เบนซ์-มิค เสิร์ฟความหวานกลางโซเชียลเซอร์ไพรส์ชีวิตคู่ครบรอบ 21 ปี เผยเจอเรื่องราวสุดแปลกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทักเรียกให้ไปหา
หวานมากแม่ คุณพ่อ คุณแม่ ลูก 3 มิค บรมวุฒิ-เบนซ์ พรชิตา ที่วันนี้ควงกันมาเล่าโมเม้นท์สุดหวานที่ เบนซ์ พรชิตา เซอร์ไพร์สคุณสามี มิค บรมวุฒิ ในวันครบรอบ 21 ปี กลางโซเชี่ยล พร้อมเล่าความฝันของคุณพ่อมิคที่ฝันถึงลูกสาวคนโต น้องปริม จนทำให้ตื่นขึ้นมากังวลขั้นสุด เล่าเรื่องราวสุดแปลกได้ยินเสียงกระซิบจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในรายากรคุยแซ่บ Show ทางช่องOne31 ที่มี หนิง ปณิตา และ ซินแสเป็นหนึ่ง เป็นพิธีกร
- ‘จูน เพ็ญชุลี’ เผยเคลียร์คดีนึง ได้ของแถมเป็นหมายฎีกา ลั่น 4 ล้านคือไม่จบ
- มีน-น้ำฟ้า แท็กทีมเรียนทำอาหารกับ เชฟเมย์ เปิดโหมดเสน่ห์ปลายจวัก
- เผยภาพ ‘โตโน่ ภาคิน’ ในทริปเซี่ยงไฮ้ ไร้เงา ‘ณิชา’ ไปด้วย
เบนซ์-มิค เสิร์ฟความหวานกลางโซเชียล เซอร์ไพรส์ชีวิตคู่ครบรอบ 21 ปี
สมกับการเซอร์ไพร์สแต่งงาน รอบนี้รอบที่ ?
มิค : ครบ 21 ปี
เบนซ์ : แต่งงานไม่ถึง
มิค : แต่งงานปีนี้จะครบ 12 แต่ที่เป็นแฟนกันครบ 21 ปี วันที่ตกลงเป็นแฟนกันคือวันที่ 26 เมษา เมื่อ 21 ปีที่แล้ว
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทางคุณภรรยาเซอร์ไพร์สคุณสามีในรอบกี่ปี ?
เบนซ์ : ในรอบหลายปี ไม่ได้ซื้อของให้พี่มิคนานมาก คือวันนั้นมาถ่ายรายการคุยแซ่บนี่แหละ เราก็คิดในใจว่าเราควรจะซื้ออะไรให้พี่มิคดีมั้ยไม่ได้ซื้อนานแล้ว จะพาไปกินข้าวก็ไม่ใช่จังหวะ ปีนี้ไม่สะดวกไปกินข้าวกันสองคนแน่ๆ ก็เลยคิดว่าเอาซักหน่อยแล้วกันเค้าจะได้รู้สึกว่าใส่ใจอยู่นะ ก็เลยคิดว่าที่พอจะซื้อไหว ก็น่าจะเป็นแหวนนี่แหละ แล้วแหวนก็ไม่ได้ซื้อนานมากแล้ว
มิค : นาน นานจริง
เห็นว่าก่อนที่เซอร์ไพร์สนี้จะสำเร็จคุณบรมวุฒิบ่นว่าภรรยาหายไปไหน ทำไมกลับบ้านช้า?
มิค : ใช่ คือวันนั้นเรามีนัดฟิตติ้งที่บ้าน แล้วผมก็รีบกลับไปฟิตติ้ง ผมก็เอ๊ะทำไมเบนซ์ยังไม่ถึง ทำไมเลทขนาดนี้จนทุกคนเริ่มกร่อย แล้วเบนซ์กลับมาถึงเกือบ 2 ทุ่มกว่า เลทไป 2 ชั่วโมงกว่า
เบนซ์ : คิดว่าตอนแรกเสร็จจากรายการประมาณ 4 โมงครึ่ง 5 โมง ขับรถไปพารากอนให้รถติดก็น่าจะซัก 6 โมง ซื้อของแป๊ปเดียว อาจจะเลทซัก 15-20 นาที เค้าคงไม่ว่าอะไร อันนี้คิดเอง พี่เค้ารอได้แหละ ฟิตติ้งพี่มิคก่อน แต่วันนั้นเป็นวันศุกร์แล้วรถติดสุดๆเลยกว่าจะถึงพารากอน 6 โมงครึ่ง กว่าจะได้จอดรถ กว่าจะได้ลงไปซื้อ กว่าจะกลับถึงบ้าน 2 ทุ่ม
ระหว่างนั้นพี่มิคมีโททรถามเบนซ์มั้ยว่าอยู่ไหน ?
