จากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมเสวนาในคลับเฮาส์ โดยตอนหนึ่ง ได้พูดพาดพิงถึง “พิมรี่พาย” แม่ค้าออนไลน์และยูทูบเบอร์ชื่อดัง ปมสร้างโรงพยาบาลสนามที่เรือนจำแต่ละแห่ง โดยบอกว่าหากแพงก็ไปขอให้พิมรี่พายมาตั้งให้ ก่อนที่ พิมรี่พาย จะออกมาตอบโต้ว่า อย่าลากตนเข้าไปเกี่ยวข้อง ยังอยากขายของ อยากทำบุญต่อ ไม่อยากไปตายต่างประเทศ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ซึ่งต่อมา พิมรี่พาย ออกมาไลฟ์อีกครั้งว่า หลังจากถูกอดีตนายกฯ พูดถึง ของที่ตนเตรียมนำไปบริจาคก็ถูกหน่วยงานตีกลับ
เกี่ยวกับประเด็นนี้ ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ได้ออกมาออกมาแสดงความคิดเห็นว่า “เห็นว่าเป็นกระแสเลยแวะเข้าไปส่องในทวิต เห็นหลายคลิปอยู่ถึงขั้นตกตะลึงในความมั่นหน้าของนาง กับความบ้งแบบจ้าง PR บริษัทไหนมากู้ Crisis นี้จะกู่กลับ
คือทั่วไปไม่ได้อะไรกับนาง ไม่ชอบสไตล์การนำเสนอตัวเองแบบหยาบคายนำ เพราะไม่ได้คิดว่าคนพูดจาโผงผางจะจริงใจมากกว่าคนพูดเพราะไปสักเท่าไร แล้วตอนคลิป CSR นั่น ก็ปลอมมาก พรพ บิ๊วเสียจนอยากชวนสำนักนายกฯ มาดูงาน ว่าคนปากเ-ียอย่างลุงตู่ก็ดูดีได้ด้วยโปรดัคชั่นราคาไม่แพง
นางเคยมาโวยวายก่อนหน้านี้แล้วว่าอย่าเอานางไปเป็นเครื่องมือทางการเมือง แต่หะโหลววว การที่นางเดินเกมสร้างภาพเรื่องการทำบุญของนางเหนือกว่าประสิทธิภาพของหน่วยงานรัฐ ในเวลาที่รัฐมีแต่ผลงานห่วย ๆ นี่โคตรจะการเมืองเลยนะ แล้วนางก็เดินเกมนี้มาตลอด จนลุงโทนี่เอาไปแซวแล้วก็ออกมาโวยวายเกรี้ยวกราด ฟาดไม่รู้— จนพังเละเทะ
เธอใช้ความบกพร่องทางการเมืองหาผลประโยชน์สร้างชื่อให้ตัวเอง เธอใช้คนจนสร้างภาพความบุญให้เธอ กำรี้กำไรที่ว่าเอาไปทำบุญไม่รู้ว่าหักภาษีไปได้เท่าไหร่ แต่ก็ได้กำไรหลายต่อจากโฆษณาชวนเชื่อที่ออกมา เกมนี้คนวงการรู้กันดีมันไม่ได้ใหม่อะไร แต่เธอไปเชื่อว่ามันจริงไปหมดจนสุดท้ายกลายเป็นแหกตัวเอง
‘เดี๋ยวคลิปทำดีอันใหม่ออกมามึงก็หายโกรธ’
นี่รอดูคลิปใหม่อย่างใจจดจ่อเลยเนี่ย แต่ไม่ได้โกรธอะไรนางนะเพราะไม่ได้คาดหวัง นี่ก็จะเป็นตัวอย่างของคนเราพอรวยแล้ว ก็ควรจะหาอะไรใส่สมองเปิดหูเปิดตาบ้างว่าเรารวยได้เพราะอะไร การที่เราเคยจนมาก่อนคงไม่ชอบมั้ง ที่จะมีคนเอาความยากแค้นของเราเป็นเครื่องมือเชิดชูคุณธรรมของตัวเอง”
“คือมันก็มีคนที่ทำลำบากอยู่กับปัญหาพื้นฐานเหล่านี้อยู่นะ พวกเราเคยเห็นครูดอย ที่ต้องอยู่กับเด็ก ๆ ที่นางไปบริจาคไหม พวกเขาได้เงินเดือนเท่าไหร่ ต้องดูแลเด็กพวกนั้นยังไงแล้วทำทุกวัน และอีกหลายคนที่ทำความดีอยู่โดยไม่มีกล้องไปจับ และไม่ได้ลดหย่อนภาษี
เจตนาของ พรพ คืออะไรไม่รู้ ขออนุญาติเป็นกะเทยที่ไม่ฉลาด แต่ที่รู้คือมีคนทำความดีบนโลกนี้และต้องทนทุกข์ทรมานอยู่จริง ๆ การที่นางจะเลิกทำมันก็ไม่ได้แปลว่าโลกจะแตกสลาย สังคมจะย่ำแย่ลงกว่าเดิม
สังคมทุเรศทุรังอยู่ทุกวันนี้เพราะคนจำนวนมากยึดติดกับคำว่า ‘ทำความดี’ ‘อยู่เหนือการเมือง’ กันจนสถาปนาตัวบุคคลอันแตะต้องไม่ได้แล้วกลายเป็นเตลิดเปิดเปิง
อวยกันไม่ลืมหูลืมตาจนลืมประเด็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการขาดพลัง ในการต่อรองของประชาชนเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น จากภาครัฐที่เก็บภาษีเราอยู่ ซึ่งเราต้องยอมรับความจริงว่า น้ำที่เรากิน อากาศที่เราหายใจ บุญที่เราทำ มันคือการเมืองทั้งนั้นแหละครับ
สิ่งที่นางทำบางเรื่องก็อนุโมทนา แต่การยืนยันว่าไม่การเมือง มันดูฟอกขาวให้ตัวเองไปนิดนึง เมื่อคุณเล่นกับประเด็นทางสังคมถ้าไม่ระวังมันก็จะเข้าตัวแบบนี้ล่ะครับ
จบ”
ที่มา Chookiat Sakveerakul
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘พิมรี่พาย’ ฟาดอีกรอบ! ลั่นที่ ‘ทักษิณ’ พูดถึงไม่ได้แค่ชม แต่หวังแซะรัฐบาล
- เปิดประวัติ ‘พิมรี่พาย’ แม่ค้าออนไลน์สุดแซ่บ เน็ตไอดอลรุ่นใหม่มีหัวใจแห่งการให้
- พิมรี่พาย ลั่นประโยคสุดอึ้ง ‘เดี๋ยวปล่อยคลิปความดีก็หายโกรธ’