Entertainment

ฟรอยด์ เปิดปากครั้งแรก! หลังย่องเงียบให้ปากคำ ปมดราม่าพัวพันมอมยานักศึกษาสาว

หลังจากนักแสดงหนุ่ม “ฟรอยด์ – ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์”  ได้เดินทางเข้ามาให้ปากคำกับตำรวจที่ สน.ลาดกระบัง อย่างเงียบๆ ไปเมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา กรณีถูกนักศึกษาฝึกงานหญิงของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งแจ้งความร้องทุกข์ โดยอ้างว่าดาราหนุ่มมอมยาในเยลลี่จนหวิดช็อกเสียชีวิต ขณะไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

2 ฟรอยด์ 2 1

ล่าสุด (28 พ.ย.) ฟรอยด์ ณัฏฐพงษ์ ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนถึงเรื่องราวทั้งหมดในวันเกิดเหตุให้ฟังเป็นครั้งแรก ด้วยสีหน้าท่าทางสดชื่น ไร้ความกังวล โดยระบุว่า

-สิ่งที่เกิดขึ้นคือผมเป็นเพียงแค่พยานที่อยู่ในเหตุการณ์เท่านั้น และได้แสดงความบริสุทธิ์ใจในการที่ออกมาให้ปากคำที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์เท่านั้น

-เหตุการณ์ในวันนั้น ผมแค่ไปกินข้าวคนเดียวจริงๆ และบังเอิญเจอ ไม่ได้รู้จักน้องเขาเป็นการส่วนตัว ซึ่งก็มานั่งโต๊ะด้วย มาจอยโต๊ะด้วยเท่านั้นเอง แต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่างในบริบทมันเป็นเรา ผมก็เลยออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการยอมรับว่าผมอยู่ในเหตุการณ์จริง แต่ผมไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในสิ่งที่โดนกล่าวอ้างแบบนั้น

-อาหารที่กินในวันนั้น ส่วนใหญ่เป็นของทางร้านหมดเลย แต่ก็ไม่มีอะไร เพราะมันเป็นร้านประจำที่เรากินอยู่แล้ว จริงๆ มันก็เป็นไปได้หลายแบบนะ อาจจะแพ้หรือนู่นนี่นั่น ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าน้องได้ไปที่ไหนมาก่อนไหม

-ยืนยันว่าวันนั้นไม่ได้ยื่นอะไรให้น้องแน่นอน แทบจะไม่ได้คุยอะไรกับน้องเขาเลยด้วยซ้ำ ผมนั่งกินของผม และผมยังนั่งคุยกับรุ่นน้องที่อยู่ในร้าน และบังเอิญเจอรุ่นน้องนั่นคือเหตุการณ์จริงๆ ที่เกิดขึ้น

-ปกติผมเป็นคนที่มีขนมติดตัวอยู่แล้ว พวกขนมขบเคี้ยว หมากฝรั่ง ลูกอม เราก็ติดไว้กันปากเหม็นเวลากินกระเทียม ก็พกปกติ ไม่มีอะไร แต่ยืนยันได้ว่าไม่มีเยลลี่

2 ฟรอยด์ 4 1

-สังเกตถึงความผิดปกติในตัวน้องผู้หญิง น้องเขาบอกแค่ว่าหนาว และบอกจะหน้ามืด ก็เท่านั้น ส่วนน้องผู้ชายที่เราเจอ เขาก็พาไปข้างนอก พาไปโรงพยาบาล เราก็รู้เท่านั้น พอเรื่องเกิดขึ้นมา เราก็คิดแล้วว่า เห้ย งงว่าเกิดอะไรขึ้น และไปเกี่ยวกับเราได้ยังไง มีการพาดพิงถึงเรา แต่เราก็บริสุทธิ์ใจ บอกไปตามที่เรารู้

-ผลออกมาว่ามีกัญชาเจือปนอยู่ในร่างกายน้องเขาด้วย อันนี้ผมไม่รู้ ต้องให้เจ้าหน้าที่สอบสวนเขาจัดการเอง ไม่รู้เหมือนกันว่ามาจากไหนแล้วเจือปนหรือเปล่า อันนี้ผมไม่ทราบจริงๆ

-ผมบริสุทธิ์ใจอยู่แล้ว เพราะผมไม่ได้เป็นคนทำ และขนมอะไรก็ไม่ได้มีด้วยซ้ำ คือผมเห็นภาพในสื่อนะครับ ผมยังงงว่าไปเอามาจากไหน สื่อไปดึงมาจากไหน ผมก็ไม่ทราบอันนี้

-ตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่ได้คุยกับน้องเขาเลย เพราะผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เขาจะดำเนินการสอบสวน สืบสวนต่อไป

-ส่วนเรื่องฟ้องกลับ กำลังเจ้าหน้าที่กฎหมายที่ดูแลเรื่องนี้อยู่ เพราะตอนนี้เรื่องภาพลักษณ์มันเสียไปแล้วแน่นอน อาจจะกลับมาไม่ได้ แต่อย่างน้อยผมก็บริสุทธิ์ใจที่ออกมาพูด และปกป้องชื่อเสียง ผลประโยชน์ส่วนตัว เพราะมันก็มีเรื่องของงานในอนาคตด้วย เรื่องของพรีเซ็นเตอร์ต่างๆ อีกเยอะ

-เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันกระทบใจครอบครัว เพราะเราเป็นคนที่รักครอบครัวมาก เรารักครอบครัว รักเพื่อน เราชอบให้เสียงหัวเราะทุกคน พอวันหนึ่งเกิดเรื่องไม่ดีกับชีวิตเรา คนรอบตัวก็รู้สึกเสียความรู้สึกกับสิ่งที่มันออกไป แต่เราก็ต้องเข้มแข็งพอที่จะฝ่าฟันเรื่องตรงนี้ไปได้ ก็เข้าใจว่ามันด้วยชื่อของเราที่เอาไปใช้ เอาไปอ้าง

Avatar photo