เปิดใจ 2 ดาราดัง ลูกหมี รัศมี – ปู มัณฑนา เผชิญหน้ากันครั้งแรกในศาล ตามศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง ครั้งที่ 2
ที่ศาลแขวงพระนครใต้ ลูกหมี รัศมี ได้เดินทางมาพร้อม ทนายเดชา และ ทนายกุ้ง ตามศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง ครั้งที่ 2 หลังเป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยลูกหนี้ ปู มัณฑนา ในข้อหาฉ้อโกง และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 หลังเจรจาไกล่เกลี่ยขอเงินจำนวน 2 ล้านบาทคืน แต่ไม่สำเร็จ
- นุ๊ก สุทธิดา ไม่ยึดติดต้องตายเพราะมะเร็ง เผยคำพูดจุกอก ของลูกชายคนเล็ก
- ‘กามิน’ เตรียมบินมาไทย เพื่อพิสูจน์ความจริง กอบกู้ศักดิ์ศรีและเกียรติลูกผู้หญิง
- เส้นทางกว่า 27 ปี ก่อนประกาศยุติรายการ ตีสิบ
เปิดใจ 2 ดาราดัง ลูกหมี รัศมี – ปู มัณฑนา เผชิญหน้ากันครั้งแรกในศาล
โดยทางด้าน ลูกหมี รัศมี พร้อม ทนายเดชา ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมเผยถึงแนวโน้มที่เกิดขึ้น ทนายเดชา กล่าวว่า วันนี้ทางจำเลยคุณปูเขามา สามีมาด้วย และทนายความมา 3 คน เขาใช้ทนายความหลายคน ทนายประมาณ และทนายกิ่ง ลูกสาว ส่วนฝ่ายนี้มีคุณลูกหมีเป็นโจทก์ ทนายกุ้ง ผม และน้องอ้อมมาด้วยซึ่งเป็นผู้เสียหายอีกราย
ผลการไต่สวนครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
ทนายเดชา : ช่วงเช้าสืบคุณลูกหมีไปแล้ว จบคำซักถาม ส่วนใหญ่จะวนไปวนมาเรื่องรับเช็คมายังไง ได้ผลตอบแทนเท่าไหร่ จ่ายเช็คหรือยัง เอาเช็คไปขึ้นมั้ย ทำนองนี้วนไปวนมาเรื่องนี้ และก็เป็นเรื่องกู้ยืมดอกเบี้ยผิดกฎหมายมั้ย ทางนี้ก็ยืนยันว่าลงทุนประมาณนี้ครับ
แนวทางคดีแนวโน้มในวันนี้เป็นผลดีกับใคร?
ทนายเดชา : ก็น่าจะเป็นของคุณลูกหมี เพราะว่าแกทำบุญไว้เยอะ บาปไม่ค่อยได้ทำ ส่วนใหญ่ทำแต่บุญ ผมคิดว่าน่าจะได้รับผลบุญ ที่คิดว่ามันเข้าทางเราเพราะว่าพยานหลักฐานมันชัดเจน อย่างแชตสนทนามันมีการคุยแต่เรื่องลงทุน กำไรแบ่งปันชัดเจน มันไม่มีเรื่องกู้ยืมเงิน สัญญากู้มันก็มาภายหลังจากที่ไม่ได้คืนเงิน ก็ชัดเจนว่าเป็นเรื่องการลงทุน แล้วเรื่องผลตอบแทนชัดเจน ไม่ใช่เรื่องกู้ยืม
ทางนั้นบอกว่าจะมีอะไรพลิก?
ทนายเดชา : พลิกที่คดีหรือลิ้นเราไม่แน่ใจอันนี้ไม่รู้ ไม่มีอะไรพลิกนะ แต่ว่าสิ่งที่แสดงถึงความมั่นใจก็คือคุณปูมา แสดงว่าแกก็อาจจะคุยกับพี่ประมาณว่างานนี้ชนะแน่หรือเปล่า แกเลยมา ปกติจำเลยเขาไม่มานะในชั้นไต่สวน
การที่ปูมาวันนี้ ทางเรามีความหวั่นใจมั้ย?
ทนายเดชา : ทางคุณลูกหมีน่าจะสบายใจนะว่าเขายังอยู่
ลูกหมี : สบายใจค่ะว่ายังมีชีวิตอยู่ สบายใจว่าพี่เขายังใช้ชีวิตอยู่สุขสบาย ก็ดีใจกับพี่เขาด้วย หน้าตาสดชื่นสวย
คิดว่าจะจบภายในวันนี้มั้ย?
