หนิง ปณิตา พูดสถานะอดีตสามี ยินดีอีกฝ่ายมีรักใหม่ เผยข้อแม้ที่ไม่อยากให้ทำ

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 23 เมษายน 2567

หนิง ปณิตา พูดสถานะอดีตสามี ยังเป็นเพื่อนที่ดี แล้วก็ยังเป็นพ่อของลูก ยินดีอีกฝ่ายมีรักใหม่ เผยข้อแม้ที่ไม่อยากให้ทำ นั่นก็คือการข้ามเส้น

หลายคนก็ขอส่งกำลังใจให้กับนักแสดง-ผู้จัดละคร หญิง ปณิตา พัฒนาหิรัญ ที่ตอนนี้ก็กลับมาใช้สถานะโสดอีกครั้ง ปิดฉากรักสามีนักธุรกิจ หลังจากที่ได้ครองรักกันมาอย่างยาวนานกว่า 11 ปี ตอนนี้ก็เดินหน้าทำงาน ดูแลลูกสาวอย่างเต็มที่

หนิง ปณิตา พูดสถานะอดีตสามี ยินดีอีกฝ่ายมีรักใหม่ เผยข้อแม้ที่ไม่อยากให้ทำ

ล่าสุด (22 เม.ย.) หนิง ปณิตา ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอีกครั้ง พร้อมย้อนเล่านาทีอดีตสามีเดินมาขอหย่า? “จริง ๆ ก็เหมือนกับที่ให้สัมภาษณ์ไปในรายการ คลับฟรายเดย์ ทางรายการขอคิวมานานมากแล้ว แต่หนิงก็บอกว่าขอออกในวันที่เราพร้อมที่จะพูด

พอเวลามันผ่านไปเราก็มองว่ากลายเป็นเรื่องที่ชิลมาก ๆ แล้วเชื่อว่าชีวิตเรามันมีปัญหาทุกคนแหละ แต่พอเราผ่านปัญหาตรงนั้นมาได้ เรายอมรับได้ว่าถ้าเรายอมรับกับมัน มันจะเบาลง แต่ถ้าดึงไว้ก็จะเป็นทุกข์

วินาทีนั้นถามว่าช็อกมั้ย เชื่อว่าผู้หญิงทุกคนไม่มีใครไม่ช็อก แต่ก็ต้องยอมรับ แล้วก็บอกว่าตัวเราเองมีค่ามีศักดิ์ศรี ถ้าไปถึงเบอร์นั้นก็ได้สิ เพราะวันที่เราไม่มีเขาเรายังไหว ถามว่าแล้วถ้าวันนี้เรามีเขาแต่เราทุกข์มากกว่าเป็นสุขก็เลือกที่จะไม่มีดีกว่า”

ถ้าเขาไม่ได้เป็นเดินมาขอหย่า ใจเราไม่ได้อยากหย่าใช่ไหม?
ไม่เคยมีความคิดเรื่องหย่าอยู่ในหัวเลย เราถูกเลี้ยงมาค่อนข้างโบราณ ๆ นิดหนึ่ง ความเป็นครอบครัวก็ยังต้องประคับประคองกัน เชื่อว่าทุกครอบครัวไม่เลี้ยงโบราณ คนเราคบกันไม่ไหวจะสถานะไหนมันก็กระทบกัน มันค่อน ๆ ปรับกัน ถ้าปรับได้มันก็ดี ภาพของการที่ผู้ชายเดินมาขอหย่าเราจึงไม่เคยคิดมาก่อนเลย แต่หมอดูทักเยอะมาก อ.เป็นหนึ่ง อ.ลักษณ์ ก็เคยทักเรื่องนี้ แล้วเราก็แอนตี้บอกกับหมอดูว่าดูไม่แม่นหรอก

เพราะว่าผู้หญิงอย่างเรามีความอดทนค่อนข้างสูงมาก ๆ มั่นใจว่ายังไงก็ไม่หย่าแน่ ๆ เพราะหนิงบอกเลยว่าในเมื่อเราตัดสินใจว่าจะแต่งงาน ยิ่งโดยเฉพาะเรามีลูก เราต้องการให้ลูกเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ และก็คิดว่าไม่แน่ ๆ

สภาพจิตใจตอนนั้น?
ปฏิเสธไม่ได้ว่าวันนั้นเศร้า ต้องบอกว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 12 ปี เราเองก็ปรับตัวจนรู้สึกว่าปรับถึงที่สุดแล้วเหมือนกัน แล้วหนิงก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเกิดข้อบกพร่อง เพราะที่ผ่านมาเวลามีเรื่องทุกครั้งเราจะมองข้อบกพร่องที่ตัวเองก่อนและจะแก้ไขก่อน

พอจนถึงวันนั้นเหมือนมันซ้อมมาหลายรอบแล้วจนถึงจุด ๆ หนึ่ง เสียใจเศร้าแล้วก็รู้สึกแย่แค่ว่าแม่คนนี้ทำหน้าที่แม่ที่สมบูรณ์ในการรักษาครอบครัวให้ลูกไม่ได้ แต่คำเดียวที่คิดคือหนิงมีค่า มีศักดิ์ศรี ทำให้ลูกรู้ว่าความไม่สมบูรณ์ แต่ทำให้สมบูรณ์ได้ด้วยตัวเรา

