จากกรณีที่อดีตนักร้องสาวขวัญใจวัยรุ่น มีล่า-จามีล่า พันธ์พินิจ หรือ มีล่า Kamikaze ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวสุดช็อก ถูกน้องชายแท้ ๆ ทำร้ายร่างกาย แต่ในตอนนั้นทางครอบครัวและคนรอบข้างได้แนะนำเธอว่า ไม่ควรบอกเรื่องนี้กับใคร เพราะเป็นเรื่องภายในครอบครัว คนภายนอกจะมองเธอในแง่ลบได้ จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ มีล่า มีอาการ PTSD ใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวง เธอเลยต้องออกมาพูดเพื่อความยุติธรรม
ล่าสุด (14 เม.ย.) มีล่า จามีล่า ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “บรรจงชงข่าว” ทางช่องเวิร์คพ้อยท์ ทีวี เปิดใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า “มีล่ารู้สึกว่าอดทนมานาน ผ่านมา 2 ปีที่เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ บอกได้แค่เพื่อนสนิทไม่กี่คน การที่มีล่าได้พูดออกมา มีล่ารู้สึกดีขึ้นมาก ๆ ที่มีคนได้รับรู้เรื่องนี้ และมีคนให้กำลังใจมีล่าเยอะขนาดนี้ รู้สึกดีขึ้นจากที่ผ่านมามาก ๆ บางคนอาจจะมองว่าผ่านมา 2 ปีแล้ว ทำไมเพิ่งออกมาโพสต์ แต่ที่ผ่านมามีล่าอึดอัดมาก ต้องทนอยู่กับเรื่องมานานมากพอแล้ว”
“ส่วนกระแสต่อว่าครอบครัวของมีล่า มีล่าเข้าใจ แต่ขออย่าให้ใช้คำหยาบ หรือด่าแม่มีล่าแรง ๆ เพราะมีล่ารู้สึกว่า ที่โตมาได้ทุกวันนี้ก็เพราะแม่ เขาดูแลมีล่ามาโดยตลอด แต่พอมันเกิดเรื่องนี้ มีล่าไม่ได้มีเจตนาที่จะว่าแม่ หรือให้คนอื่นมาว่าแม่เรา มีล่าเข้าใจทุกคนที่ตกใจเรื่องที่มีล่าแชร์ออกไป เพราะเรื่องมันไม่ธรรมดา แต่อยากให้ทุกคนเห็นใจ มีล่าเป็นคนออกมาพูดเอง อาจไม่ได้บอกว่านี่คือคนถูกหรือว่าใครเป็นคนผิด อยากให้ดูที่ความจริงและความผิดของเรื่องนี้มันคืออะไร ไม่ใช่ให้มาแบ่งฝั่งกัน”
“ถ้าจะให้เล่าปัญหาของน้องชาย คือน้องมีปัญหาตั้งแต่เด็กแล้ว มีหลายสาเหตุที่เราเดาได้ว่าเป็นเพราะอะไร ทำลายข้าวของ อาละวาด ตัวใหญ่ที่สุด เป็นผู้ชายคนเดียวในบ้าน แรงเยอะที่สุด เคยผลักแม่ล้ม เราก็เคยบอกกับคุณแม่แล้วว่ามันไม่ใช่แล้วนะ มันไม่ไหวแล้วนะ คือมันไม่โอเค แม่ต้องทำอะไรสักอย่าง อยู่ร่วมกันไม่ได้แล้ว”
“เรื่องยาเสพติดมีล่าไม่ได้เห็นกับตาว่าเขาเสพไหม แต่ทราบมาจากที่แม่และพี่สาวคุยกันว่า เขาคบเพื่อนไม่ดี มียาเสพติด เขาดื่มแอลกอฮอล์ลเยอะ อย่างที่บอกว่าเรื่องนี้มีเป็นปัญหามานานแล้ว มีล่าบอกกับแม่และพี่สาวมก่อนจะเกิดเหตุการณ์นี้เป็นปีแล้วว่า มีล่าจะไม่ยุ่งเรื่องการเลี้ยงดูน้องแล้ว เพราะพูดไปก็ไม่มีใครฟัง แต่อยากให้ดูแลกันดี ๆ หน่อย เพราะทำแบบนี้มันอันตราย จนเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น มีล่าไม่ไหวแล้วที่ต้องรู้ว่าเขายังใช้ชีวิตปกติอยู่ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ชีวิตของมีล่าต้องเปลี่ยนไป”
“เรื่องดำเนินคดี คืนนั้นตอนที่รถพยาบาลมามีตำรวจมา แต่พอตื่นมาที่โรงพยาบาล ถามว่าแจ้งความหรือยัง ทางครอบครัวก็บอกว่าแน่ใจเหรอ อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ อยากขึ้นศาลจริง ๆ เหรอ มันไม่ใช่เรื่องดีนะ แต่ครอบครัวก็สัญญาว่าจะจัดการเรื่องนี้ บอกเราไม่ต้องห่วง บอกให้ไปใช้ชีวิตของเราเอง ไม่ต้องมายุ่ง แต่คนที่ถูกทำแบบนี้จะอยู่อย่างไร ถ้าไม่ทราบว่าผู้ที่ทำร้ายเราอยู่ที่ไหน หรือทำอะไรอยู่ มันคือความอึดอัดที่มี”