ทนายเดชา : ยังหรอกครับ ซักนาน
บรรยากาศมาคุมั้ย?
ลูกหมี : บรรยากาศเป็นไปได้ด้วยดี ก็เบิกความลูกหมีก่อน เขาก็ถามเรื่องตั้งแต่ต้นว่าเจอเขายังไง เราก็เล่าไปว่ามีพี่ผู้ชายคนหนึ่งแนะนำให้รู้จัก ไปเจอกันในสนามกอล์ฟ แล้วก็มีการปาร์ตี้กินเลี้ยงต่อ เราก็กลับก่อน เขาก็อยู่ต่อ มีการแลกไลน์กัน แล้วหลังจากนั้นอีก 2-3 วันเขาก็โทรมาชักชวนลงทุน เราก็พูดความจริงทั้งหมดว่าเขาชักชวนเราลงทุนทำธุรกิจกระเป๋า เขาก็ลงทุนในธุรกิจนี้ด้วย เขาก็ได้ผลตอบแทนดี กำไรดี เชื่อพี่เถอะ อยากให้ลูกหมีสบาย อยากให้เอาเงินมาเลี้ยงพ่อแม่ เลี้ยงน้องหมา
ทนายเดชา : ตอนนี้เชื่อเขามั้ย
ลูกหมี : ตอนนี้ก็ไม่เชื่อแล้ว เพราะว่าเราดูเส้นทางการเงินแล้ว เงินที่เราโอนไปมันออกไปแบบ สองนาทีออกแล้ว ห้านาทีเงินออก เงินโอนไปหาอ้อม โอนไปหาโทนี่ ไปหาเพื่อนเขาต่างๆ พวกนั้นก็เป็นผู้เสียหาย คือเราดูเส้นทางการเงินแล้วว่าเงินที่เราโอนไปมันไม่มียอดไหนเลยที่โอนไปลงทุนทำธุรกิจที่มันเป็นยอดเดียวกัน ถ้าเราโอนไป 95,000 เขาก็ต้องโอน 95,000 ไปทำธุรกิจ ถ้าเราโอนไป 145,000 เขาก็ต้องโอนไป 145,000
แต่เส้นทางเงินพอเราโอนไป เขาโอนไปให้ครอบครัว ให้ลูก ให้ผู้เสียหายต่าง ๆ และในเส้นทางการเงินน่าจะมีผู้เสียหายท่านอื่นๆ ที่ไม่ออกมาอีกเยอะ เพราะว่าลักษณะการโอนเงินกับการที่เขารับเงิน คือผู้เสียหายท่านอื่นโอนมาเป็นก้อน โอนทีละ 2 แสน 3 แสน แต่เวลาเขาโอนกลับไปก็เป็นลักษณะดาวกระจาย วันเดียวก็เหลือหลักสิบบาท เป็นเหมือนเงินหมุนแล้วก็เงินให้คนอื่นไปใช้หนี้ เพราะเราคิดว่าเป็นเงินที่เอาไปใช้หนี้คนอื่น เพราะคนปกติเราได้เงินมาค่าสอนเดินแบบ เงินเรามีแต่เพิ่มขึ้นทุก ๆ วัน โอนออกก็แค่ค่าน้ำค่าไฟ ให้คุณพ่อคุณแม่
มั่นใจมั้ยว่าทิศทางคดีจะส่งผลดีกับเรา?
ลูกหมี : ทิศทางมันก็ต้องเป็นของเรา เพราะว่าเงินเราโอนออกไป เราพูดความจริงต่อศาลท่าน และเราก็สาบานตนเราพูดความจริงเป็นสิ่งที่ดี เราก็คิดว่าเราน่าจะมีความเจริญ คนที่พูดไม่จริงผลกรรมมันก็ต้องได้รับตามนั้นด้วย แล้วหลักฐานเราก็พร้อม ในแชตไลน์ที่คุยมันก็มีแต่คำว่าลูกค้าๆ กำไรๆ กระเป๋าลง ๆ ก็ชักชวนเราทุกครั้ง แล้วการที่เขาโทรหาเราทุกครั้ง คือการโทรมาเอาเงินจากเรา โทรมาชวนเราลงทุน เราไม่เคยเสนอหน้าอยากจะไปลงทุน แต่เขาโทรมาเราก็ตอบรับเพราะเขาให้ผลตอบแทนเราที่สูงค่ะ
ที่เจอหน้ากันวันนี้มีอารมณ์โกรธมั้ย?
