Entertainment

นิโคล อกหักปางตาย เห็นคาตาแฟนจูงมือผู้หญิงคนอื่น ยอมรับเป็นรักแท้ที่เจ็บที่สุด

นักร้องดัง นิโคล เทริโอ หรือ นิกกี้ ควงลูกชายสุดที่รัก ทิกเกอร์ มาเป็นแขกรับเชิญสุดพิเศษใน รายการ Club Friday Show ผลิตโดย เช้นจ์2561 ที่ นิโคล ยอมให้ล้วงลึกเรื่องราวชีวิตรักที่เล่าให้ฟังทั้งน้ำตา ถึงความรักครั้งหนึ่งที่เข้ามาทำให้ตัวเองอกหักจนปางตาย เพราะเห็นจะจะคาตาว่าคนที่ตัวเองคบจูงมืออยู่กับผู้หญิงคนอื่นด้วยตัวเอง ขนาดมีคนเตือนความเจ้าชู้มาเพียบ แต่ก็ไม่ฟังจนได้เห็นด้วยตาตัวเอง ยอมรับเป็นรักแท้ที่เจ็บที่สุดในชีวิต พร้อมเปิดใจชีวิตแต่งงาน คือ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิต

5 นิโคล 2

ถาม เรียกว่า ชีวิต ตั้งแต่เดินเข้ามาในวงการก็โดยคนเคยปรามาสไว้ว่าเทปสองสามแสนก็บุญมากแล้ว

นิโคล : ใช่ค่ะ ตอนนั้นก็คือว่าไม่ดีนะคะ 2-3 แสน ณ ตอนนั้น เราก็ประชุมกันว่าอุปสรรคของเราคืออะไร ก็คือ เราเตี้ย อายุก็เยอะแล้วตอนนั้น 24 คือ ถือว่าเยอะแล้ว และเป็นลูกครึ่งที่ไม่สวย กี้ ก็ยิ้มสู้ เราไม่ได้รู้สึกแย่นะคะ แต่เราเป็นคนทำงานหนึ่งคนที่รู้สึกว่าจะต้องแก้ปัญหายังไง ซึ่งในมุมทำงานของคนสมัยนั้นคือ ต้องกะเทาะข้อดีข้อเสียเพื่อจะหาสร้างอะไรก็ตามที่ห่อหุ้มตัวเราเพื่อให้นอกเหนือจากการฟังเพลงแล้วเราจะได้มีภาพลักษณ์ ที่ถูกใจด้วยออกมาและก็ได้ออกมาเป็นตัวเราจริงๆ

ถาม และเมื่อหาตัวตนของเราเจอแล้วทำเพลงชุดแรกออกมาเท่าไหร่

นิโคล : 1 ล้านตลับ ภูมิใจไม่ได้ภูมิใจว่าเรา แต่เหมือน ทั้งทีม ประสบความสำเร็จ ทุกคนมีรอยยิ้มแฮปปี้ พี่นิ่ม เคยเตือนว่าระวังนะชีวิตมันจะเปลี่ยน และก็เปลี่ยนจริงๆ ค่ะ ตอนแรกไม่เข้าใจว่าพี่นิ่ม หมายถึงอะไร เผอิญวันที่เขาปล่อยเพลงกะโปโล เขาปล่อยคืนวันสงกานต์แล้ว กี้ อยู่พัทยา แล้วคือเล่นสาดน้ำอยู่แล้วมีคนเรียกเราว่า นิโคล เพราะ กี้ ผมสั้นเพราะลุคเราตอนนั้นคือเหมือนใน MV เลย พอเขาเห็นแล้วดูแล้วคือ กี้ แล้วเขาก็ฉีดน้ำใส่ มีแป้งมาตบใส่เราทั้งๆ ที่เมื่อวันก่อนไม่ได้มีใครมาเล่นแบบนี้เลย แล้วเราก็ตกใจว่าอะไร แล้วก็มีคนวิ่งตามเรียกชื่อเรา ตอนแรกก็ดีใจแต่ก็เริ่มกลัวเพราะเราวิ่งหนีเขาก็วิ่งตาม หลังจากนั้นคือ เดินถนนไม่ได้อีกเลย

ถาม เพราะความดังเลยไปโดนใจเสี่ยมาขอแต่งงานเลยตอนนั้น

นิโคล : มีค่ะ เพราะตอนนั้นไม่มีผู้ชายมาจีบ กี้ เลยเพราะคิดว่าเราเป็นทอม เพราะเราผมสั้น แล้วจะมีจดหมายมาเป็นกระสอบเลยตอนนั้น แล้วจะมีอันหนึ่งหนาๆหน่อย เป็นเสี่ยนี่แหละ เขียนจดหมายยาวมากขอแต่งงาน พร้อมที่จะให้บ้าน ที่ดิน เขาจะอยู่จังหวัดหนึ่ง พอเวลากี้ ไปเขาจะมาให้รู้เลยว่าเขาคือคนที่ขอเราแต่งงาน ซื้อผลไม้ให้แม่ คือ เขาเข้าทางแม่ไงคะ แม่ก็เริ่มเคลิ้ม กี้ ก็แบบต้องเตือนแม่ ไม่ๆๆ นะคนนี้ ไม่

5 นิโคล 11

ถาม แต่เมื่อได้ แต่งงานจริงๆ ชีวิตแต่งงานเป็นไปอย่างที่คิดหรือเปล่าหลังจากแต่งงานแล้ว

นิโคล : เป็นค่ะ จนกี้ (พูดด้วยเสียงน้ำตาคลอ) มีทิกเกอร์ การแต่งงานก็เป็นอย่างที่คิด เพราะทิกเกอร์เขาเป็นส่วนที่มาเติมเต็มหัวใจเรา (นี่เป็นน้ำตาของความสุขเป็นอะไรที่ดีที่สุด) คือ หลายๆ คนมักถามเราว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้อยากจะเปลี่ยนอะไรไหม เราไม่เคยมีความคิดนั้นแม้แต่นิดเดียว เพราะว่าเราได้สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตมาก็คือ ลูก

ถาม ในวันที่ตัดสินใจว่าจะเดินออกมา ตัดสินใจที่จะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวคนเดียว คิดหนักไหม

นิโคล : คิดหนักค่ะ แต่เราก็พยายามเท่าที่ทำได้แล้ว มันเป็นการตัดสินใจที่ถูกค่ะ เพราะว่าตอนนั้นเรามีสติ นึกถึงลูกเป็นหลัก ความรู้สึกของลูกสำคัญที่สุด ความรู้สึกทั้งกี้ และ พ่อของเขา ออกไปก่อนเลย ยิ่งตอนนี้ ยิ่งรู้ว่าเราตัดสินใจถูกต้อง เพราะเราไม่ได้เป็นคู่ชีวิตของพี่แมว จริงๆ แหนวกับพี่แมว คือ เนื้อคู่กัน ซึ่งเรากับพี่แมว ตอนนี้เป็นเสมือนครอบครัวเดียวกัน ยังเป็นครอบครัวที่ดีต่อกัน

ถาม ซึ่งบางคนอาจจะรู้สึกแปลกที่ทำไมกลับมาสมัครสมานสามัคคีกันได้ เราใช้เวลานานไหมกว่าจะมาเป็นเพื่อนกัน

นิโคล : กี้ รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกตินะคะ เพราะเราไม่ได้ใช้เวลาที่จะเป็นเพื่อนกันเลยเพราะเราเป็นเพื่อนกันมาตลอด แม้แต่ต้องมาเซ็นใบ ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากให้ไปถึงจุดนั้นอยู่แล้ว แต่ว่าทุกชีวิตมันไม่เหมือนกัน อันนี้เป็นทางออกแล้วตอนนั้นดีที่สุด แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ พี่แมว ไปเจอเนื้อคู่ของเขาจริงๆ กี้ไม่ใช่เนื้อคู่ของพี่แมว แต่ฟ้าลิขิตมาให้เราใช้ชีวิตร่วมกันระยะหนึ่ง แล้วก็ได้มีลูก คือ ทิกเกอร์ นี่คือฟ้าลิขิตมาและขอบคุณมากๆ จำได้เลยวันที่ แจ๊สเปอร์ เกิด กี้ กับ ทิกเกอร์ คือ ตื่นเต้นมากแล้ว ทิกเกอร์ ได้อุ้มน้องเราไม่เคยมีอะไรที่แบบบางคนจะคิดว่ามันมีอะไรหรือเปล่าไม่มีเลย แหนว เป็นผู้หญิงที่น่ารักมากและดูแลพี่แมวดีมากและรัก ทิกเกอร์ เพราะฉะนั้นเป็นอะไรที่เราโชคดีที่มีครอบครัวที่ใหญ่ขึ้นและรักกัน

5 นิโคล 4

ถาม การเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมีความกลัวอะไรบ้าง

นิโคล : กลัวที่จะเลี้ยงลูกยังไง เพราะว่ามัน … น่ากลัวค่ะ เพราะเราเป็นศิลปินไม่รับงานหายไปเลย 5 ปี คนลืม กี้ ไปแล้วและเราต้องมาเริ่มใหม่ กลับกลายเป็นว่าลูกเป็นแรงบันดาลใจ เป็นพลังที่ขับเคลื่อนเรา ถ้าไม่มีลูกคงจะแย่ เพราะว่าเราไม่ได้รักตัวเองเท่ากับรักลูก การที่เราไม่ได้รักตัวเอง เราอาจจะปล่อยตัวเองให้เละเทะช่างมันเถอะ

ถาม ซึ่งต้องย้อนกลับไปถามการเข้ามาเป็นศิลปินดังของ นิโคล ความรักที่เข้ามาตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง

นิโคล : ก็ดีเป็นช่วงชีวิตที่ลักกี้อินเกม ลักกี้อินเลิฟเลยค่ะ ที่ถูกใจคนคนนี้เพราะเขาน่ารักเขาพูดคุยสนุกสนาน พูดภาษาอังกฤษและก็เฮฮา เวลาเราเครียดเรื่องงานเวลาเจอเขาเราหายเครียดเพราะเขาเป็นคนอารมณ์ดี เขาไม่มีมุมเศร้าเลย ใครอยู่ด้วยก็จะเคลิบเคลิ้ม

ถาม มีคนเตือนไหมว่าเขาเจ้าชู้

นิโคล : ตอนก่อนเป็นแฟนไม่ได้เตือนค่ะ แต่พอเป็นแฟนแล้วเตือนเพียบเลย แต่เราก็ไม่เชื่อในสิ่งที่เขาเตือนกัน เพราะเราเชื่อเราจะทุกข์เพราะ กี้ ไม่ได้เป็นคนเช็กโทรศัพท์ กี้ จะถามเขาคำเดียวว่าเรื่องนี้จริงหรือเปล่า เพราะถ้าเขาพูดว่าจริงหรือไม่จริงเราจะไม่สืบไม่เชื่อคนอื่นเลย จนกระทั่งเราเห็นด้วยตาตัวเอง คือ ตอนนั้นเขาไม่ค่อยมาหาเราเพราะงานเขาเยอะ งานเราก็เยอะ โอเคเชื่อๆ แล้วมีอยู่วันเพื่อนรักพาไปกินซูชิที่ ทองหล่อ ร้านก็จะเป็นกระจกใหญ่ๆ แล้วนั่งหันหน้าออกเราจะเห็นนอกร้าน ตอนนั้นเรากำลังจะทานแล้วเห็นเขาเดินผ่านมาแล้วเขาจับมือกับผู้หญิงคนหนึ่งผ่านหน้ามาเลย แต่เขาไม่เห็นเราเพราะเรานั่งอยู่ในร้าน จำได้ติดตาเลยเขาใส่เสื้อสีแดง แต่เราก็ไม่ได้ลุยตามไปเคลียร์นะคะ คือ ตอนนั้นช็อก ตัวชา หน้าชาแล้ว กี้ ก็โทรหาเขา เขาก็ไม่ยอมรับบอกไม่ใช่ ไม่จริง แต่เราก็บอกเขาว่าเลิกเถอะ ปล่อยเราไปเถอะ เราจะได้เดินต่อได้

5 นิโคล 7

ถาม แต่ก็มีความรักครั้งหนึ่งที่ทำให้อกหักจนถึงขั้นปางตาย ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น

นิโคล : ตอนนั้น คือ จะไปนั่งก็นั่งไม่ได้ จะนอนก็นอนไม่ได้ จะยืนก็ไม่รู้ว่าจะหันไปทางไหน แบบนี้จริงๆ นะคะ แบบบ้านหมุน มันเคว้งคว้างมาก แล้วมีอยู่วันหนึ่งตอนนั้นช่วงคอนเสิร์ต Seven ด้วยนะคะ เผอิญ พี่ใหม่ เจริญปุระ ก็พักอยู่ชั้นบนที่คอนโดเดียวกันกับเรา กี้ ก็แบบว่าใครตอนนั้นเราร้องไห้อยู่นะ (พอได้ยินเสียงเคาะประตู ทุกครั้งคิดคือ เขา) เพราะเรามีความหวังถ้าเป็นเขาจะดีใจที่สุด

ถาม ถึงแม้จะรู้ว่าเขาไม่ได้ซื่อสัตย์ แต่เพราะความรักเลยทำให้เรามีความหวัง ในการเคาะประตูทุกครั้งคิดว่าเขาจะกลับมา

นิโคล : พี่ฉอดพูดคำนี้ กี้ จะร้องไห้ … ใช่ค่ะ คิดว่าอาจจะเป็นเขา แต่มันกลายเป็นพี่ใหม่เจริญ ปุระ พอเราเห็นพี่ใหม่ เราเห็นพี่ใหม่เราก็มีพลังขึ้นเพราะพี่ใหม่ เขาเป็นคนมีพลังเยอะ เพราะตอนนั้นคือ กี้ ทานข้าว ไม่ได้เลยแล้วผอมเป็นก้าง ผอมมาก แล้วพี่ใหม่ เขาก็ทำซุปทำอะไรมาให้เราจัดใส่ถาดมาวางด้วยดอกไม้สวยเลยแล้วถือมา นิโคลๆ พี่ใหม่ทำซุปมาให้ทาน ทานเยอะๆ นะ (พี่ใหม่เขาก็เป็นห่วงเราที่เห็นเราทานอะไรไม่ได้เลยมาดูแลเรา) ซึ่งดีมากทำให้เราหายเศร้า แต่พี่ใหม่ อยู่ๆ ร้องไห้เองแบบจริงจังเลย แล้วบอกเราว่า “เธอฉันอยากได้ห้องแบบนี้” ประมาณว่าพี่ใหม่ เขาทำบ้านนานมากเลยแล้วพี่ไม่ได้แบบนี้ เรากลายเป็นปลอบ พี่ใหม่ จริงๆ แล้วมันดีเพราะทำให้เราลืมความทุกข์ของเรา เพราะได้พี่ใหม่ มาดูแล

ถาม เมื่อเราเห็นทุกอย่างชัดเจนแล้วทำไมต้องรอ

นิโคล : เพราะคิดว่าอย่างน้อยสิ่งที่เขาควรจะทำก็ต้องกล้าหน่อย เราไม่ได้จะรั้งไว้ แต่ขอให้เกียรติเรานิดในการบอกเลิก (กี้ คิดว่าการบอกเลิกเป็นการให้เกียรติ) เพราะดีกว่าปล่อยให้เราอยู่ไปอย่างนั้น กี้ สอนลูกเลยนะคะ ว่าเวลาเราจะคบกับใครเราคบได้ เราขอเป็นแฟนได้ แต่ถ้าสมมติว่ามีอะไรเกิดขึ้นมาแล้วเราไปต่อกับเขาไม่ได้ มันคือชีวิตมัน มันไม่ได้มีอะไรมาการันตีว่าเราจะอยู่ด้วยได้ไปตลอดชีวิต แต่ว่าวิธีการเลิกคือสิ่งสำคัญถ้าเลิกกันดีๆ พูดกันดีๆ ถ้าเริ่มได้ก็จบได้ แต่ถ้าจบมันต้องรู้มันต้องบอกกัน