“ตอนนี้ก็คิดว่าจะดำเนินคดี เพราะการที่เราออกมาเปิดเผย คือทางสุดท้ายของมีล่าแล้ว เพราะไม่รู้จะทำยังไงต่อกับชีวิตตัวเอง การอยู่กับเรื่องนี้ไปเรื่อย ๆ รู้สึกว่า ขนาดคนที่เลี้ยงเรามาตั้งแต่เกิด แต่ทำไมเขาไม่ช่วยอะไรเราเลย ที่ผ่านมามีล่าไม่มีความมั่นใจจริง ๆ ว่าจะเอาผิด หรือขึ้นศาลได้ไหม ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะทำได้ขนาดนั้น แต่พอตัวเองได้ออกมาเล่าเรื่องนี้ มีคนให้กำลังใจ มีคนบอกเอาเรื่องได้นะ เราก็เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น อยากให้เรื่องนี้จบสักที”
“เหตุผลที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ไม่ใช่ว่าอยู่ดี ๆ อยากออกมาเปิดเผย อย่างที่บอกมีล่าถามแม่ตลอดว่า น้องทำอะไร อยู่ที่ไหน แต่ไม่เคยได้คำตอบอะไรกลับมา เดือนที่แล้วก็ถาม และมีการทะเลาะกัน มีล่าก็ถามว่าแม่ไม่เห็นเลยเหรอว่าหนูไม่โอเคมาก ๆ สุขภาพจิตมันแย่ลงเรื่อย ๆ ทำไมแม่ไม่บอกความจริง”
“ถ้าแม่สนับสนุนหนูและเข้าข้างหนู อยากจะทำให้หนูเชื่อใจ แค่คำพูดมันอาจจะยาก เพราะหนูเชื่อมาหลายปีมาก จนเหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้น มีล่าว่ามีล่าต้องสู้แล้ว ปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว เรื่องแจ้งความกำลังคุยกับแฟน ขอคำแนะนำจากเพื่อน ๆ อยู่ เพราะมีล่าไม่ทราบกฎหมายประเทศไทยเยอะ”
“ผ่านไป 2 ปีทางร่างกายแผลก็ดีขึ้น คุณหมอรักษาดีมาก ได้ไปหาจิตแพทย์ พูดได้ว่าดีขึ้นจริง ๆ แต่มันยังมีข้อหนึ่งที่ติดอยู่ว่าเขาอยู่ไหน เขาทำอะไร ในความเป็นจริง ถ้าเขาจะกลับมาทำร้ายมีล่าที่คอนโดมันมีความเป็นไปได้ แต่การที่เรารู้สึกกลัว มันเป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้ว”
“อย่างที่มีล่าพูดไปแล้วว่ามันไม่ได้มีฝ่ายใดทั้งสิ้นในเรื่องนี้ มันมีแค่ที่เราโฟกัสกัน มีล่าพยายามเล่าเรื่องให้เหมือนความจริงที่สุดเท่าที่มีล่าจำได้ พยายามพูดความจริง ไม่ได้อยากแต่งเรื่องแต่อย่างใด มีล่าเสียใจมากเวลาที่คนมาบอกว่าเรื่องจริงหรือเปล่า มันจริงมาก สำหรับมีล่ามันจริงกว่าฝันร้าย กว่าหนังผีทุกเรื่อง (ร้องไห้)”
“ที่ผ่านมามีล่าไม่คิดเลยว่าจะพูดเรื่องนี้ เพราะเขาบอกว่ามันเป็นเรื่องน่าอาย มีล่าก็อายนะ เวลามีคนทักแผลที่แขน มีล่าก็ไม่อยากบอกความจริงว่ามันคืออะไร มีล่าก็อายเหมือนกัน แค่คนรอบข้างบอกว่ามันเป็นเรื่องน่าอาย อย่าไปบอกใคร เป็นใคร ใครจะกล้าบอก มีล่าก็ไม่กล้าบอก เก็บเงียบไว้คนเดียว บอกว่าเกิดอุบัติเหตุ”
“ถ้าจูเนียร์ดูอยู่ สิ่งที่ยูทำมันแย่มากก็จริง แต่มันไม่ได้แปลว่ายูต้องใช้ชีวิตหลบซ่อนแบบนี้ ถ้าอยากเป็นคนปกติ หรืออยากอยู่ในสังคมเหมือนเดิม มันต้องยอมรับผิดที่ตัวเองทำ ไม่ใช่ใช้ชีวิตที่ผ่านมาแบบไม่สนใจปัญหา ไม่กินยา แล้วใช้ยาอื่นเป็นยา มันไม่ได้เวิร์คเลย อย่างที่เห็น มันทำให้บ้านเราพัง บ้านเราแตก รู้ว่าแม่ไม่สบายใจมากตอนนี้ รู้ว่าเจนนี่ (พี่สาว) ไม่โอเค แต่มีล่าไม่โอเคมานานแล้ว จูเนียร์ก็คงไม่โอเคเหมือนกัน ถ้าอยากให้เรื่องมันจบก็ออกมายอมรับ ทำตามความถูกต้องเถอะ”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- พรีน เดอะสตาร์ โดนถล่มยับ! หลังโพสต์ปม มีล่า ถูกทำร้าย บอกอย่าฟังด้านเดียว
- นี่สิเพื่อนแท้ หวาย อยู่ข้าง ๆ มีล่า กามิกาเซ่ รู้ความจริงมาตลอด ถูกน้องแท้ ๆ แทงปางตาย
- มิล่า แจงปมอุบัติเหตุ แอดมิทรพ. เมื่อ 2 ปีก่อน แท้จริงถูกคนใกล้ตัวทำร้ายร่างกาย