ลูกหมี : วันนี้ที่เจอหน้ากันในใจก็ดีใจที่เขายังอยู่
สิ่งที่เขาพูดข้างในศาลตรงกับความเป็นจริงมั้ย?
ลูกหมี : วันนี้เบิกความเป็นลูกหมีอย่างเดียวค่ะ เขาก็ยังไม่ได้พูดอะไร แต่ทนายฝั่งจำเลยก็ซักไซ้ประมาณว่า ธุรกิจเช่น วีอาร์โมเดล มันก็จะมีทั้งกำไรและขาดทุน เขาก็พูดประมาณว่าการสั่งจ่ายเช็ค เราได้เงินต้นกลับมาหรือยังหรือว่ามีดอกเบี้ยในก้อนนี้ต่างๆ อยู่หรือไม่ แต่ว่ามันจะตอบยากนิดนึง เพราะเช็คที่เขาตีมาทั้งหมด 10 ใบด้วยกัน เวลาเขาถามทีละใบ แล้วมันก็จะยากในการตอบนิดนึง แต่เราก็ยืนหยัดตรงที่ว่าเช็ค 2 ล้าน ถ้าคนเราติดหนี้เรา 2 ล้านแล้วเขาจะมาเขียนเช็คให้เราทำไม แล้วจะทำสัญญากู้ใช้ชำระหนี้เราให้เราทำไม ประเด็นมันก็อยู่ตรงแค่นี้ค่ะ แต่เขาก็จะพยายามดึงไปด้านโน้นด้านนี้ให้มันเป็นเรื่องอื่นไป
คิดว่าเป้าหมายเขาสู้เพื่อให้ตัวเองไม่ต้องใช้หนี้ หรือสู้เพื่อให้ได้ยอดเงินตามที่เขาสะดวกจะจ่าย?
ลูกหมี : เราไม่ทราบเป้าหมายเขานะคะ แต่เป้าหมายของเราคือทำไมมีผู้เสียหายจำนวนมากเกิดขึ้นแบบลูกหมี แต่ว่าการชักชวนลงทุนท่านอื่นก็เป็นเรื่องของ ATK เรื่องของของเล่นเด็ก เรื่องต่างๆ ซึ่งอย่างคุณอ้อมก็โดนลักษณะเดียวกัน แล้วเงินที่ลูกหมีโอนไปก็มีโอนให้คุณอ้อมในหลาย ๆ ยอด ซึ่งเส้นทางการเงินก็ไปโอนให้ใช้หนี้ผู้เสียหายอย่างคุณอ้อมยกตัวอย่างค่ะ
แสดงว่าวันนี้ไม่น่าจบ?
ลูกหมี : วันนี้ไม่น่าจบค่ะ เพราะว่าทนายฝั่งนู้นเขาซักถามค่อนข้างเยอะค่ะ
คุณอ้อมมาในฐานะ?
อ้อม : เป็นพยานค่ะ ของอ้อมขึ้นศาลวันที่ 18 พ.ย. ฟ้องข้อหาฉ้อโกงค่ะ
ทนายเดชา : ถ้าไม่จบวันนี้ก็มีไต่สวนต่อ ไต่สวนได้ไม่จำกัด ทางคุณอ้อมก็เป็นพยานยืนยันว่ามีลักษณะวิธีการคล้าย ๆ กัน ของคุณอ้อมโดนเท่าไหร่”
อ้อม : 1 ล้าน 1 แสน
ลูกหมี : ลูกหมีก็ต้องขอพูดไว้ตรงนี้ว่าผู้เสียหายทุกท่านที่ไม่ได้ออกตัวก็ดีแล้วก็ออกตัวก็ดี ในเจตนาของลูกหมีอยากให้ผู้เสียหายทุกท่านได้เงินคืน คนที่กระทำความผิดอยากให้เขาคืนเงินผู้เสียหายเพราะพวกเรามีความเดือดร้อน เงินที่พวกเราหามาเราทำงานกันจริงๆ ไม่ใช่ว่าเราสุขสบาย ก็อยากให้จำเลยหรือว่าคนที่เอาเงินไป มีสำนึกตรงนี้ด้วยว่าเอาเงินเราไปก็คืนเรามา ไม่ใช่บิดประเด็น
ฟ้องข้อหาฉ้อโกง ในใจเราอยากจะดำเนินคดีสำเร็จโทษยังไง?