มิค : ก็ถามเรื่อย ๆ เค้าก้บอกว่ารถติดหนักมาก
แต่รู้ใช่มั้ยว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่ตรงต่อเวลา ถ้าพี่มิคตาม ?
เบนซ์ : โดยปกติคนนี้ไม่ได้ตาม แต่หนูก็ไม่ได้ไปไหน หนูไม่เคยทำอะไรประหลาดเลยคือเสร็จทุกอย่างกลับบ้าน ไม่เคยทำอะไรแปลก ๆ
มิค : แต่วันนั้นรถติดจริง คนฟิตติ้งก็มาช้า เราถึงบ้านก็สาย ก็เลยคิดว่ารถมันคงติดจริง ไม่มีระแคะระคายเลย แต่ที่แอบช็อคกว่าคือเราคิดว่าเราจะชวนเค้าไปซื้อแหวนปีนี้ ตอนที่เบนซ์มาให้มิคยังสารภาพไปเลยว่าเป็นความคิดที่อยู่ในใจมิคหนึ่งอย่างที่อยากจะซื้อให้เค้าแต่คงต้องไปเลือกด้วยกันเพราะว่าแหวนที่แต่งงานเค้าก็ไม่ใส่ แหวนที่เอาไว้ใส่เล่นนิ้วนางเค้าก็ยังใส่ไม่ได้ ก็คิดว่าไม่ได้ให้แหวนกันมานานแล้วลองชวนเค้าไปมั้ย
พอเบนซ์ทำอะไรให้แบบนี้แล้วหัวใจเรามันพองโตขนาดไหน ?
มิค : ใจฟู อย่างที่เค้าบอกปกติเค้าจะเป็นคนที่อยู๋นิ่งๆกลายเป็นเราต่างหากที่ให้ของขวัญเค้าทุกปี มันรู้สึกแปลกมากกลายเป็นว่าปีนี้ผมไม่มีเวลาไปซื้อของขวัญให้เค้า แต่กลายเป็นเค้าให้ คือทุกปีไม่ได้คาดหวังอยู่แล้วเพราะว่าเค้าไม่ค่อยได้มีอะไร
เบนซ์ : ตอนแรกคิดในใจหรือพรุ่งนี้ไปทานอาหารกลางวันแล้วให้คอนกลางวันดีมั้ย ไม่เอาดีกว่าเดี๋ยวดูเอิกเกริกลูกจะมาวุ่นวาย ให้ทั้งชุดนอนนั่นแหละ(หัวเราะ) ที่ให้นั่นคือชุดนอนนางจะนอนแล้ว ลูกหลับหมดแล้ว
โมเม้นท์ตอนเอามาให้พูดจาหวานๆกันมั้ย ?
เบนซ์ : ไม่ได้พูดอะไรนะ แค่บอกว่าหนูซื้อมาฝาก เค้าก็ดีใจแล้วแหละ
มิค : ไม่ได้พูดอะไรเลย
อ.เป็นหนึ่ง : ในฐานะที่คลุกคลีกับเค้ามา พี่มิคเหมือนกับเป็นคนขาดความอบอุ่นอย่างรุนแรง ส่วนพี่เบนซ์นิสัยเหมือนผู้ชาย เวลานั่งรถไปไหนด้วยกันแต่ถ้าพี่เบนซ์ยื่นอะไรให้พี่มิคซักหน่อย พี่มิคดีใจหัวใจพองโต หรือเวลาพี่เบนซ์หลับแล้วก็ไปซบนิดหนึ่งจะยิ้มหวาน พี่เป็นไร ถามหน่อย
มิค : น่าจะเหมือนที่อาจารย์บอกขาดความรัก บางทีมันก็เป็นเครื่องเตือนว่าเค้าก็ยังรักเรานะ แต่แค่บางทีส่วนใหญ่เค้าอยู่กับลูก เค้รให้เวลากับลูก บางทีเราก็อาจจะไปคิดเยอะไปว่าเค้าไปให้เวลากับลูกจนลืมเราหรือเปล่า
คู่นี้หวานกันมาก ๆ ทะเลาะกันแทบจะไม่มีเลย ?
มิค : มี
อ.เป็นหนึ่ง : อันนี้แอบเข้าข้างพี่หนิง เราเห็นเหมือนกับทะเลาะกันน้อยลง มีมุมที่ต่างคนต่างเข้าใจกันมากขึ้น
เบนซ์ : ก็เข้าใจกันมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้หวานขนาดนั้น หนูก็ยังเป็นหนูเหมือนเดิมก็ยังเฉยๆแบบนี้แหละ แล้วก็ยังตีกันเป็นเรื่องธรรมชาติ
มิค : อาจารย์พูดถูกทุกอย่างมันเบาลง ถ้าสมัยก่อนบางอย่างเบนซ์พูดไม่เข้าหูอาจจะมีขึ้น ผมพูดไม่เข้าหูอาจจะมีขึ้น แต่ช่วงหลังคือปล่อยผ่านไป งอนน้อยลงแล้วหายไวขึ้น
อยากจะรู้ว่ามันด้วยอะไรหรือเพราะน้องพี่เชื่อในสิ่งที่บอกไปบางอย่างด้วยมั้ย ?
เบนซ์ : ส่วนที่ทะเลาะยังไงก็ทะเลาะ ส่วนที่อะไรเบาได้ก็จะเบา อย่างเช่นเรื่องลูกตีกันทุกวัน แต่ว่าอย่างตัวเบนซ์เองเพิ่งใช้เวลาค้นพบนานนะ อย่างที่เค้าพูดว่าจริงๆแล้วเราควรเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆที่ดูบอบบางและน่าทะนุถนอมแล้วผู้ชายจะรู้สึกว่าฉันปกป้องเธอได้นะ มันเลยทำให้ดูเป็นครอบครัว มันก็ช่วยเหมือนกัน
มิค : เค้าก็ทำให้มิครู้สึกอย่างนั้นมาตลอดนะ
พักหลังเค้ามีความอ้อนเยอะขึ้นมั้ย ?
มิค : อ้อนเยอะขึ้น อย่างที่ทุกคนรู้ว่ามันจะไปพีคมากช่วงมีลูก เค้าไม่มั่นใจตัวเค้าเองว่าเค้าไม่สวย เค้าไม่ให้เราแตะเนื้อต้องตัวอะไรเลย แต่ทุกวันนี้นางกลับมาแล้วก็เริ่มจับได้ ลูบได้ มากอดได้ ทุกอย่างมันเลยดีขึ้นไปหมด
แสดงว่ายอมให้ทำการบ้านมากขึ้น ?
มิค : ดีขึ้นเยอะ
มีอยู่เรื่องหนึ่งที่พี่มิครู้สึกว่าทำไมพี่เบนซ์สอนลูกแบบนี้คือเรื่องอะไร ?
มิค : วินัยล้วน ๆ เลยครับ เด็กคววรจะนอนเร็วเพราะวันรุ่งขึ้นเค้าต้องตื่นแต่เช้าไปโรงเรียน ผมยื่นคำขาดว่า 1 ทุ่มไม่เกินทุ่มครึ่งขอให้ขึ้นเตียง เพราะกว่าจะขึ้นไปอ่านนิทาน ดูนิทานก่อนนอน เบ็ดเสร็จมันสองทุ่มเกือบครึ่งอยู่ดี ลูกต้องหลับ 2 ทุ่มครึ่ง ปิดไฟแล้วหลับ
แล้วเบนซ์ทำยังไง ?