5 นิโคล 8

ถาม ในความรักครั้งนั้น คือ แอบหวังไหม

นิโคล : แอบหวังค่ะ คือมีช่วงหนึ่งที่ต้องบอกตรงๆ ว่า ตอนนั้น กี้ อยู่ไม่ได้แล้ว อยู่ไม่เป็น กี้ ซึมเศร้าแล้ว (ถ้าวันนั้นเขาเดินกลับมาเราก็โอเคที่จะไปต่อนะคะ) แต่ถ้าเป็นวันนี้ ไม่แล้วค่ะ วันนี้แข็งแรง วันนี้รู้แล้วว่าอะไรที่จะทำให้เราเจ็บในวันข้างหน้าว่าเราควรเจ็บแล้วจำ แต่ว่าตอนนั้นเรายังไม่พร้อมจริงๆ แล้วเรายังโตไม่พอ แล้วเรายังอยู่ในช่วงชีวิตที่ผิดเพี้ยนไปจากความจริง มีชื่อเสียง ก็ผิดเพี้ยนไปจากความจริง พออะไรมันดี ก็ดี๊ดี อะไรที่แย่ ก็แย่เลย ความรักก็เยอะมันเป็นอะไรที่เรายังไม่โตพอ แล้วเรื่องมันเยอะไปที่เราจะรับมันได้ ตอนนั้นเราสูญเสียหลายอย่าง ออกอัลบั้มชุดที่ 3 ก็คือแป้ก แล้วโปรโมทเตอร์เสียชีวิต แฟนทิ้งอีก แล้วโดนผู้จัดการโกงเงินไปอีกไม่รู้กี่ล้าน ซึ่งทุกคนเป็นคนที่เรารักที่เราไว้ใจมาก กี้ จัดแจงตัวเองไม่เป็นเลยตอนนั้น

ถาม แล้วสุดท้ายเรากลับมาเป็นคนเดิมได้ยังไง

นิโคล : กี้ เหนื่อยแล้ว กี้ หิว คือมันไม่ได้ทานข้าว มันเหนื่อยเอง เหนื่อยกับการเจ็บ เบื่อตัวเองรำคาญตัวเองด้วยค่ะ แล้วมีอยู่วันหนึ่งเราลุกขึ้นเอง เจ็บที่สุดหยุดได้เองค่ะ เขาก็ไม่ได้มารับรู้สิ่งที่เราเป็น ชีวิตเราต้องดำเนินต่อ แล้วเรายังมีพ่อแม่ที่เราต้องดู แล้วเรามาเป็นแบบนี้เพื่ออะไร นี่เราเสียเวลามามากแล้ว เป็นเดือนๆ เลยงานก็ไม่ดี หน้าก็แย่ โทรม เหมือนเราตัดเลยตอนนั้น แล้วเจอเขาทุกวันนี้ ไม่มีความโกรธเลย เรานึกย้อนกลับไปวันนั้น ทำไมเราต้องเป็นอะไรขนาดนั้นด้วย

5 นิโคล 9

ถาม เห็นว่าเมื่อมีช่วงเวลาแห่งความรักบ้างมีช่วงเศร้าๆ แต่ก็ได้ลูกชาย เข้ามาเป็นกำลังใจ ปลอบใจอยู่เสมอ

ทิกเกอร์ : ก็ไม่ได้เข้าไปเลยแต่เราจะใช้ระยะห่างนิดหน่อย จะได้มีเวลานิดนึงแล้วอีกสักพักเราค่อยเข้าไปคุยกันเรื่องปัญหา

นิโคล : ส่วนมาก ทิกเกอร์ เขาจะเป็นคนที่เริ่มคุยก่อน เขาจะเข้ามาในห้องเพราะเราจะแอบอยู่คนเดียวในห้อง ซึ่งเราก็เล่าความจริงให้เขาฟังทั้งหมดเพราะเขาอยากรู้เราก็ต้องบอก แต่พยายามไม่ร้องไห้ให้เขาเห็นแต่ก็ร้องอยู่ดีเพราะเรามีอยู่แค่นี้ แค่ลูกถามว่า ยูโอเค แค่นี้ ก็น้ำตาไหลแล้ว