ลูกหมี : ในใจเราตั้งต้นก็อยากได้เงินคืนเพราะเรามีความเดือดร้อนที่ต้องใช้เงินจริงๆ แต่ถ้าเกิดเราได้เงินช้า เราก็รอได้ อีกส่วนหนึ่งจริงๆ เลยถ้าคนทำผิดเราก็อยากให้ติดคุก เพื่อเป็นการทำโทษ เผื่อเขาจะเปลี่ยนสันดานของเขาบ้าง
เขาบอกว่าจะมีอะไรพลิกวันนี้ เราตั้งรับยังไง?
ทนายกุ้ง : น่าจะพลิกลิ้นมากกว่ามั้ย
ลูกหมี : หรือว่าเดินขาพลิก (ยิ้ม)
ทนายเดชา : ไม่เห็นมีอะไรพลิกเลย
ไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ใหม่สำหรับฝั่งเรา?
ทนายกุ้ง : ไม่มีค่ะ ส่วนใหญ่เป็นเอกสารเราทั้งหมด
ทนายเดชา : เซอร์ไพรส์ที่มาทั้งผัวทั้งเมีย นาน ๆ เราจะเห็นจำเลยมาทั้งผัวทั้งเมีย มาแบบครอบครัว ลูกก็มาด้วย
ลูกหมี : ของลูกหมีที่เซอร์ไพรส์ก็มีหลักฐานเพิ่มเติมที่ส่งให้ทางศาล ก็เป็นคดีใหญ่ยอดเงินสูง ก็เซอร์ไพรส์ที่ว่าลูกหมีตัดสินใจเอาเอกสารชุดนี้ยื่นให้ศาล ลูกหมีก็ขอบอกเลยว่าผู้เสียหาย กราบตรงนี้เลยว่าที่ลูกหมีเอาเอกสารมาอยากให้ผู้เสียหายได้เงินคืน ไม่ต้องกลัวเขาค่ะ เขาเอาเงินเราไป ครอบครัวพี่ที่เดือดร้อนก็เดือดร้อนทั้งครอบครัวจริงๆ ซึ่งลูกหมีได้เอกสารที่เขามอบอำนาจมาให้หลายราย อันนี้จะเซอร์ไพรส์มากกว่าที่เอกสารเพิ่มค่ะ
และทางด้าน ปู มัณฑนา เดินทางมาพร้อมกับสามี หาญส์ ภักดีหาญส์ หิมะทองคำ, พร้อมด้วย ทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช และทนายกิ่ง ศิริญญ์รดา พร้อมกับเปิดใจกับสื่อมวลชนด้วยเช่นกัน
ทนายประมาณ : ไต่สวนครั้งที่ 2 วันนี้ก็ไต่สวนลูกหมีตั้งแต่เช้าเลยครับ มีการสืบพยานโดยการเบิกความตอบทนายโจทก์ก่อน เสร็จแล้วก็เป็นเรื่องทนายจำเลยถามค้าน ผมก็เริ่มถามค้านลูกหมีตั้งแต่เวลาประมาณ 10 โมงเศษ
สิ่งที่ซักจากเขามีอะไรบ้าง?
ทนายประมาณ : “ตอนนี้ว่าความคัดค้านมาถึงตรงที่ว่าเขาบอกเขาเอาเงินไปร่วมลงทุน ได้ค่าตอบแทนลงทุน 1-2 วัน ได้แค่ตอบแทน 5-10% เช่นลงทุน 9 หมื่น เขาจะได้ค่าตอบแทนเป็นหมื่นนึง แสนนึง คือเงินค่าตอบแทนเขาก็ได้รับจากคุณปูหมดแล้ว ก็มีก้อนใหญ่บางก้อนที่บอกว่าลงทุน 3 เดือน ตอนนี้ก้อนแรกวันที่ 1 ต.ค. ปี 2566 ว่าเขาลงทุน 8.5 แสน เสร็จแล้วก็ต้องจ่ายให้เขาอีก 1.5 แสน เป็น 1 ล้าน ภายในวันที่ 1 ม.ค. ปี 2567
พอหลังจากนั้นคุณลูกหมีก็บอกว่ายังไม่ได้จ่ายเขา เขียนเช็คเปล่า ๆ มาให้เขา วันที่ 31 ม.ค. ปี 2567 ก็ยังเรียกเก็บไม่ได้ ก็ยังไม่ได้จ่าย เงินจำนวนนี้ 1 ล้านบาทก็เลยไปรวมอยู่ใน 2 ล้านบาท ที่บอกว่าเป็นคดี เขาก็เลยบอกว่าสรุปแล้วต้นเดือนมีนาคมที่คุณให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า คุณปูไปยืมเงินคุณ 2 ล้าน แล้วมีการทำสัญญากู้เขียนเช็ค ตกลงไม่มีการยืมเงินนะ ก็คือไม่มี มันมาจากมูลหนี้เดิมที่มี 8.5 แสน แล้วก็ดอกอีก 1.5 แสน ก็รวมเป็น 1 ล้าน ที่ว่ารวมใน 2 ล้าน แต่ 1 ล้านหลังนี่มันมาจากไหน เป็นคำที่จะถามค้านต่อไปครับ
พี่หาญส์บอกว่าวันนี้จะมีอะไรพลิก?
ทนายประมาณ : พลิกที่ว่าคือเป็นข้อเท็จจริงในข้อกฎหมาย 1. มันพลิกไปจากที่คุณลูกหมีเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนต่าง ๆ 2. ในข้อกฎหมายมันก็พลิกในแง่ความผิด มันไม่ใช่ความผิดตามพ.ร.บ.เช็ค ไม่ใช่ความผิดฐานฉ้อโกง คำว่าพลิกมันมีทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
วันนี้มีอะไรหนักใจมั้ย?
ทนายประมาณ : ไม่มีอะไรหนักใจครับ ก็เห็นบอกว่าตอนบ่ายนี้มีคุณอ้อมอีกคนนึง ผมก็รอจะถามค้านคุณอ้อมว่าคุณอ้อมถูกหลอก ถูกโกงยังไง แบบไหน และได้รับชำระหนี้ไปแล้วเท่าไหร่ยังไง พร้อมอยู่แล้วครับ
คุณอ้อมมาเป็นพยานให้ฝั่งลูกหมีมันจะมีผลอะไรกับเรามั้ย?
ทนายประมาณ : ไม่มีผลทำให้รูปคดีเปลี่ยนแปลงไปครับ ไม่มีผลครับ ไม่มีอะไรน่าหนักใจ
วันนี้ได้มีโอกาสเจอหน้าลูกหมีครั้งแรกตอนขึ้นศาลเป็นยังไง?
ปู : วันนี้ก็ดีค่ะ ดีใจด้วยที่ได้มาวันนี้ เพราะว่าได้มาฟังว่าอะไรเรื่องจริง อันไหนเรื่องไม่จริงค่ะ
เหตุผลที่อยากมาวันนี้เพราะอะไร?
ปู : อยากมาฟังด้วยตัวเองด้วยค่ะ ว่าในสิ่งที่มันเป็นเรื่องของคนสองคน เขาจะพูดว่ายังไง จริง ๆ มันเป็นเรื่องของคนสองคนอยู่แล้ว แต่เขาเลือกที่จะใช้วิธีนี้ ซึ่งเขารู้ดีอยู่แล้วว่าเขาจะทำแบบนี้เพื่ออะไร จริง ๆ เรื่องราวมันจะไม่บานปลายเลยถ้าเราคุยกันดี ๆ
วันนี้เราก็ดูมีความสุข?
ปู : มีความสุขค่ะ เพราะว่าเราไม่ได้ผิดอะไร และเอกสารหลักฐานทุกอย่างก็ส่งให้ทั้งอาจารย์ประมาณและทนายกิ่งหมดแล้วค่ะ
บรรยากาศในห้องมาคุมั้ย?
ปู : ไม่ค่ะ (หัวเราะ) ปูก็ไม่ได้อะไร เฉย ๆ เขาก็เฉย ๆ
แสดงว่าก็สามารถมองหน้ากันได้ ได้คุยกันมั้ย?
ปู : ไม่ได้คุยค่ะ
วันนี้พี่หาญส์มาด้วย?
หาญส์ : ก็มาเป็นกำลังใจให้ครับ เพราะอยากจะมาฟังด้วยเหมือนกันว่าทางด้านของโจทก์เขาจะพูดอะไรยังไงบ้าง และทางด้านอาจารย์ประมาณก็ได้ซักไปค่อนข้างเยอะแล้ว และเดี๋ยวก็จะซักต่อหลังจากนี้ เพราะฉะนั้นเราะจะได้เห็นอะไรที่มันไม่ถูกต้องชัดๆ ก็จะค่อยๆ ชัดขึ้นไปเรื่อย ๆ ถ้าวันนี้จบได้ก็ดี แต่ถ้าไม่ได้ก็คงต้องมีครั้งต่อไป ก็จะชัดขึ้นไปเรื่อย ๆ ครับ
อย่างที่ผมเคยพูดตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่ว่าจะเป็นมูลหนี้ก็ดี หรือในเรื่องอย่างอื่น ๆ ที่เขาเคยให้สัมภาษณ์ออกสื่อไปแล้ว มันจริงตามนั้นหรือไม่ มันจะปรากฏให้เห็นเลย อันนี้ก็ขอพี่น้องประชาชนช่วยติดตามเป็นกำลังใจให้ด้วยแล้วกันนะครับ เพราะความจริงมันยังไม่ปรากฏก็อย่าเพิ่งไปฟังข่าวหรือไปฟังฝ่ายไหนที่เขาพูดออกมา แล้วก็ทัวร์มาลงเรากันเต็มที่เลย
เราก็อยากจะให้เคลียร์ตรงนี้ไป และขอกำลังใจคนที่เป็นแฟนคลับเราก็ยังมีอยู่เยอะนะครับ ก็ให้กำลังใจมาพอสมควร หลายท่านก็จะทัวร์ลงอีกก็ขอให้เบา ๆ หน่อยก็แล้วกันครับ ช่วยเป็นกำลังใจและดูข้อเท็จจริงสักนิดนึง จะได้ทราบกัน
น้ำหนักเหมือนจะเข้าข้างอีกฝั่งมากกว่า ส่งผลกับความมั่นใจของเรามั้ย?
ทนายประมาณ : ถ้าบอกว่าเพราะทัวร์มาลงทางเรามากกว่า เพราะทัวร์เขาไม่รู้ข้อเท็จจริงไงครับ เขาฟังคำพูดจากทางคุณทนายกุ้ง คุณทนายเดชา และฟังคำพูดจากคุณลูกหมีแล้วมันไม่ใช่ความจริง ทัวร์ก็มาลงเรา แต่วันนี้เรามาว่าความในศาล ถ้าเราพูดในสิ่งที่ไม่ใช่ความจริงมันก็ผิดฐานเบิกความเท็จครับ ไม่ได้มีหนักใจนะครับว่าทัวร์น้ำหนักมาอยู่ฝั่งเรา ผมไม่ถือว่าเป็นน้ำหนัก ผมถือว่าเป็นกระแสที่มีการสร้างขึ้นมา สร้างเรื่องขึ้นมาให้เกลียดทางพวกเรา ผมไม่ได้แคร์เรื่องนี้เลย
ในส่วนของปูต้องขึ้นเบิกความพูดไต่สวนมั้ย?
ทนายประมาณ : ยังไม่ต้องครับ ยังไม่มีสิทธิขึ้นพูดครับ เป็นจำเลยที่ยังไม่อยู่ในฐานะจำเลย
ขั้นตอนต่อไปต้องยังไง?
ทนายประมาณ : หลังจากไต่สวนมูลฟ้องเสร็จเรียบร้อย ศาลก็จะมีคำสั่งว่าคดีมีมูลหรือเปล่า คือถ้าคดีไม่มีมูลก็ยกฟ้องไปเลย แต่ถ้าคดีมีมูล หมายความว่าคดีมันมีความเป็นไปได้ เขาก็จะประทับฟ้องไว้และไปสู้คดีกัน ตอนนี้คุณปูต้องมาพูดแล้ว เอาหลักฐานมาว่ากัน แต่ตอนนี้เรายังไม่มีโอกาสไปสู้เต็มที่ เพราะมันยังแค่ไต่สวนมูลฟ้องว่าคดีมีมูลหรือเปล่า
คิดว่าผลน่าจะออกมาเป็นยังไง?
ทนายประมาณ : “ถ้าตามรูปคดี ผมว่าน่าจะยกฟ้องครับ ผมไม่ได้ชี้นำอะไรนะครับ แต่ตามความเห็นผมว่าถ้าตามเนื้อผ้าของเรื่องแล้ว และข้อกฎหมายก็น่าจะยกฟ้องครับ แต่ยังไม่จบวันนี้ครับ”
ถ้ายกฟ้อง ผลที่จะตามมาจะเกิดอะไรขึ้น?
ทนายประมาณ : โจทก์ก็จะตัดสินใจอุทธรณ์หรือเปล่า และสิ่งที่โจทก์ทำมาก็จะกลายเป็นเรื่องฟ้องเท็จ เรื่องเบิกความเท็จอะไรจิปาถะ
แสดงว่าทางเขาก็มีสิทธิในการอุทธรณ์?
ทนายประมาณ : ก็อุทธรณ์ได้ แต่ต้องมีคำสั่งศาลให้เขาอุทธรณ์นะ ถ้าศาลไม่มีคำสั่งเขาก็อุทธรณ์ไม่ได้
วันนี้เราสบายใจขึ้นยังไงบ้าง?
ปู : สบายใจมากเลยค่ะ วันนี้ก็เพิ่งได้เห็นทนายโซเชียล ทนายกระแส เวลาอยู่ต่อหน้าสื่อจะพูดอีกแบบนึง แต่ว่าเวลาอยู่ต่อหน้าศาลเงียบกริบค่ะ
หมายถึงทนายเดชาเหรอ?
ปู : ก็ทั้งคู่ค่ะ
ที่เขาเงียบคิดว่าเพราะอะไร?
ปู : อันนี้พูดได้เยอะหรือเปล่าไม่แน่ใจ เพราะว่าศาลท่านก็ไม่ได้บอกให้บอก
ทนาย : ไม่ต้องพูดก็ได้ครับ คืออาจจะเป็นคนละภาพกับที่เห็นในโซเชียลแหละครับ
หมายถึงความฟาดฟัน ความเกรี้ยวกราดเหรอ?
ทนายประมาณ : อะไรประมาณนั้นแหละครับ
แต่ตอนนี้เราสบายใจขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ป่วยเข้าโรงพยาบาล?
ปู : ตอนนั้นเครียดจริง ๆ เพราะปูไม่เคยมีข่าวเสียหาย พอเขามาทำแบบนี้ เขารู้อยู่แล้วว่าเขาตั้งใจทำอะไรกับเรา แต่ตอนนี้แข็งแรงขึ้น มีภูมิต้านทานขึ้นแล้ว
เราต้องการจบแบบไหน คิดว่าจะคืนเงินเขายังไง?
ปู : มูลหนี้ที่แท้จริงมันไม่ใช่ยอดที่เขาแจ้งค่ะ ไม่ใช่ยอด 2 ล้าน ก็ต้องรอศาลท่านตัดสิน
ยืนยันว่าเป็นหนี้ก็ต้องใช้?
ปู : ถูกต้องค่ะ ไม่เคยบอกเลยว่าเป็นหนี้ไม่ใช้ บอกเสมอว่าเป็นหนี้ต้องใช้ แต่มูลหนี้ที่เขาแจ้งมันไม่ถูกต้อง
ที่ต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่ว่าสู้เพื่อจะไม่ใช้หนี้?
ปู : ไม่ใช่ค่ะ
ทนายประมาณ : ทางเราโดนทำลายชื่อเสียงจนเลยเถิดล้ำเส้นคือการต่อสู้คดีครั้งนี้ก็เพื่อแสวงหาความถูกต้อง ขอความยุติธรรมให้กับตนเองและครอบครัวเขา
- ทนายดังอัปเดตล่าสุด เรื่องประกันตัว 18 บอสดิไอคอนกรุ๊ป
- ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ตอบสเตตัส เจษ แฮปปี้ชีวิตโสด รักตัวเองแล้วมีความสุข
- ‘กรรชัย’ บอก ‘ทนายธรรมราช’ มาเดี่ยว ๆ แบบลูกผู้ชาย อย่าไปเล่นคนรอบข้าง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เบลล่า ราณี เล่าโมเมนต์พา วิล รู้จักหลาน ลุ้นฝ่ายชายร่วมทำบุญที่ญี่ปุ่น
- ‘คุณยายมารศรี’ สดใสแข็งแรง ศิลปิน 5 แผ่นดิน อายุครบ 104 ปีแล้ว
- ภาพล่าสุด ‘แพทริเซีย’ ว่าที่คุณแม่ลูก 2 ท้องเริ่มใหญ่แล้ว สวยเป๊ะมาก
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yx