Entertainment

เขื่อน เคโอติก น้ำตาร่วง! ในวันที่กลั้นใจถามแม่ตรงๆ มีลูกเป็นเกย์ยากไหม?

เรียกว่าเป็นคลิปที่สร้างความประทับให้กับคนดูเป็นอย่างมาก สำหรับคลิปของ เขื่อน ภัทรดนัย เสตสุวรรณ อดีตสมาชิกวงบอยแบนด์ชื่อดัง K-OTIC ในช่องยูทูบ Koendanai ที่ได้เปิดใจคุยกับคุณแม่ของตัวเองเรื่องการที่มีลูกมาจาก LGBTQ+ community ยากไหม โดยเขื่อนเผยว่าเป็นการเปิดใจคุยระหว่างแม่ลูก ซึ่งเขื่อนกับแม่ไม่ได้จะบอกทุกคนว่าควรทำยังไง แต่เขื่อนกับแม่ได้เล่าเรื่องจากประสบการณ์ส่วนตัว ก็อยากให้ทุกคนได้ดูและรู้ว่า หลายๆ อย่างในชีวิตถ้าเราเลือกแล้วมันก็จะมีผลตามมา ซึ่งผลลัพธ์จะออกมาดีหรือไม่ดี ก็ขึ้นอยู่ที่เราเลือกและยอมรับมัน

2 เขื่อน เคโอติก 4

ยากไหมกับการมีลูกเป็น LGBTQ+ ?

คุณแม่ : ตอนแรกคิดว่ายากแต่พอมองตัวเองลงไปชัดๆ ว่านี่คือลูกเรา เรารักลูกเรา มองเห็นในสิ่งที่เขาเป็น และสิ่งที่เขาทำ แล้วก็เข้าใจเขา เพราะว่าที่สำคัญ เราสองคนแม่ลูกสื่อสารกันตรงไปตรงมามาก คุยกันตลอด ตอยแรกที่คิดว่าจะยาก เพราะว่าไม่เข้าใจ

ในรุ่นของคุณแม่อาจจะมีคนที่เปิดตัวแบบนี้น้อยมาก ?

คุณแม่ : ใช่ค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสิ่งที่เขื่อนเป็น คือมีความหลากหลายมาก ต้องใช้เวลานิดหนึ่ง แต่เขื่อนกับแม่คุยกันตลอด และเขื่อนสื่อสารตรงไปตรงมามากกับแม่ แม่ก็ค่อยๆ เรียนรู้ แล้วแม่เข้าใจแล้ว มันไม่ยากนะ มันก็กลายเป็นว่าแค่เห็นคนทีเรารักมีความสุข และได้เป็นสิ่งที่เข้าอยากทำ เป็นในสิ่งที่เขาอยากเป็น แค่นั้นเอง

หลังจากเชื่อนเปิดตัวกับคุณแม่ แน่นอนมันไม่ได้จบที่เรา 2 คน มันมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนอื่น จากเพื่อนร่วมรุ่น จากเพื่อนสนิทของคุณแม่ มีฟีดแบคอะไรบ้าง ?

คุณแม่ : เยอะมาก อันดับหนึ่งเลยคือ ทำไมปล่อยให้ลูกทำอย่างนี้ อันดับสองคือ สอนลูกทำยังไง ลูกถึงกลายเป็นแบบนี้ แต่ว่าเราก็บอกว่าเราไม่ได้ปล่อยลูกเป็นอย่างนี้ เข้าโตมาเป็นอยางนี้ เราต่างหากเป็นคนที่ต้องเรียนรู้ และทำความรู้จักเขา ก็มีทั้งสนับสนุน และต่อต้าน มีทุกรูปแบบเลย คุณแม่ไม่รู้สึกอะไร เพราะว่าเราอยู่บนเส้นของความเป็นจริง หลายยครั้งที่ตอบคำถามเพื่อนไปบอกว่า เราโชคดีมากเลยเธอรู้ไหม ลูกเราตั้งใจเรียน แล้วในสิ่งที่เขาเป็น เขาเอามาใช้ประโยชน์นะ เขามาเป็นนักกิจกรรมที่มาดูแล LGBTQ ทั้งหลาย เขาสร้างความภาคภูมิใจให้เราเยอะมาก ในหลายๆ เรื่อง เพราะฉะนั้นการที่ใครมาพูดอะไร สำหรับแม่แล้ว ไม่มีประเด็น

2 เขื่อน เคโอติก 3

ในวันที่แม่เลือกที่จะยอมรับและสนับสนุนลูก ฟีดแบคของคนที่ไม่เข้าใจมันเปลี่ยนไหม ?

คุณแม่ : เปลี่ยน มันมีความตลกอยู่เรื่องหนึ่ง ตอนแรกเพื่อนๆ ก็จะมาเลียบๆ เคียงๆก่อนว่า ทำไมลูกเป็นอย่างนี้ แม่ก็บอกว่า อ๋อ ลูกสาวฉันเหรอ เขาเป็นอย่างนี้ ฉันชอบ น่ารัก มีแต่ความสุข ความสดชื่นมาให้เรา แล้วพอเราพูดอธิบายอย่างนี้ให้เพื่อนฟัง หลายๆ คนก็บอกจริง เริ่มเห็นด้วย บางคนเกรงใจไปเลย ไม่กล้าพูดต่อ

คิดยังไงกับการที่ลูกใส่กระโปรง ?

คุณแม่ : เอาแบบจริงๆ นะ แม่จริงใจ ตอนแรกงง ไม่เข้าใจ ที่ไม่เข้าใจ เพราะว่าอย่างแม่จะไม่มีความรู้เยอะตอนแรกว่า ข้อแตกต่างในเกย์ ในเลสเบี้ยน ในทุกๆ อย่างของ LGBTQ+ เขาแตกต่างกันอย่างไร พอเขื่อนใส่กระโปรงปุ๊บ อ้าว ไหนว่าเป็นเกย์ ทำไมถึงใส่กระโปรง ก็เลยกลับไปที่สื่อสารกันอย่างตรงไปตรงมา ก็เลยค่อยๆ เรียนรู้ แล้วก็ค่อยๆ เข้าใจทีละนิด ก็ไม่แปลกใจนะ กลับชอบ เพราะว่าเสื้อผ้าที่เอามาใส่ เครื่องประดับที่เอามาใส่ ชอบ แบ่งกันใส่ แย่งกันอีก ทุกวันตอนนี้เรารู้สึกสนุก ตื่นมาตอนเช้า เราต้องมาดูว่าวันนี้ลูกเราจะมาแบบไหน มีไอเดียอะไรมานำเสนอเรา

มุมมองคุณแม่เปลี่ยนไหม จากวันที่รู้ว่าลูกฉันเป็นเกย์ ?

คุณแม่ : ตอนแรกๆ ก็รู้สึกว่าตายละ มีอะไรต้องเรียนรู้อีกเยอะเลย แล้วก็ต้องค้นหา ต้องพยายามตามให้ทัน ไม่ใช่แค่เพื่อลูกเราคนเดียวนะ เพื่อที่ว่าเวลามองเห็นไปที่คนอื่นแล้ว มันเกิดความเข้าใจด้วย ทำเพื่อมุมมองที่กว่างขึ้นในชีวิตของตัวเอง เพื่อที่จะใช้กับคนอื่น ลูกคนอื่น รวมไปถึงเพื่อนๆ และคนรู้จักที่มีปัญหา และไม่เข้าใจในสิ่งที่ลูกของเขาเป็น เราก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งประตูที่เป็นทางออกของเขา

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo