เข้าสู่ประตูวิวาห์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับคู่รักสุดแนว โทนี่ รากแก่น กับ แก้ว จริญญา ศิริมงคลสกุล ที่ได้ถือฤกษ์วันที่ 11 ธันวาคม จัดพิธีหมั้นและมงคลรสมรสตามประเพณีไทยในช่วงเช้า โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบง่ายและอบอวลไปด้วยความรัก ท่ามกลางสมาชิกของทั้งสองครอบครัวที่มาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างอบอุ่น ก่อนที่จะเริ่มงานปาร์ตี้ฉลองแต่งงานในช่วงค่ำ โดยมีเพื่อนพ้องและคนสนิทมาร่วมเฉลิมฉลองกันอย่างสนุกสนาน
ล่าสุด โทนี่ ได้ออกมาเปิดใจหลังแต่งงาน เมื่อต้องเปลี่ยนมาใช้คำสรรพนามว่า “สามี-ภรรยา” โดยเจ้าตัวเผยว่า ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เพราะเหตุผลที่แต่งงานกันก็คือความธรรมดาที่มีให้กัน ไม่ได้รู้สึกว่างานแต่งที่เกิดขึ้นจะต้องพิเศษหรือหวาน หลังแต่งงานต้องดียิ่งกว่าเดิมหรือว่าอะไร ตนรู้สึกว่าความธรรมดานี่แหละดีที่สุด เพราะชีวิตมีทุกรสชาติ เท่าที่เป็นอยู่นี้มันดีมากอยู่แล้ว เราถึงได้แต่งงานกัน รวมถึงการไม่ให้คำมั่นสัญญาอะไรต่อกัน ตนไม่ชอบเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว เพราะมองว่าการกระทำคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
นอกจากนี้ โทนี่ ยังได้เผยถึงช่วงที่เจ้าตัวกลั้นน้ำตาไม่อยู่กับโมเมนท์เปิดตัวเจ้าสาว จริงๆ เบื้องหลังคือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบไลฟ์สดบนยูทูบ เนื่องงานแต่งอยู่ในช่วงที่มีการระบาดโควิด-19 ตนจึงอยากให้ทุกคนทั่วโลกสามารถร่วมเป็นสักขีพยานผ่านระบบออนไลน์ได้ แต่ดันเกิดปัญหา คนดูไม่สามารถเข้าระบบเพื่อร่วมชมไลฟ์ได้ แล้วยิ่งเป็นช่วงเวลาที่เจ้าบ่าวห้ามเจอเจ้าสาวด้วย ทั้งๆ ที่ แก้ว คือคนที่รู้เรื่องการจัดการระบบนี้ทั้งหมด ทำให้ตนต้องตัดสินใจฝ่าธรรมเนียม เข้าไปปรึกษาจ้าสาวเพื่อหาทางออก ก่อนที่ทุกอย่างจะสำเร็จลุล่วงและสามารถเริ่มงานตามกำหนดการได้ในที่สุด จึงเป็นเหตุที่ทำให้หลังจากเห็นรถเจ้าสาวขับมาถึงบริเวณงานแล้วกลั้นน้ำตาแห่งความตื้นตันไว้ไม่อยู่
ประเด็นดราม่าสีผมในวันแต่งงาน จริงๆ แล้วภรรยาไม่เครียดเลย เพราะมองว่า “ความสวยงามของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เช่นเดียวกับความจริงของแต่ละคนที่ย่อมไม่เหมือนกัน” บวกกับตอนที่ตัดสินใจทำก็คิดไว้แล้วว่าจะต้องมีคนไม่ชอบแน่ๆ แต่ที่ยุให้ฝ่ายหญิงทำเพราะเห็นว่าเป็นความสุขของเขา ซึ่งตนก็เป็นคนตัดผมสั้นให้ภรรยาเอง งานแต่งมีครั้งเดียวในชีวิตก็อยากให้ถูกใจที่สุด บวกกับทางผู้ใหญ่เองก็ไม่ได้ติอะไร ส่วนประเด็นทวิตข้อความ “มารยาทสำคัญกว่าสีผม” ตนคิดว่าเขาคงพูดลอยๆ ไม่มีอะไร เรื่องดราม่าก็มีคุยกัน เพราะเห็นตลอด ด้วยความยุ่งมากเลยทำให้ในงานแทบจะไม่ได้ถือโทรศัพท์ขนาดนั้น แต่มีคนรอบข้างที่มาบอกว่ามันเป็นแบบนั้นแบบนี้ ตนว่าเป็นเรื่องปกติ เวลาที่เกิดกระแสอะไรเกิดขึ้น ทุกคนก็ต้องพูดถึง รวมถึงคนในงานก็ด้วย แต่ถามว่ามีผลอะไรต่อเราขนาดไหน ก็รู้สึกเอนเตอร์เทนกับสิ่งที่เกิดขึ้นเฉยๆ ก็ดีเหมือนกัน ถือว่าเป็นการช่วยโปรโมทงานช่วงเย็นแทน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ใหม่ วอนอย่าดราม่าเทียบหุ่น แต้ว ลั่นทุกคนสวยในแบบของตัวเอง
- หมอโอ๊ค ถึงกับลั่น ผัวอยู่นี่! หลัง โอปอล์ กรี๊ดหนัก หนุ่มคนนี้คอลมาอวยพรวันเกิด
- ญาญ่า เปลือยแผ่นหลังเนียนสวย รับแสงแดดยามเช้า ทำแฟนๆ ใจบางกันเป็นแถว