ถาม แล้ว ทิกเกอร์ เข้าใจความสัมพันธ์ของคุณพ่อคุณแม่ยังไงบ้าง

ทิกเกอร์ : ผมคิดว่าการที่เป็นพ่อแม่ ต้องมาก่อนปัญหา ก็ดีครับได้มีครอบครัวใหญ่ๆ

นิโคล : เราจะเจอกันเป็นประจำอยู่แล้วแต่หลักๆ เลย คือ ปีใหม่ คริสมาสต์ หรือ ถ้าพี่แมวเหงาก็พา แจ๊สเปอร์ มา ซึ่ง ทิกเกอร์ กับ แจ๊สเปอร์ คือ เป็นคนละแบบเพราะ แจ๊สเปอร์ จะพูดเก่งมาจน ทิกเกอร์ เขาน่าจะเป็น ceo ได้เลย ซึ่งเขาเป็นคนตั้งชื่อให้กับน้อง

ทิกเกอร์ : เพราะผมเห็นว่าพ่อชอบ แจ๊ส ครับ เพราะตอนแรกคุณพ่อจะตั้งชื่อน้องว่า แคสเปอร์ ก่อน แต่เราคิดถึงคำว่า แจ๊ส เลยบอกว่า ใส่คำนี้เข้าไปผสมด้วยดีกว่าเลยได้ชื่อออกมาคือ แจ๊สเปอร์ ครับ

5 นิโคล 5

ถาม แล้ว ทิกเกอร์ อยากทำงานในวงการด้านไหนไหม

ทิกเกอร์ : อยากร้องเพลงครับ ตอนแรกไม่ค่อยชอบกีตาร์แต่สุดท้ายคือ ก็ชอบ (หัวเราะ) แล้วก็ชอบตีกลอง

นิโคล : ทิกเกอร์ เขาเป็นคนทำอะไรคือ จริงจังมาก เรายังไม่ได้ครึ่งของเขาเลย แต่เราก็คอยสนับสนุนสิ่งที่เขาชอบที่เขาต้องใช้ ส่วนเรื่องการแสดงแอบฝาก พี่ฉอด เลยค่ะ

ทิกเกอร์ : ส่วนมากหลักๆ ตอนนี้ คืออยากโฟกัสดนตรีกับเพลงครับ การแสดงแอคติ้ง ก็สนใจบ้าง

ถาม แล้วเคยได้ยินเพลงที่คุณแม่ร้องไหม ชอบเพลงไหนของคุณแม่เป็นพิเศษ

ทิกเกอร์ : เปรี้ยวใจครับ

นิโคล : ตอนนั้นที่เราขึ้นคอนเสิร์ต ทิกเกอร์ จะเตรียมดอกไม้ตุ๊กตา เอามาให้ข้างเวที เราจะแฮปปี้ที่สุด เหมือนเขาโตมากับคอนเสิร์ต โตมากับเสียงเพลงน่าจะซึมซับพอสมควร ตอนนี้เขาก็เซ็นสัญญาการเป็นศิลปินแล้วอยู่ในระหว่างทาง อีกไม่นานน่าจะได้เห็นผลงานของเขาค่ะ ตอนนี้อยู่ในช่วงฝึกหัดค่ะ พอเราเห็นเขาฝึกขนาดนี้เรายืนมองดูเขาฝึกก็ร้องไห้ ร้องไห้เก่งมากเพราะเราปลื้มในตัวเขา แล้ววันที่เขาเซ็นสัญญา คือ เป็นสัญญาที่เราเซ็นเมื่อตอนที่เราเข้ามาเป็นศิลปิน ซึ่งตอนนี้เป็นชื่อเขา อชิระ เทริโอ แต่เขายังไม่ 18 ก็ต้องมี นิโคล เทริโอ อยู่ข้างล่าง เราไม่นึกไม่ฝันว่าจะเป็นสัญญาอันนั้นที่เราเซ็นเมื่อ 20 ที่แล้ว ดีใจมากที่เขาได้เข้ามาอยู่ในบ้านของเราที่ทำให้เรามีทุกอย่างในวันนี้ กี้ รู้เลยว่าเขาจะปลอดภัยที่นี่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม กี้ หมดห่วงจริงๆ

5 นิโคล 6

5 นิโคล 1

5 นิโคล 12

5 นิโคล 10

 

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo