Entertainment

ออม สุชาร์ โดนถล่มดราม่าคู่จิ้น จนป่วยเป็น Panic Disorder – แย้มแพลนวิวาห์แฟนหนุ่ม

เรียกว่าเป็นนักแสดงสาวที่คร่ำหวอดในวงการบันเทิงมานานกว่า 15 ปี สำหรับสาว “ออม-สุชาร์ มานะยิ่ง” ล่าสุด มาเปิดประสบการณ์การโกอินเตอร์เล่นละครที่เมืองจีน และเส้นทางความรักกับแฟนหนุ่มนอกวงการ “แอมป์-พิธาน องค์โฆษิต” ที่คบหากันมานานกว่า 4 ปีแล้ว พร้อมสาเหตุที่ยังไม่คิดแต่งงาน ในรายการ “คุยแซ่บSHOW” ที่มี ซินแส เป็นหนึ่ง และ พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพ็ชร เป็นพิธีกร

7 ออม สุชาร์ 12

ไปแสดงซีรีส์ที่จีนได้อย่างไร ?

ออม : ต้องย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อน เราเล่นหนังเป็นเรื่องความรักหญิงรักหญิง ซึ่งโดนใจตลาดเอเชีย เลยมีเอเจนซี่และค่ายหนัง ค่ายละคร ติดต่อมาเรื่อย ๆ ที่ผ่านมาก็เล่นทั้งหนังและซีรีส์ด้วย ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดว่าเราจะดังตั้งแต่แรก เพราะไม่เคยมีความฝันว่าจะต้องเป็นดารา พอมาถึงจุดที่ได้ไปทำงานที่ต่างประเทศ มีคนมารอรับที่สนามบิน 500-600 คน มันรู้สึกเหมือนฝัน

ทำงานที่จีนกับที่ไทยแตกต่างกันมากไหม ?

ออม : แตกต่างเรื่องภาษา เพราะเราไปที่โน่นก็ต้องพูดภาษาจีน แล้วเราพูดไม่เป็นเพราะเราไม่เคยเรียน แต่ไปบ่อยจนพูดได้ จนฟังได้ และเราเป็นคนที่คิดว่าไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ คือเราต้องพยายามก่อน ถามว่าท้อไหม ก็จะแอบท้อเพราะได้พักผ่อนน้อยมากกว่า นอนน้อยมาก เวลาถ่ายงานจะถ่ายม้วนเดียวคือถ่ายติดกัน 45 วัน โดยไม่มีวันหยุด วันหนึ่งได้พักผ่อนแค่ 3 ชั่วโมง มันทำให้รู้สึกว่าเวลาทำการบ้านมันน้อย ช่วงนั้นก็จะโทรมมาก แต่ด้วยการถ่ายทำ แสง กล้อง มันก็ช่วยเราเยอะ

7 ออม สุชาร์ 11

ก่อนหน้านี้เคยโดนดราม่ากับคู่จิ้น ?

ออม : คือเวลาเราทำงานกับใคร หรือมีเพื่อนออมจะเป็นคนให้ความจริงใจกับเขามาก ก็เหมือนเป็นเพื่อนคนหนึ่ง เวลาเขามีปัญหาอะไรเขาก็จะปรึกษาเรา เราก็รับฟัง มันมีช่วงหนึ่งที่เพื่อนโดนดราม่า แล้วเราก็คอยซัพพอร์ตเขา เราก็เลยโดนไปด้วย มันมีเหตุการณ์หนึ่งที่เราไปงานบวชเขา เราก็โดนด่าซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงโดนด่า คือสมัยก่อนมันดราม่าเรื่องจุกจิก เราก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เลยมีช่วงหนึ่งที่ท้อมาก ๆ ตอนโดนดราม่ามันหนักมาก มันหยาบคาย และลามไปถึงพ่อแม่ เราเหมือนเป็นที่ระบายอารมณ์โดยที่เราไม่ได้ทำอะไรเลย ตอนนี้ทุกคนก็รู้กันอยู่แล้ว แต่อาจเพราะเป็นคู่จิ้นกัน ก็เลยมีแฟนคลับกลุ่มหนึ่งสนับสนุน และอยากให้คู่กัน

แล้วเหตุการณ์วันนั้นเราเสียใจขนาดไหน ?

ออม : ถ้าเป็นวันนี้เราอาจจะไม่รู้สึกเท่าวันนั้น เพราะตอนนี้เรามีภูมิต้านทานมากขึ้นกับสังคมโซเชียล แต่ตอนนั้นเราเด็กและอ่อนแอมาก และเราก็รู้สึกว่าเราเป็นแพนิค (Panic Disorder) เพราะเรื่องนั้นด้วย คือตอนนี้ก็มีอาการป่วย ๆ นิดหนึ่ง เป็น Panic Disorder หรือโรคหวาดระแวง จนไม่ค่อยอยากออกไปไหน ถ้าไปรายการสดก็จะรู้สึกนิดหนึ่ง ซึ่งมันจะเป็นอัตโนมัติของร่างกาย ซึ่งคุณหมอบอกว่าเกิดได้จากหลายอย่าง โซเชียลบูลลี่ก็หนึ่ง รวมถึงการใช้ชีวิตด้วยเพราะเราเป็นคนที่เวลาทำงานต้องดีที่สุด ต้องเป๊ะ คุณหมอก็เลยบอกว่านี่แหละ ต้องแก้ตรงนี้ ตอนนี้ยังแก้ไม่ได้ก็กินยาเอา คือโรคนี้ไม่ร้ายแรงเท่าซึมเศร้า เพราะโรคซึมเศร้าจะอยากตายในบางอารมณ์ แต่แพนิค จะกลัวตายมาก ๆ จะระแวงไปหมด การที่จะต้องไปพบแพทย์สำหรับออมมันไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะที่ต่างประเทศ ดาราทุกคนต่างมีจิตแพทย์ประจำตัว เพราะเวลาที่เรามีงาน มันเหมือนเราต้องอยู่กับอารมณ์ที่ขึ้นลงตลอดเวลา ซึ่งไม่มีอาชีพไหนที่อยู่กับอารมณ์ 18 ชั่วโมงตลอดเวลา แต่นักแสดงต้องอยู่กับร่างกาย สมองและอารมณ์ตลอด 18 ชั่วโมง ตอนนี้ก็อาการดีขึ้นแล้ว

7 ออม สุชาร์ 10

เป็นเพราะแฟนด้วยหรือเปล่าที่ทำให้ผ่านจุดนี้ไปได้ ?

ออม : คิดว่าอย่างนั้นด้วย ตอนนี้ก็คบกันมาจะ 4 ปีแล้ว

ออมไม่เคยรู้ว่าตัวเองป่วย แต่คนที่รู้คือแอมป์ ?

ออม : (พยักหน้า) คือ ออมรู้ตัวนะ แต่ออมหาคำตอบไม่ได้ว่าเป็นอะไร คือ รู้ทีเราก็ไปโรงพยาบาลที รู้ทีก็แอดมิดที ตอนนั้นคุณหมอก็ไม่รู้ว่าเราเป็นอะไร เราก็บอกคุณหมอว่าเรารู้สึกหายใจไม่ออก ตอนนี้ขอออกซิเจน ซึ่งพี่แอมป์ก็ไปศึกษา แล้วก็มาถามคุณหมอว่าเป็นอันนี้หรือเปล่า แล้วก็ใช่จริง ๆ คือเขาคงสงสารเรา เพราะมีช่วงหนึ่งที่เรารู้สึกเหมือนเราจะตาย มีช่วงหนึ่งที่เราไปทำประกันชีวิตเยอะมาก เพราะไม่รู้ว่าป่วยเป็นอะไร มีทั้งใจสั่น เหงื่อแตก คือระบบอัตโนมัติทำงานผิดปกติ อย่างเช่น คือ ยังไม่เคลื่อนไหวก็เหนื่อยแล้ว เขาก็ห่วงเราก็เลยไปหาความรู้ ตอนที่พี่แอมป์บอกเราก็แปลกใจว่ามันเป็นอาการทางจิตเวชเหรอ แต่เราก็รับได้นะ เพราะมันก็ยังดีกว่าการที่เราเป็นโรคหัวใจ หรือเป็นโรคที่รักษายาก

แล้วทั้งคู่เจอกันได้อย่างไร ?