มีคนบอกว่าตัวเองตรงเกินไป ดูรุนแรงด้วย ภาพที่เคยเห็นในละครก็เป็นส่วนใหญ่ เป็นแบบนั้นก็ยอมรับเป็นแบบนั้น แต่มันมีปัจจัยหลายอย่างว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น มันมีที่มา แต่เมื่อตัวเราไม่อยากให้ใครว่า ถ้าเราปรับได้ มันดีขึ้นกับเราไหม มันดีขึ้นกับตัวเรามีความเย็นลง ใครก็อยากอยู่ใกล้เรา ถ้าปรับดีขึ้นก็ปรับ

ปรับจนไม่เป็นตัวเองเลยไหม?
สำหรับหนิงไม่รู้สึกอย่างนั้น แต่รู้สึกว่ามันเป็นเราในเวอร์ชั่นที่เราคิดว่าดีสำหรับการเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก

ปรับแล้วมีความสุขมั้ย?
มีความสุขมากขึ้น เพราะว่าเรายอมรับกับความจริงได้มากขึ้น อย่างที่เคยบอกไปว่าสุดท้ายแล้วเราไม่ได้ไปกำหนดกฎเกณฑ์ว่าเขาต้องมีเราคนเดียว นั่นคือท้ายที่สุดของเราแล้วนะ จะทำอะไรก็ได้เอาเลย เราเข้าใจสังคมของผู้ชายส่วนใหญ่ว่าน้อยมากที่จะมีผู้หญิงเพียงแค่คนเดียวโดยที่ไม่แอบมีกิ๊ก

ยอมถึงขั้นนั้น?
ถ้าเราไม่ยอมเราก็จะดึงดันกับมัน พอดึงกับมันไปเรื่อยๆ ชีวิตเราก็จะยิ่งทุกข์ แต่ถ้าเรายอมรับได้ว่าเรื่องนี้มันไม่ได้เกิดกับเราแค่คนเดียว รอบข้างเรามีผู้ชายตั้งหลายคนที่เป็นแบบนี้ แต่มันอยู่ที่ว่าข้อจำกัดของการที่ถ้าจะเป็นแบบนี้แล้วอยู่ร่วมกันยังไงให้มันมีความสุขทั้งสองฝ่าย เราทำทุกอย่างไม่ใช่เพื่อยื้อ แต่เพื่อประคับประคองให้ดีที่สุด ยอมให้เขามีโลกกี่ใบก็ได้

แต่สุดท้ายสิ่งที่เราตัดสินใจมันเหมือนแค่เส้นบาง ๆ ว่าเราขอแค่เส้นนี้ อย่าข้ามเข้ามาในเส้นของหนิง พอข้ามมาปุ๊บมันก็จะทำให้เราทุกข์แล้วนะ ถ้าทำให้หนิงทุกข์ก็คิดว่าอย่างนั้นไม่เอาดีกว่า

ณ วันนี้ให้สถานะเขาเป็นอะไร?
เขายังเป็นเพื่อนที่ดีของหนิงอยู่ แล้วก็ยังเป็นพ่อของน้องณิรินอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อให้เขาเป็นเพื่อนเราก็ย่อมจะมีความที่ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขา เราก็ยังเป็นคนหนึ่งที่หวังดีกับเขา แต่เขาจะคิดยังไงกับเรา อันนี้เราไม่ทราบจริง ๆ

ล่าสุดดูเหมือนว่าเขาจะมูฟออนแล้ว?
จริง ๆ เราทราบก่อนข่าวอีกค่ะ เราอยู่ในจุดนี้ทุกคนก็เอามาเล่าให้เราฟัง แต่ก็จะบอกว่ามันเป็นสิทธิ์ของเขา เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย เขาก็ควรที่จะได้มีความสุขในแบบของเขา แล้วสมมติถ้าเขามีความสุข ได้เจอคนดี ๆ เราก็จะดีใจกับเขาไปด้วย

เพราะอะไรเพราะลูกเราก็จะมีความสุขด้วย เราเองก็อาจจะมีโอกาสได้เจอคนดี ๆ แล้วถ้าต่างฝ่ายต่างเจอคนดีๆ แน่นอนก็ต้องมีความสุข แต่คนที่มีความสุขที่สุดคือลูกเรา ถ้าเขามีความสุขอาจเป็นเพื่อนที่ดีในอนาคตก็ใช่ ต้องยอมรับความจริง มันเป็นแบบนี้ไปแล้ว

เลือกที่จะเดินหน้าต่อ?
ใช่ค่ะ แค่อย่าทำอะไรบางอย่างให้มันเกิดปัญหาขึ้นกับหนิงเท่านั้นเอง กระทบหนิงไม่เป็นไร แต่อย่ากระทบลูก

ตอนนี้สิ่งที่ตกลงกันในวันที่เซ็นใบหย่า?
ยังไม่ได้มีอะไรเป็นไปตามนั้นเลยค่ะ แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่อย่างที่เราบอกว่าเราก็มีเส้นของตัวเอง แค่อย่าล้ำมาแล้วกัน ถ้าไม่ล้ำเราก็ยังพอรับได้ ส่วนว่ามีลิมิตมั้ยว่าจะถึงเมื่อไหร่ อันนี้หนิงขออนุญาตไม่ตอบแล้วกัน แต่เราก็มีเส้นของเราแหละ