งมาว่าทางนั้นขอติดต่อคุยทางโทรศัพท์ แต่เจ้าหน้าที่ศาลติดต่อไป ก็ติดต่อไม่ได้ เลยส่งเรื่องกลับเข้าสู่บัลลังก์ เพื่อที่จะไต่สวนมูลฟ้อง
ทนายเกรียงชัย เผยต่อว่า จริง ๆ มันก็เป็นเรื่องของการแสดงความจริงใจ ว่าเขาพร้อมจะรับผิดชอบหรือเปล่า ซึ่งอันนี้เราก็ยังไม่เห็น เดี๋ยวก็รอดูในศาลวันนี้ อยู่ที่ความเมตตาของศาลด้วยว่ายังไง แต่ทางเราก็เต็มที่ในเรื่องของเอกสารพยานหลักฐานที่มีการยกเลิกจากลูกค้าจำนวนมาก อย่างก่อนหน้านี้ช่วงโควิดก็ยังขายได้อยู่ จนกระทั่งมาเกิดเรื่องตรงนี้ ซึ่งปัจจุบันผลประกอบการ ถ้าเทียบจากเมื่อก่อนก็ยังถือว่าแตกต่างกันมาก รายได้ยังคงลดอยู่
ยืนยันรับคำขอโทษเป็นเงิน เพราะว่าได้รับความเสียหายค่อนข้างหนัก ถ้าเขาแสดงความจริงใจ แล้วก็รับผิดชอบในส่วนของค่าเสียหายที่มันสมเหตุสมผล ก็อาจจะจบในวันนี้ได้ ส่วนจะมีการลดหย่อนเรื่องเงินไหม อันนี้ก็ต้องลองคุยดู
ทางด้าน สายป่าน ก็เผยว่า ถ้าได้เจอคู่กรณีก็คงไม่คุย เพราะเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เหมือนเราเจอคนแปลกหน้า ก็ดำเนินการตามกฎหมายเลย อยากให้เคสนี้เป็นตัวอย่าง อยากให้รู้ว้าเราเป็นคนของประชาชนก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถมาคอมเมนต์ หรือว่าโจมตีเราได้จากทางโซเชียลมีเดีย อยากให้ใช้โซเชียลแบบมีมารยาท เพราะว่าพวกเราก็คงไม่ได้อยู่เฉย ๆ
ตนทำธุรกิจนี้คนเดียว แต่ในบริษัทก็มีลูกจ้างอีกหลายท่าน แล้วก็มีในส่วนงานแผนกอื่น ๆ ด้วย แม้จะได้รับผลกระทบ เพราะยังไม่สามารถทำให้ลูกค้ากลับมาเชื่อใจได้เหมือนเดิม แต่ไม่คิดปิดกิจการ ยังอยากทำต่อให้ดีที่สุด ตอนนี้ก็ต้องเอาชื่อเสียงกลับคืนมาก่อน
คำขอโทษ ณ ตอนนี้ น่าจะไม่ทันแล้วมั้ง เพราะถ้ามันจะเกิดขึ้น มันควรเกิดขึ้นตั้งแต่ในช่วงแรกแล้ว เราก็คิดว่าเขาก็ตัดสินใจแล้ว ว่าเขาจะเลือกวิธีไหน ไม่ได้วางแผนไว้ว่าจะเอาเงินไปทำอะไร แต่ก็ต้องมีไปทำบุญอยู่แล้ว จาก 5 ล้าน ลดให้ได้มากแค่ไหน ก็ต้องให้ทางทนายช่วยดู อย่างที่บอกว่าความเสียหายมันเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องดูด้วยว่าตัวเขาโอเคที่ประมาณไหน แล้วเราโอเคด้วยหรือเปล่า
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- อดีตนางแบบดัง ผันตัวเป็นแม่ค้าสู้โควิด ขายข้าวต้มข้างทาง แจงดราม่า ยันไม่เคยฟุ่มเฟือย
- หยาดทิพย์ เฉลยเพศลูกคนแรก แจงชัด ๆ ทุกข้อสงสัย ท้องเล็ก ห่วงสวยไม่ห่วงลูก
- อุ้ม ลักขณา ถาม นิวเคลียร์ มีไรอยากบอกพี่สาวบ้าง ด้านคุณแม่ก็ขอถามด้วย