ออม : คือเราไปงานอีเว้นท์หนึ่งแล้วเห็นเขานั่งอยู่ตรงกันข้าม เขาเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของเรา แล้วหลังจากนั้นก็มีรุ่นพี่แนะนำว่าพี่แอมป์อยากจะลองศึกษาเราดู แล้วช่วงนั้นเราโสดพอดี เพื่อนก็บอกว่าอย่าปิดตัวเอง เราก็เลยลองศึกษาดู ถามว่าเขาใช้สเป็กไหม คือออมเป็นคนไม่มีเสป็กว่าต้องสูง ต้องขาว แต่เขาเป็นคนยิ้มน่ารัก ตอนที่ออมป่วยเขาก็ดูแลเราตลอด

7 ออม สุชาร์ 2

เขาว่ากันว่าแอมป์เป็นคนที่เนี๊ยบมาก ?

ออม : เนี๊ยบ พี่แอมป์ไม่ใช่ใครจะอยู่ด้วยได้ง่าย ๆ ออมพูดได้เลย ว่าต้องมีความอดทน อย่างเช่นช่วงที่ติ๊กตอกฮิต ๆ เราก็อยากถ่ายติ๊กตอกกับแฟนบ้าง แต่เงื่อนไขเขามันเยอะ คือเราต้องให้เขาเช็คก่อนว่าแบบนี้โอเค แบบนี้ไม่โอเค หรือถ่ายไปแล้ว คือไม่ได้โอเคให้โพสต์ แต่โอเคให้ถ่าย

ปีนี้มีถ่ายละคร 7 เรื่อง แบ่งเวลาให้แฟนอย่างไร ?

ออม : เขาจะมารับกลับบ้าน คือถ้าบางวันเขาว่างเขาก็จะมาที่กองไปส่งที่บ้าน ก็จะมีเวลาที่อยู่ด้วยกันบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่เขาจะว่างแค่เสาร์ – อาทิตย์ ซึ่งออมก็จะถ่าย แต่ถ้าวันไหนเลิกเร็วก็จะได้กินข้าวกันบ้าง ออมมองว่าความรักคือการประคับประคอง และทำให้เราไม่ทะเลาะกัน มันก็จะทำให้เราไปต่อกันได้ อะไรที่จะเป็นสิ่งที่จุดชนวนให้เราทะเลาะกัน ออมก็จะข้าม ๆ มันไป และที่สำคัญคือเราเป็นคนลืมง่าย เป็นคนขี้ลืม อย่างทะเลาะกันเมื่อวาน วันนี้เราก็จะลืมละ ถามว่าเขาขี้งอนไหม เขาขี้งอนนะ แต่เราก็จะงอนที่เขางอน (หัวเราะ) สมมุติออมไปเลี้ยงปิดกล้องแล้วบอกเขาว่าจะกลับเที่ยงคืน แต่เรากลับตีหนึ่ง เขาก็จะงอน

7 ออม สุชาร์ 3

คบกันมา 4 ปีเริ่มคิดเรื่องแต่งงานหรือยัง ?

ออม : มันมีไทม์มิ่งที่คิดและไม่คิด ที่ไม่คิดเพราะเราไม่อยากกดดันเขา เพราะถ้าเราคิดแล้วถามเขาบ่อย ๆ สำหรับเรามันไม่ใช่ชีวิตของเราคนเดียว แต่เป็นชีวิตของเขาด้วย เพราะเรารู้สึกว่าเราให้เกียรติที่เขาจะตัดสินใจชีวิตของเขาแบบไหนก็ได้ จะแต่งหรือไม่แต่ง หรือจะเลิกมันก็คือชีวิตของเขา ถามว่าออมอยากแต่งงานไหม ก็อยากแต่งกับใครคนหนึ่ง อยากมีลูก แต่คิดไม่ออกว่าจะแต่งเมื่อไหร่ ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงคิดว่าน่าจะเป็นอายุสัก 35 ซึ่งตอนนี้อายุ 33 แล้วและไม่ได้คิดแบบนั้นแล้ว

เคยได้นั่งคุยกันเรื่องนี้ไหม ?

ออม : ไม่เคยนั่งคุยเลย มันไม่ใช่ความไม่กล้า ออมแค่รู้สึกว่ามันเป็นการกดดันเขาเกินไป หรือทำให้เขาไม่สบายใจถ้าเขาไม่คิดตรงกับเรา แล้วออมก็ไม่รู้ว่าผู้ชายคิดกันอย่างไร แค่รู้สึกว่าอะไรที่ทำให้เขาอึดอัด ทำให้เขาไม่สบายใจ เราก็ไม่อยากทำ

ติดตามรับชมรายการ “คุยแซ่บSHOW” ย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

อ่านข่าวเพิ่มเติม

 

Avatar photo