มิค : ลูกมาดูนี่ซิแม่เพิ่งได้พัสดุมา มาเปิดเล่นกันมั้ย มันไม่ใช่เวลาไง มันเป็นเวลาที่ลูกควรจะต้องนอน
เบนซ์ : ไม่ได้ทุกวัน (หัวเราะ)
พี่เบนซ์ยอมรับมั้ยว่าผิดเรื่องนี้ ?
เบนซ์ : ยอมรับตลอดเลยอาจารย์ ยอมรับแต่แก้ไม่ได้ ต้องคอยให้พ่อมาดุเรื่อยๆ พีมิคจะเป็นคนคอยตามคอยตบให้เข้าระเบียบ เหมือนพ่อจะเป็นผู้ดุร้าย ถ้าพูดเป็นละครพ่อก็จะเป็นตัวร้าย ส่วนแม่ก็จะทำคะแนนกลัวลุกไม่รัก
แสดงว่าบ้านนี้ไม่ว่าสถานการณ์อะไรจะต้องมีตัวร้าย 1 คนเสมอ ?
มิค : ผมไม่เคยขอหน้าที่นั้นอาจารย์เห็นอยู่ ผมำม่เคยอยากได้ตำแหน่งนั้น ไม่กินข้าวเดี๋ยวฟ้องพ่อนะ พ่อยังไม่รู้เรื่องเลย พ่อไม่ได้เกี่ยว
3 แสบเป็นยังไงถ้าไปโบ้ยให้พ่อเป็นตัวร้าย ?
มิค : มันจะรีบทำทันที พ่อแค่เสียงดัง แต่ที่พ่อเสียงดังคือพ่อหยุดทั้งเบนซ์และคนอื่นในบ้านด้วย ว่าทำไมปล่อยให้ลูกทำอะไรไม่เป็นวินัยเลย วันก่อนเพิ่งเกิดเรื่องอันนี้ใหม่เลย คือผมดุเพราะดึกมากแล้วไม่ยอมนอน ก็กอดคอคุยกับลูกบนเตียง พอเราเดินไปจะดุหน้าปริมผสมความกลัวและเกลียดในเวลาเดียวกัน
เบนซ์ : เค้าไม่เกลียดหรอก
มิค : นั่นคือความรู้สึกของมิคหนูไม่เคยได้ความรู้สึกนั้น ไปถึงปั๊ปผมช็อคเลยนะ ผมเลยปฎิญาณตนว่าต่อไปนี้เราไม่ดุดีมั้ยเราอยากได้โมเม้นท์ที่เค้ามี ลูกจะเละยังไงก็ช่างแล้ว (อันนี้งอน) อันนี้งอนจริง ทำไมเราต้องเป็นตัวร้ายเพราะมันคือสิ่งที่แม่ควรทำแต่แม่ไม่ได้ทำ แม่กอดลูกพอเราเข้าไปสิ่งที่เราเห็นแม่ก็จะบอกว่าลูกไม่ได้มองพ่อแบบนั้น นั่นคือความรู้สึกเราที่เราได้มาบ่อยมาก แต่เค้าไม่เคยได้เค้าเลยไม่รู้ ผ่านไปแค่สองชั่วโมงกลับมาเป็นเหมือนเดิม เพราะถ้าปล่อยไปคือเละ
- ‘ณิชา ณัฏฐณิชา’ โพสต์แล้วภาพที่ทะเล อ่านแคปชั่นเด็ดมาก
- หม่ำ จ๊กมก ทำอาหาร มอบเงินช่วยเหลือ ญาติผู้ประสบภัยตึก สตง.ถล่ม
- กรี๊ดด! แจ็คสัน หวัง รันวงการตลก บุก หกฉากครับจารย์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- แห่ห่วง! ก้อง ห้วยไร่ ยกเลิกงานกะทันหัน ต้องพักรักษาตัวฉุกเฉิน
- เบียร์ เดอะวอยซ์ เปิดพจนานุกรมคำว่า ‘สาวมั่น’ ฉบับตัวเอง
- พรีม รณิดา ถ่ายทอดความดราม่าโดนใจ ส่ง เหนือพรหมลิขิต!
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yx